มึนงง!สร้างสำนักงบแห่งใหม่ย่านทำเลทอง?
ส่องที่ประชุมครม.23เม.ย.พบวาระ ที่ฝ่ายบันทึกเวลาสรุปว่าคุยนานพิเศษเป็นวาระ"การจัดสร้างสำนักงบประมาณแห่งใหม่"
โดย....ทีมข่าวการเมือง
การประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 23 เม.ย. ที่ผ่านมา วาระที่ครม. หารือกันนานพิเศษ หาใช่การประชุมลับนอกวาระ เกี่ยวกับการจัดทำรายงานเส้นพิกัดพื้นที่พิพาทประสาทพระวิหาร เพื่อส่งให้ศาลโลกในวันที่ 26 เม.ย. เพราะหารือกันแค่ 15 นาที ก็ปิดประชุม
หรือหาใช่การถกวาระ ร่างพ.ร.บ.กรอบงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2557 ซึ่งครม.อภิปรายหนักไปทางการจัดสรรงบให้องค์กรอิสระมากเกินความจำเป็น ก็ใช้เวลาพูดคุยไม่มากนัก
หากแต่วาระ ที่ฝ่ายบันทึกเวลาสรุปว่าคุยนานพิเศษ กลับเป็นวาระ การจัดสร้างสำนักงบประมาณแห่งใหม่
ถึงขั้นที่ นายกฯยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ออกตัวถามไถ่ อำพน กิตติอำพน เลขาธิการ ครม.ในที่ประชุมครม. ว่าวาระดังกล่าวจะพิจารณาหรือยัง ทั้งที่เป็นวาระการจัดสร้างสำนักงบประมาณแห่งใหม่ก็จัดลำดับตามวาระปกติอยู่แท้ๆแต่ยิ่งลักษณ์ก็แสดงความร้อนรนชนิดที่ คนในครม.สัมผัสได้ถึงอาการผิดปกติ
น่าสนใจ ทำไมถกเถียงยาวนาน ใครอภิปรายแสดงเหตุผลอย่างไร มีอะไรซ่อนอยู่ภายใน
วาระดังกล่าวเกิดขึ้นจากสำนักนายกรัฐมนตรี โดย วราเทพ รัตนากร รมต.สำนักงบในฐานะกำกับดูแลสำนักงบประมาณ ลงนามเสนอขออนุมัติงบประมาณจัดสร้างสำนักงบประมาณแห่งใหม่
หากมองจากลักษณะทางกายภาพของสำนักงบประมาณปัจจุบัน ตั้งอยู่ในซอยอารีย์ภายในอาณาบริเวณกระทรวงการคลัง ตรงนี้เป็นเพราะโครงสร้างราชการดั้งเดิมที่เคยกำหนดให้สำนักงบประมาณสังกัดกระทรวงการคลัง การจัดสร้างอาคารราชการจึงความเกาะเกี่ยวกันตั้งแต่นั้นมา
แต่โครงสร้างราชการตอนหลัง ได้แยกสำนักงบประมาณอยู่ภายใต้กำกับดูแลของสำนักนายกรัฐมนตรี สภาพของการทำงานราชการต้องมีการขยายตัว การเปลี่ยนแปลงย่อมเกิดขึ้นได้เสมอ จึงไม่แปลกที่หน่วยงานที่จัดสรรภาษีประชาชนไปบริหารประเทศจำเป็นต้องขยับขยาย
ข้อเสนอส่งผ่านครม.ด้วยการขอเสนอกรอบวงเงิน 1,100 ล้านบาท ก่อสร้างอาคารสำนักงบประมาณแห่งใหม่ โดยขอใช้พื้นที่ราชพัสดุจำนวน 5 ไร่ บริเวณ พหลโยธินซอย 3 ซึ่งเป็นพื้นที่เดิมของบรรษัทบริหารสินทรัพย์แห่งประเทศไทย (บสท.)
รูปแบบเบื้องต้นเป็นการสร้างอาคารสูง 23 ชั้น โดยจะจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปี 57 ดำเนินการไปก่อน วงเงิน 220 กว่าล้านบาท ส่วนที่เหลือเบิกจ่ายในงบประมาณปี 58และ 59 หลังการชี้แจงกรอบวงเงินเสร็จสิ้น การอภิปรายจึงเกิดขึ้นมีมุมมองแบ่งเป็นสองทาง
วราเทพ รัตนากร รมต.สำนักนายกฯ ตั้งข้อสังเกต "ทำไมการสร้างสถานที่ราชการแห่งใหม่ ไม่ออกไปนอกเมือง แต่กลับมาตั้งอยู่บริเวณย่านการค้า แออัด ควรใช้พื้นที่ดังกล่าวทำประโยชน์อื่นในอนาคตดีกว่า"
ขณะที่กิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกฯและรมว.คลัง เห็นว่า สาเหตุที่ต้องสร้างสำนักงบประมาณแห่งใหม่ บริเวณพื้นที่ดังกล่าว ต้องคำนึงถึงภารกิจในหลายมิติ ไม่ใช่แต่การให้บริการส่วนราชการด้วยกันเอง แต่ภารกิจสำนักงบฯยังต้องบริการข้อมูลประชาชน ภาคเอกชน การตั้งอยู่ในพื้นที่ดังกล่าวจึงมีความเหมาะสม
ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า หากตัดสินใจให้สร้างบริเวณพื้นที่ดังกล่าว อยากให้ออกแบบพื้นที่ชั้นล่าง เป็นสถานที่จำหน่ายสินค้าโอท็อป เพราะอยู่ในพื้นที่ย่านการค้า ขณะที่กิตติรัตน์ กล่าวเสริมว่า เป็นไปได้อาจมีการสร้างห้องสมุดประชาชนด้วย
ในที่สุดครม.เห็นชอบอนุมัติกรอบวงเงินก่อสร้างสำนักงบประมาณแห่งใหม่ พร้อมกับให้บันทึกท้ายรายงานการประชุมว่า หากเห็นว่ามีสถานที่อื่นเหมาะสมก็ขอให้นำมาพิจารณา ภายใต้งบประมาณที่อนุมัติ
ทั้งนี้ พื้นที่สร้างสำนักงบประมาณแห่งใหม่ เป็นที่ทราบกันดีในหมู่ผู้คนละแวกนั้น อยู่บนพื้นที่ทำเลทอง มีการตั้งร้านรวงจับจ่ายใช้สอย ขณะที่การคมนาคมแม้มีเส้นทางรถไฟฟ้าพาดผ่านแต่สภาพการจราจรติดขัดขนาดหนัก
อย่างไรก็ตาม หากมองโลเกชั่นโดยรอบ อาคารสำนักงบประมาณสูง 23 ชั้นในอนาคต จะตั้งตระหง่านเคียงข้างอาคารสูงมีชื่อภาคธุรกิจหลายแห่ง ซึ่งดูจะสอดคล้องกับที่กิตติรัตน์ให้เหตุผลการสร้างสำนักงบประมาณแห่งใหม่ยังต้องอยู่บริเวณนี้เพื่อบริการข้อมูลให้ภาคเอกชน
อย่างน้อยบริเวณนั้นก็มีอาคารชินวัตรตั้งอยู่ด้วย