รวบแล้วโจรงัดตู้เอทีเอ็มกรุงไทยศรีสะเกษ

17 พฤษภาคม 2556

ตำรวจชุดสืบสวนรวบคนร้ายงัดเอทีเอ็มธนาคารกรุงไทยเบญจลักษ์ สารภาพร่วมลงมือ 6 คน ยึดเงินคืนได้กว่า 2 ล้านบาท

ตำรวจชุดสืบสวนรวบคนร้ายงัดเอทีเอ็มธนาคารกรุงไทยเบญจลักษ์ สารภาพร่วมลงมือ 6 คน ยึดเงินคืนได้กว่า 2 ล้านบาท

ตำรวจภูธรภาค 3 พร้อมด้วยกำลังเจ้าหน้าที่ร่วม 50 นาย  นำตัวนายวารุต  ทองหยาด  อายุ 33 ปี นายพิทักษ์ หรือบ่าว หับลั่น อายุ 34 ปี นางสาวจันทร์เพ็ญ  แสนทวีสุข  อายุ 27 ปี และนางจีรภา  สมคะเนย์  อายุ 35 ปี  ผู้ต้องหาคดีงัดตู้เอทีเอ็มของธนาคารกรุงไทยขโมยเงินสดในตู้ไปได้ 4,945,000 บาท  เมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม 2556 ที่ผ่านมา ไปชี้ที่เกิดเหตุทำแผนประกอบคำรับสารภาพ บริเวณหน้าที่ว่าการอำเภอเบญจลักษ์  จังหวัดศรีสะเกษท่ามกลางประชาชนที่ทราบข่าวมามุงดูการทำแผนร่วม 300 คน

พลตำรวจโท เชิด  ชูเวช  ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 กล่าวว่า หลังจากได้รับรายงานว่ามีเหตุดังกล่าวเกิดขึ้น ตนจังได้จัดชุดสืบสวนขึ้นมาโดยมอบหมายให้  พลตำรวจตรี สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข  ผู้บังคับการสืบสวนตำรวจภูธรภาค 3 เป็นหัวหน้าชุด ร่วมกับชุดสืบสวนภูธรจังหวัดศรีสะเกษและชุดสืบสวนตำรวจภูธรเบญจลักษ์ ทำการสืบสวนติดตามคนร้าย  จนกระทั่งทราบว่าผู้ต้องทั้ง 4 คน พร้อมพวกเป็นคนร้ายที่ลงมือก่อเหตุในครั้งนี้ จึงได้ขออนุมัติศาลจังหวัดกันทรลักษ์ออกหมายจับ และสามารถติดตามจับกุมนายวารุตกับนางจีรภาได้ที่ห้องพักจินเจินรีสอร์ท อำเภอละหานทราย  จังหวัดบุรีรัมย์ พร้อมรถยนต์กระบะอีซูซุ รุ่นดีแม็กซ์  หมายเลขทะเบียน บบ 1156 ชุมพร  โทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง

ต่อมาติดตามจับกุมนายพิทักษ์หรือบ่าวและนางสาวจันทร์เพ็ญได้ที่ถนนสาสระแก้ว-จันทบุรี อำเภอเขาฉกรรจ์  จังหวัดสระแก้ว  จับได้พร้อมรถยนต์เก๋งยี่ห้อฮอนด้า รุ่นแจ๊ส  หมายเลขทะเบียน  กน 8267 สุราษฎร์ธานี  สมุดเงินฝากธนาคาร 2 เล่ม  มียอดเงินรวมประมาณ 600,000 บาท  ทองรูปพรรณ 9 รายการ  รวมน้ำหนัก 22 บาท  โทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง

ผู้ต้องทั้ง 4 คนรับสารภาพว่า  ได้ร่วมกับพวกอีก 2 คนที่ยังหลบหนี ทราบเพียงชื่อเล่นว่า  นายพัน และนายมน  ไม่ทราบชื่อและนามสกุลจริง ทำการงัดตู้เอทีเอ็มธนาคารกรุงไทยขโมยเงินไปจริง โดยใช้แก๊สเผาฝาตู้ด้านหลัง เจ้าหน้าที่จึงได้นำตัวไปชี้ที่เกิดเหตุทำแผนประกอบคำรับสารภาพ การทำแผนจุดแรกที่คนร้ายเข้าไปตัดฝาตู้เอทีเอ็มด้านหลัง ขโมยกล่องบรรจุธนบัตรออกมานำเงินออก จุดที่สองเป็นจุดที่นำกล่องบรรจุเงินไปทิ้งซึ่งอยู่ในป่าหญ้าที่รกร้างห่างจากจุดตู้เอทีเอ็มประมาณ 300 เมตร  และจุดที่สามที่บริเวณอ่างเก็บห้วยตามาย  บนทางหลวงหมายเลข 24 ถนนสายโชคชัย-เดชอุดม  ซึ่งผู้ต้องหารับว่านำถังแก๊สพร้อมหัวพ่นไฟไปทิ้ง การทำแผนใช้เวลาประมาณ 40 นาที  จึงแล้วเสร็จ จากนั้นจึงนำตัวผู้ต้องหาทั้งสี่คนไปควบคุมตัวอยูที่ห้องควบคุมสถานีตำรวจภูธรเบญจลักษ์ และจะได้ติดตามตัวคนร้ายที่ยังหลบหนีมาดำเนินคดีต่อไป

Thailand Web Stat