ตำรวจใช้กำลัง3พันนายคุมพื้นที่ตามกม.มั่นคง

ตำรวจพร้อมปฎิบัติการตามพ.ร.บ.มั่นคงหลังรัฐบาลประกาศใช้บังคับในพื้นที่3เขตของกทม.เพื่อคุมม็อบ

พล.ต.ต.ปริญญา จันทร์สุริยา รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจมีความพร้อมหมดแล้ว สำหรับการปฎิบัติตามพ.ร.บ.ความมั่นคงหลังรัฐบาลมีการประกาศใช้บังคับในพื้นที่3เขตของกทม. ประกอบด้วยเขตดุสิต พระนคร และป้อมปราบศัตรูพ่าย ตั้งแต่วันที่ 1 - 10 ส.ค. ทั้งกำลังและแผนปฏิบัติการ เพียงรอรับคำสั่ง ไปจนถึงช่วงวันที่ 4 ส.ค.ที่คาดว่าจะมีการชุมนุมของกลุ่มต่างๆ

เจ้าหน้าที่ตำรวจจะเน้นการรักษาพื้นที่ อาคารสถานที่ บุคคลสำคัญ และป้องกันเหตุร้ายวุ่นวายต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้น ส่วนจะใช้กำลังเท่าไร ก็จะประเมินจากทางกลุ่มผู้ชุมนุมให้เพียงพอที่จะรักษาความสงบได้ ส่วนผู้ชุมนุมต้องดูการข่าววันต่อวัน ขณะการข่าวยังไม่ชัดเจนว่ามียอดเท่าไร และยังไม่พบข่าวเหตุรุนแรง

ส่วนการการประกาศใช้  พ.ร.บ.ความมั่นคง คือ การประกาศให้พื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่ควบคุม ห้ามเข้าเขตหวงห้าม ยืนยันว่า ไม่ใช้อาวุธในการดูแลผู้ชุมนุม มีเพียงโล่ กระบอง อุปกรณ์ฉีดน้ำ โดยจะเสริมกำลังทั้งด้านนอก และด้านในทำเนียบ รัฐสภา ส่วนบ้านบุคคลสำคัญ ก็เพิ่มกำลังสายตรวจคอยสอดส่องดูแล.

เมื่อกลางดึกคืนที่ผ่านมา พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เรียกประชุมเจ้าหน้าที่ ที่เกี่ยวข้องในการเตรียมความพร้อมดูเเลการชุมนุมของกลุ่มต่าง ๆ ที่จะมาชุมนุม หลังการเปิดประชุมสภาสมัยสามัญ ในวันที่ 1 ส.ค.นี้

พล.ต.ท.คำรณวิทย์ กล่าวว่า กองบัญชาการตำรวจนครบาล ได้จัดกำลังทั้งหมด 20 กองร้อย หรือ 3,000 นาย กระจายกำลังดูเเลจุดสำคัญทุกจุด โดยจะมีการปรับรูปแบบการทำงานให้สอดคล้องกับกฎหมายม เบื้องต้น ไม่มีการกำหนดเเผนเป็นพิเศษ เเต่จะยึดหลักการเจรจา โดยอยากให้เเกนนำกลุ่มต่าง ๆ มาพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ ซึ่งพร้อมให้ความเป็นธรรมและดูเเลความสงบเรียบร้อย ในส่วนของผู้ชุมนุมที่ปักหลักอยู่ในพื้นที่ ที่ประกาศใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคง จะต้องออกจากพื้นที่ ไม่ว่าจะเป็นกลุ่ม หรือสีใดก็ตาม เพื่อให้กฎหมายคงความศักดิ์สิทธิ์

ทั้งนี้ ไม่รู้สึกหนักใจ หลังมีการประกาศใช้ พ.ร.บ.ดังกล่าว  เพราะเชื่อว่าทุกฝ่ายหวังดีต่อประเทศชาติ ซึ่งหากมีการชุมนุมเกิดขึ้น สิ่งที่เสียหาย คือผลกระทบด้านการท่องเที่ยว

อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่า มีความกังวลเรื่องของมือที่ 3 ที่จะสร้างสถานการณ์ เพื่อใส่ร้ายฝ่ายตรงข้าม พร้อมย้ำว่า กลุ่มผุ้ชุมนุม ที่จะออกมาเคลื่อนไหว ต้องเป็นการสงบปราศจากอาวุธ เเละอยู่ภายใต้กรอบของกฎหมาย โดยจะต้องไม่มีการบุก หรือลุกล้ำสถานที่ราชการอย่างเด็ดขาด