จับร่างทรงต่างชาติค้าที่

เล็งส่งดีเอสไอฟันต่างชาติ ใช้นอมินีทำอสังหาฯค้าที่ดินร่วม 100 ราย

ผลการตรวจสอบสถานะบริษัทไทยที่มีคนต่างชาติถือหุ้นตาม พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ. 2542 ของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า พบว่าบริษัทที่มีคนต่างด้าวถือหุ้นไม่เกิน 49.99% แต่สุ่มเสี่ยงมีคนไทยถือหุ้นแทน (นอมินี) เกือบ 100 ราย ใน 2 จังหวัดใหญ่ของไทย คือ จ.ชลบุรี และประจวบคีรีขันธ์ โดยพบว่าคนต่างด้าวที่ถือหุ้นอยู่ในบริษัทนั้นมีอำนาจการบริหารมากกว่าคนไทยที่ถือหุ้นมากกว่า

ทั้งนี้ บริษัทที่ตรวจพบความผิดปกติใน 2 จังหวัดดังกล่าว ส่วนใหญ่ประกอบธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และค้าที่ดิน ซึ่งเป็นธุรกิจในบัญชีแนบท้ายของ พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว โดยบัญชี 1 เป็นธุรกิจที่ห้ามคนต่างชาติดำเนินการ บัญชี 2 ต้องขออนุญาตคณะรัฐมนตรี (ครม.) และบัญชี 3 ต้องขออนุญาตจากคณะกรรมการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าวถึงจะดำเนินการได้

นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รมช.พาณิชย์ กล่าวว่า จะแถลงผลตรวจสอบในวันนี้ (4 ก.พ.) และจะนำข้อมูลบริษัทกว่า 100 แห่งที่เข้าข่ายว่าคนไทยถือหุ้นแทนต่างชาติ ส่งให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ดำเนินการเอาผิดต่อไป

ขณะที่ธุรกิจในจังหวัดอื่นพบว่ามีการทำธุรกิจที่มีความเสี่ยง รวมแล้วมากกว่า 100 บริษัทขึ้นไป ซึ่งจะทยอยตรวจสอบต่อไป

สำหรับการประกอบธุรกิจตาม พ.ร.บ.คนต่างด้าวฯ ปัจจุบันมีต่างชาติเข้ามาประกอบกิจการประมาณ 3.2 หมื่นราย ในจำนวนนี้มี 5,000 ราย ที่ขออนุญาตถือหุ้นเกิน 50% ตามกฎหมายแล้ว ส่วนที่เหลืออีก 2.7 หมื่นราย มีต่างด้าวถือหุ้นสัดส่วนไม่เกิน 49% ซึ่งถือเป็นกลุ่มเสี่ยงอาจมีการถือหุ้นแทนได้