รู้จักแม่บิ๊กแจ๊ด"ครูจงกล ธูปกระจ่าง"

โดย...ทีมข่าวในประเทศ

“ผมคุยกับแม่ของผม ซึ่งเป็นครูสอนจริยธรรม เรื่องนี้ผมรู้ดี ทำไมจะไม่รู้เรื่องจริยธรรมว่าหมายถึงอะไร ผมก้าวมาในตำแหน่งนี้ไม่เคยมีทุจริตคอร์รัปชั่น ไม่ได้วิ่งเต้นซื้อตำแหน่งเข้ามา ดังนั้น ผมรู้ดีว่าผมทำอะไร”

คำแถลงเปิดใจของ “บิ๊กแจ๊ด” พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) ตอนหนึ่ง หลังถูกผู้ตรวจการแผ่นดินยื่นเรื่องต่อผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ให้ตรวจสอบความเหมาะสมในด้านจริยธรรมที่ไปให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งมีอีกสถานะหนึ่งเป็นนักโทษหนีคดีประดับยศให้ที่ฮ่องกง จนเป็นที่มาของวลี “มีวันนี้เพราะพี่ให้”

ข้อความข้างต้นที่ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ เอ่ยถึง “แม่” ของตนเอง ทำให้หลายคนสงสัยว่า แม่ของ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ เป็นใคร และมีบทบาทอย่างไรกับชีวิตของนายตำรวจที่ชื่อ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง

คุณแม่ของ “บิ๊กแจ๊ด” ชื่อว่า จงกล ธูปกระจ่าง ปัจจุบันอายุ 87 ปี สมรสกับมงคล ธูปกระจ่าง มีบุตรรวม 3 คน คือ จตุรงค์ ธูปกระจ่าง พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง และอิทธิพร ธูปกระจ่าง คุณแม่จงกล เป็นอดีตข้าราชการครู สอนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4-6 ที่โรงเรียนปทุมวิไล ที่ ต.บางปรอก อ.เมือง จ.ปทุมธานี โดยสอนในสองวิชาคือ ภาษาไทย และจริยธรรม โดยเกษียณอายุราชการไปตั้งแต่ปี 2529

ทองสุข หัตถกิจ อาจารย์วิชาคอมพิวเตอร์ โรงเรียนปทุมวิไล เคยเป็นลูกศิษย์อดีตครูจงกล บอกว่า คุณแม่จงกลถือเป็นบุคลากรที่สำคัญของทางโรงเรียน เนื่องจากเป็นคนที่ชอบช่วยเหลือสนับสนุนกิจกรรมต่างๆ เมื่อโรงเรียนร้องขอให้ช่วยเหลืองาน คุณแม่จงกลไม่เคยปฏิเสธแม้แต่ครั้งเดียว และยังมีมูลนิธิที่คอยให้เงินช่วยเหลือค่าเล่าเรียนนักเรียนอีกด้วย

“เท่าที่ได้รู้จักและสัมผัสมา คุณแม่จงกลมีความรู้ความสามารถด้านการแต่งกลอนมาก ท่านเห็นอะไรท่านก็บันทึกเอาไว้เป็นบทกลอน บางครั้งเขียนไว้ก็นำไปใส่กรอบและมามอบให้โรงเรียนเป็นที่ระลึก”

อาจารย์ทองสุข เล่าอีกว่า ด้วยความที่คุณแม่จงกลเป็นคนดี ทำให้มีลูกศิษย์ลูกหาเคารพนับถือรักใคร่จำนวนมาก และทางกลับกันถึงแม้ท่านจะเกษียณไปแล้ว แต่ก็ยังมีลูกศิษย์ที่แวะเวียนไปเยี่ยมท่าน เทศกาลสงกรานต์ก็พากันไปรดน้ำดำหัว และท่านก็จะอบรมให้พรเหมือนกับว่าท่านยังเป็นครู และลูกศิษย์ของท่านก็เหมือนลูกที่ยังเป็นห่วงอยู่เสมอ

“ถึงเวลาครบรอบวันเกิด หรืองานที่โรงเรียนปทุมวิไลจัด ก็จะเชิญท่านมาร่วมงานด้วย ลูกศิษย์ก็ไปเคารพกันเป็นประจำ”

อีกทั้งคุณแม่จงกลในภาพที่อาจารย์ทองสุขเห็น เปรียบเสมือนจุดศูนย์รวมของโรงเรียนก็ว่าได้ เพราะหากมีชื่อคุณแม่จงกลมาร่วมงาน จะยิ่งทำให้งานนั้นยิ่งใหญ่และมีคนมาร่วมงานจำนวนมาก

“ท่านให้ความร่วมมือดี ท่านชอบทำบุญช่วยเหลือคนอื่น เช่น หากโรงเรียนต้องการระดมทุน หรือทำบุญทอดผ้าป่า หากมีท่านมาด้วยก็จะยิ่งทำให้ได้เงินมากขึ้น เสมือนท่านเป็นแม่เหล็กแม่แรงหลักในการช่วยเหลือระดมทุน ท่านก็เหมือนศิษย์เก่าของโรงเรียนคนหนึ่ง เพราะถึงแม้จะไม่ได้เรียน แต่ท่านก็ประสิทธิ์ประสาทวิชาให้นักเรียนมาหลายรุ่น ทำให้มีความรักใคร่”

อาจารย์ทองสุข ย้ำหนักแน่นว่า ทุกคนในโรงเรียนนับถือและเคารพคุณแม่จงกลมาก และยกให้เป็นบุคคลตัวอย่างของโรงเรียนอีกด้วย แต่สิ่งที่ห่วงคือเรื่องสุขภาพ เพราะคุณแม่จงกลเพิ่งเข้าผ่าตัดก้อนเนื้อที่โรงพยาบาลเมื่อไม่กี่วันก่อน และยังมีโรคประจำตัวคือโรคหัวใจอีกด้วย ก็อยากให้รักษาสุขภาพ

โพสต์ทูเดย์เคยได้สัมภาษณ์ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ครั้งเข้ารับตำแหน่ง ผบช.น. ในช่วงแรก เคยเล่าไว้ว่า “แม่ของผมสอนตั้งแต่เข้ารับราชการใหม่ๆ แล้วว่า เป็นตำรวจต้องดูแลทุกข์สุขประชาชนเป็นสำคัญ ทำให้เขามีความปลอดภัย อย่าไปยุ่งวุ่นวายกับหัวโขนหรือยศถาบรรดาศักดิ์ ต้องทำหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายให้ดีที่สุด และคำพูดคำสอนของบุพการี คือ สิ่งที่ผมยึดถือไว้เสมอมา”