อารมณ์ของความขัดแย้ง

08 มีนาคม 2556

ในการจัดการความขัดแย้งในสังคมเพื่อหาทางออกที่ยอมรับได้ร่วมกัน ระหว่างคู่ขัดแย้งกลุ่มต่างๆ ที่แตกแยกกันอยู่ การพิจารณาต้นเหตุอันเป็นที่มาของความขัดแย้ง และผลเสียหายที่เกิดขึ้นตามมา เพื่อการเยียวยาหรือแก้ไข ย่อมเป็นกุญแจสำคัญที่จะช่วยคลี่คลายความขัดแย้งนั้นได้

ในการจัดการความขัดแย้งในสังคมเพื่อหาทางออกที่ยอมรับได้ร่วมกัน ระหว่างคู่ขัดแย้งกลุ่มต่างๆ ที่แตกแยกกันอยู่ การพิจารณาต้นเหตุอันเป็นที่มาของความขัดแย้ง และผลเสียหายที่เกิดขึ้นตามมา เพื่อการเยียวยาหรือแก้ไข ย่อมเป็นกุญแจสำคัญที่จะช่วยคลี่คลายความขัดแย้งนั้นได้

อย่างไรก็ดี การเมืองประชาธิปไตยสำหรับแก้ไขไกล่เกลี่ยความขัดแย้งในสังคม ไม่อาจมองข้ามอีกด้านหนึ่งของความขัดแย้ง ที่แม้ว่าจะเป็นด้านที่ไม่เกี่ยวกับข้อเท็จจริง เหตุผล และการคิดในเชิงอรรถประโยชน์โดยตรง แต่ก็เป็นมิติซึ่งสามารถส่งผลต่อพลวัตความขัดแย้งได้อย่างมีนัยสำคัญ อันได้แก่ ด้านที่เป็นอารมณ์ความรู้สึก

อารมณ์ความรู้สึกของความขัดแย้งมีความสัมพันธ์โดยตรงกับการมีอคติที่จำหลักอยู่ในสายตา ในการรับฟัง ในความคิด และในความรู้สึก ที่ฝ่ายหนึ่งมีเกี่ยวกับอีกฝ่ายหนึ่ง

อคติที่มาจากการบ่มเพาะให้เกิด ความกลัว ความหวาดระแวง ความเกลียด และความโกรธ อคติที่ก่อให้เกิดและเป็นผลของการตั้งแง่ การหลงลำเอียง การด่วนสรุปแบบเหมารวม การนิ่งเฉยมองข้าม หรือการขยายผลซ้ำเติม

อคติที่ทำให้แต่ละฝ่ายปักป้ายคาดหน้าตราชื่ออีกฝ่ายหนึ่ง ยึดมั่นถือมั่นไว้ในความคิดเห็นของฝ่ายตน ซึ่งอาจมีส่วนถูก แต่ก็ไม่พร้อมจะเผื่อใจไว้ว่าอาจมีส่วนผิด จึงไม่ยอมรับฟังความเห็น หรือแม้กระทั่งไม่ยอมรับเหตุผลของการดำรงอยู่ของฝ่ายอื่นที่ตนเห็นว่าเป็นฝ่ายตรงข้าม

อีกทั้งไม่เห็นว่าเหนือขึ้นไปจากความจริงและบรรทัดฐานแห่งความถูกต้องด้านที่ตัวเองจับไว้มั่นนั้น อาจมีส่วนอื่นๆ อีกที่สามารถแลเห็นได้ จับต้องได้ ถ้าเพียงแต่จะยอมเดินออกจากจุดยืนของตนเพื่ออ้อมมาดูในมุมของอีกฝ่ายหนึ่ง อันอาจจะเปิดให้เห็นว่า แต่ละฝ่ายเป็นเงื่อนไขของกันและกันอยู่อย่างไร หรือทุกฝ่ายต่างเป็นฟันเฟืองส่วนหนึ่งที่ถูกหมุนให้มาขบกันด้วยปัญหาที่มีโครงสร้างใหญ่กว่าที่แต่ละฝ่ายเคยคิดเคยเข้าใจ

ยิ่งถ้าปล่อยให้ความขัดแย้งนั้นดำเนินมายาวนาน เข้มข้น และก่อให้เกิดความรุนแรงยิ่งขึ้นเพียงใด ก็ยิ่งกระพืออคติที่จะนำไปสู่การตั้งแง่ การมองด้วยมโนภาพแบบเหมารวม ไปจนกระทั่งลดทอนความเป็นมนุษย์ของอีกฝ่ายหนึ่งมากยิ่งขึ้นเพียงนั้น และปฏิกิริยาที่อคติแต่ละฝ่ายตอบโต้และย้ำมโนภาพเหมารวมนั้นให้แก่กัน ก็ยิ่งพิมพ์ประทับแน่นลงในใจแต่ละฝ่ายที่จะปิดแคบลง เอื้อให้ใช้ความรุนแรงต่อกันได้ง่ายขึ้น และทำให้ความขัดแย้งยิ่งยากแก่การแก้ไข

หรือแม้แต่เมื่อความขัดแย้งรอบนั้นได้รับการระงับให้ยุติลง แต่อคติที่ทิ้งรอยไว้ในใจและเป็นมิติที่จัดการให้หายไปได้ยากกว่า ก็พร้อมจะหวนคืนกลับมาทำงานของมันอยู่ต่อไปได้อีกเรื่อยๆ และอาจปรากฏในรูปแบบที่เก็บงำอาการแสดงออกของมันได้มิดชิดหรือซ่อนลึกขึ้น แต่ยังคงแทรกแซงการใช้เหตุผล และกางกั้นความสัมพันธ์ระหว่างกันไว้ได้เสมอไป

การทำงานของการเมืองประชาธิปไตยที่เปิดโอกาสให้ความขัดแย้งระหว่างฝ่ายต่างๆ ได้มาประจันกันในสังคมการเมืองจึงต้องการเงื่อนไขหลายอย่างที่ช่วยให้อคติของคนในสังคมไม่สร้างปัญหาจนเกินไป จนทำให้การจัดการความขัดแย้งที่สมเหตุสมผลในกระบวนการประชาธิปไตยไม่อาจเกิดขึ้นได้ เพราะถูกกลบไว้ด้วยอารมณ์ความรู้สึกด้านลบที่บ่มเพาะด้วยวิธีคิดของมนุษย์ในสังคมสมัยใหม่

เมื่อมนุษย์ในสังคมสมัยใหม่เลิกเชื่อว่าความเป็นไปของตนในสังคมเป็นสิ่งที่ถูกลิขิตมาแล้วโดยอำนาจเหนือโลกที่ไม่อาจขัดขืนเปลี่ยนแปลง แต่อันที่จริงล้วนเป็นสิ่งที่กำหนดโดยมนุษย์ด้วยกันเอง ความทุกข์ยากสูญเสียหรือความรุนแรงที่ตนได้รับจึงมิใช่เพราะความโชคร้าย แต่เป็นสิ่งที่คนอื่นหยิบยื่นให้ ในความเจ็บปวดนั้นจึงเจืออยู่ด้วยความรู้สึกถึงความไม่เป็นธรรม การผูกใจคุมแค้น หรือความขมขื่นของการตกเป็นผู้ถูกกระทำ อันเป็นความรู้สึกที่ต่อให้ได้รับการชดเชยเยียวยาก็อาจไม่พอที่จะไถ่ถอนได้ จนกว่าจะได้สนองคืนให้คนที่เคยเป็นผู้กระทำต้องตกเป็นฝ่ายถูกกระทำบ้าง

การยอมรับชะตากรรมเป็นสิ่งที่ทำใจรับได้ง่ายกว่าการยอมรับความไม่เป็นธรรม เพราะอย่างแรกยังพอมีความหวังหลงเหลืออยู่เสมอ แต่อย่างหลังจะจำยอมได้ก็ต่อเมื่อเขาเหลือแต่เพียงความจำนนของคนสิ้นหวังเท่านั้น และเมื่อมนุษย์ส่วนใหญ่เลิกเชื่อในการกำหนดของชะตากรรมเสียแล้ว มนุษย์ก็มองหาผู้ต้องมารับผิดชอบต่อสิ่งที่เกิดขึ้นแก่เขาในหมู่พวกเขาเอง

ความขัดแย้งจึงอาจจะไม่สามารถแก้ไขได้ด้วยเหตุผล เพราะอารมณ์ความรู้สึกนี้เอง ที่อาจเป็นตัวขับเคลื่อนทั้งการใช้เหตุผล การพิจารณาข้อเท็จจริง และการไล่ล่าหาผู้รับผิดชอบ

แทนการใช้เหตุผล อารมณ์ของความขัดแย้งสามารถก้าวข้ามไปได้ด้วยการยังให้เกิดความรู้สึกอีกแบบหนึ่งขึ้นมา นั่นคือ ความหวัง และการทำให้คนเชื่อว่าความหวังนั้นบรรลุได้ และเขาทั้งหลายกำลังเดินหน้ามุ่งไปสู่การบรรลุนั้น

Thailand Web Stat