พระราชปณิธาน
.....ณ กาฬ เลาหะวิไลย
“ตั้งใจจะอุปถัมภก ยอยกพระศาสนา จะป้องกันขอบขัณฑสีมา รักษาประชาชนแลมนตรี”
บทพระราชนิพนธ์ข้างต้น กำเนิดขึ้นหลังพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช เสด็จไปทรงบัญชาการศึกเพื่อขับไล่ข้าศึกในสงคราม 9 ทัพ และได้ทรงพระราชนิพนธ์กลอน เพลงยาวนิราศรบพม่าที่ท่าดินแดง ตอนหนึ่งในกลอนเพลงยาวดังกล่าวพระองค์ทรงแสดงพระราชปณิธานในการปกครองประเทศให้เห็นอย่างชัดเจน อันจะทรงอุปถัมภกหรือทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา ป้องกันบ้านเมือง ทำให้ราษฎรและขุนนางทั้งหลายร่มเย็นเป็นสุข
สงคราม 9 ทัพ เป็นสงครามใหญ่ครั้งแรกภายหลังพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช สถาปนากรุงรัตนโกสินทร์ได้เพียง 3 ปี ในสงครามนี้ข้าศึกได้ยกกำลังพลประมาณ 1.44 แสนคน เพื่อพิชิตไทยให้ได้
ถ้าเราพ่ายแพ้ก็ยากที่จะฟื้นตัวขึ้นมาได้อีก ดังนั้นสงครามครั้งนี้จึงมีความสำคัญมากต่ออนาคตของเมืองไทย
สงคราม 9 ทัพเรียกตามจำนวนกองทัพที่พระเจ้าปะดุง กษัตริย์พม่า จัดแบ่งกำลังทหารเป็น 9 ทัพ เพื่อมาโจมตีไทยโดยทัพที่ 1 โจมตีทางปักษ์ใต้ ทัพที่ 2โจมตีเมืองราชบุรีลงไปทางใต้ ทัพที่ 3 โจมตีลำปางและหัวเมืองฝ่ายเหนือลงมา ทัพที่ 4 ถึงทัพที่ 8 มุ่งโจมตีกรุงเทพฯ โดยยกมาทางด่านพระเจดีย์สามองค์ พระเจ้าปะดุงเป็นแม่ทัพคุมทัพที่ 8 ซึ่งเป็นทัพหลวง และทัพที่ 9 โจมตีเมืองตาก กำแพงเพชรลงมา
แผนการรบของพระเจ้าปะดุง คือ โจมตีไทยทางเหนือ ทางตะวันตกและทางใต้พร้อมกัน โดยมีเป้าหมายหลักคือ กรุงเทพฯ ให้ทัพที่ 3 และทัพที่ 2 ยกมาบรรจบกับทัพที่ 4 ถึงทัพที่ 8 เพื่อโจมตีกรุงเทพฯ
เมื่อพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชทรงทราบข่าวศึก จึงทรงปรึกษาวางแผนการต่อต้านข้าศึกและรวมไพร่พลได้ประมาณ 7 หมื่นคน ซึ่งน้อยกว่ากำลังพลของพม่า แต่ก็มีประสบการณ์และความกล้าหาญ อีกทั้งมีแม่ทัพที่ทรงพระปรีชาสามารถ คือ พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช และสมเด็จพระอนุชาธิราช คือ สมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาสุรสิงหนาท ยกทัพออกไปสู้แทนการตั้งรับ
ชัยชนะจากสงคราม 9 ทัพ ทำให้บ้านเมืองปลอดจากภัยสงครามมานานแสนนาน
วันนี้ตรงกับวันจักรี เป็นวันที่ระลึกถึงพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช เสด็จปราบดาภิเษกขึ้นครองราชย์เป็นกษัตริย์เป็นกษัตริย์แห่งราชวงศ์จักรี และทรงสร้างกรุงเทพฯ เป็นเมืองหลวงของไทยมาจนทุกวันนี้ ก็อยากนำเอาพระราชปณิธานแห่งปฐมบรมกษัตริย์มาเตือนสติ รำลึกกันให้ดี
อำนาจที่แท้จริงไม่ใช่อำนาจการเมืองที่แย่งชิงกัน แต่เป็นอำนาจที่ทำเพื่อปวงประชาราษฎร์ต่างหาก
ใครหน้าไหน ผู้ดีขี้ข้าไพร่ตนใดทำบ้านเมืองเดือดร้อนเพราะการแย่งชิงอำนาจ
มันผู้นั้นรับรองวิบัติฉิบหายแน่นอน