"ดำรงค์ พิเดช"มือทวงคืนผืนป่าแห่งปี
แม้จะเกษียณอายุราชการไปแล้วเมื่อ 30 ก.ย.ที่ผ่านมา แต่ในช่วงเวลากว่า 1 ปีในตำแหน่ง ย่อมปฏิเสธไม่ได้ว่า “ดำรงค์ พิเดช” อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) ได้กลายเป็นสัญลักษณ์ของนักต่อสู้ทวงคืนผืนป่าจากการบุกรุกอย่างโดดเด่น
แม้จะเกษียณอายุราชการไปแล้วเมื่อ 30 ก.ย.ที่ผ่านมา แต่ในช่วงเวลากว่า 1 ปีในตำแหน่ง ย่อมปฏิเสธไม่ได้ว่า “ดำรงค์ พิเดช” อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) ได้กลายเป็นสัญลักษณ์ของนักต่อสู้ทวงคืนผืนป่าจากการบุกรุกอย่างโดดเด่น
1 ปีบนเก้าอี้อธิบดี ดำรงค์กลายเป็นสัญลักษณ์ของข้าราชการตงฉิน ผู้ดับเครื่องชนกับอิทธิพลทุกรูปแบบที่สบช่องกฎหมายเข้าไปแสวงหาประโยชน์ในพื้นที่ป่า
ดำรงค์เคยนั่งเก้าอี้นี้มาเมื่อ 6 พ.ย. 2548 ในสมัยรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ที่มี ยงยุทธ ติยะไพรัช นั่ง รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม แต่หลัง พ.ต.ท.ทักษิณ ถูกโค่นอำนาจเมื่อ 19 ก.ย. 2549 ดำรงค์ก็ถูกคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ เด้งไปประจำสำนักนายกรัฐมนตรี
เมื่อสถานการณ์บ้านเมืองเริ่มคลี่คลาย ก็ได้กลับไปเป็นรองปลัด ทส. แต่หลังจากพรรคเพื่อไทยกลับมาเป็นรัฐบาลอีกครั้ง เขาก็ได้มานั่งเก้าอี้อธิบดีกรมอุทยานฯ อีกรอบ
ย้อนดูปูมประวัติดำรงค์ หรือเด็กชายเอี้ยงในวัยเยาว์เป็นเด็กวัดจาก จ.อุทัยธานี ตัดสินใจเข้ากรุงเทพฯ เรียนต่อ ม.ศ.45 ที่โรงเรียนสันติราษฎร์บำรุง และสอบเอนทรานซ์ถึง 2 รอบ กว่าจะเข้าคณะวนศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ได้สมใจ
ดำรงค์รับราชการอยู่ภาคเหนือมาตลอดและมีโอกาสได้รู้จักกับ ยงยุทธ ทำให้อนาคตราชการสดใส เมื่อคนติดดาบไฟเขียว เขาจึงเดินหน้าลุยโดยไม่หวั่นเกรงใคร
การบุกจับกุมผู้บุกรุกพื้นที่เขตอุทยานแห่งชาติทับลาน เมื่อคืนวันที่ 27 ก.ค. 2555 ที่ดำรงค์ได้นำกำลังกว่า 4,000 นาย ลุยรีสอร์ตกลางดึก ถือเป็นปฏิบัติการครั้งประวัติศาสตร์ของหน่วยงาน เพราะได้เข้ารื้อถอนรีสอร์ตถึง 9 แห่ง บนพื้นที่ 1,857 ไร่
ในครั้งนั้นมีรีสอร์ตขนาดใหญ่ที่สุดในพื้นที่วังน้ำเขียวทับลาน รวมอยู่ด้วย นั่นคือ “บ้านทะเลหมอกรีสอร์ต” บนเนื้อที่ 70 ไร่ ของผู้ทรงอิทธิพลที่คุ้นเคยของคนในรัฐบาล
ระหว่างปฏิบัติการของเจ้าหน้าที่กรมอุทยานฯ ถูกกลุ่มคนขัดขวางการรื้อถอน รวมทั้งต่อมามีการร้องเรียนไปยังผู้นำรัฐบาลว่าพฤติการณ์ของอธิบดีไม่น่ารัก
ถัดมาจึงมีข่าวลือสะพัดว่า ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จะย้ายฟ้าผ่าดำรงค์ เพราะปฏิบัติงานไม่ดูตาม้าตาเรือ
ดาบที่ดำรงค์ไปฟาดฟันขบวนการเขมือบป่า ใช่ว่าเงื้อง่าสุ่มสี่สุ่มห้า แต่ดำรงค์ มี “ยงยุทธ” เป็น “นาย” ที่แบ็กอัพอยู่เบื้องหลัง ยงยุทธส่งสัญญาณอย่างไรไม่ทราบ แต่ก็ทำให้อารมณ์ของนายกฯ ยิ่งลักษณ์ ค่อยๆ ผ่อนเบาลง
ขณะเดียวกัน ระหว่างนั้นได้แรงหนุนจากสมาคมศิษย์เก่าคณะวนศาสตร์ มูลนิธิสืบนาคะเสถียร มูลนิธิเพื่อนช้าง สมาคมอุทยานแห่งชาติ และสถาบันสิ่งแวดล้อมไทย เครือข่ายการจัดการวิกฤตป่าไม้และน้ำ 15 องค์กร ที่ออกมาให้กำลังใจดำรงค์และสนับสนุนการปฏิบัติหน้าที่ต่อไป
ในที่สุดด้วยปัจจัยแวดล้อมที่เอื้อ ทำให้ดำรงค์สามารถรั้งตำแหน่งอธิบดีจนกระทั่งเกษียณราชการ และก็ฝากปรากฏการณ์ “ทับลานโมเดล” ไว้เป็นแบบอย่างการทำหน้าที่พิทักษ์ป่าทั่วประเทศ
ถัดจากทับลาน ดำรงค์ก็เดินหน้าลุยขึ้นเหนือล่องใต้ไม่สนหน้าอินทร์หน้าพรหม ปราบปรามไปทุกพื้นที่ ในที่สุดปัญหาการบุกรุกป่าที่สั่งสมมานานก็ดูจะคลี่คลายลง นายทุนทั้งหลายไม่กล้าเหิมเกริมเหมือนเช่นในอดีต
อย่างไรก็ดี ภายหลังเกษียณ ดำรงค์ยังคาใจเพราะมีการสั่งการ “ชะลอ” สิ่งที่เขาได้ดำเนินการเกือบทั้งหมด “ผมเตรียมไว้ให้หมดแล้ว รายใหญ่ๆ 10 กว่าราย วีไอพีทั้งนั้นก็จับให้หมด เหลืออีก 3,000 ไร่ ผมก็ให้ชุดเฉพาะกิจทั่วประเทศเข้าไปดำเนินการต่อ แต่ผมเกษียณมา 2 เดือน มีคำสั่งให้ชะลอทั้งหมด”
นั่นเป็นเหตุผลที่ดำรงค์ตัดสินใจตั้งพรรคการเมืองในนาม “พรรคทวงคืนผืนป่าไทย” ชูนโยบายทวงคืนผืนป่าสถานเดียว ซึ่งได้จดทะเบียนไปเมื่อวันที่ 12 ธ.ค.ที่ผ่านมา
วีรกรรมของดำรงค์ในบทบาทหนึ่งผ่านไปแล้ว รอบทบาทใหม่ในฐานะนักการเมืองว่าจะมุทะลุดุดันเช่นอดีตหรือไม่