แม่น้ำเจ้าพระยาเอ่อท่วมสองฝั่งปทุมฯ
น้ำเจ้าพระยาเอ่อล้นท่วมพื้นที่ริมฝั่งปทุมธานี ขณะที่คลองรังสิตระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง ขณะที่เขื่อนเจ้าพระยาระบายน้ำเพิ่ม
น้ำเจ้าพระยาเอ่อล้นท่วมพื้นที่ริมฝั่งปทุมธานี ขณะที่คลองรังสิตระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง ขณะที่เขื่อนเจ้าพระยาระบายน้ำเพิ่ม
เมื่อวันที่ 24 ก.ย. มวลน้ำจากอ.บ้านนา จ.นครนายกและอ.วิหารแดง จ.สระบุรี ไหลมาสมทบแม่น้ำไนเอ่อล้นท่วมชุมชน แสนจำหน่าย ซอย 2 หมู่ 5 ต.ศาลาครุ อ.หนองเสือ จ.ปทุมธานี จมกว่า 40 หลังคาเรือนเดือดร้อนมาแล้วกว่า 2 สัปดาห์ เฉลี่ยถูกน้ำท่วมสูงที่ 80-90 ซม. ส่งผลทำให้การสัญจรไปมายากลำบาก ขณะที่ประตูน้ำด้านคลองระพีพัฒน์ พบว่าระดับน้ำยังสูงกว่าในคลองรังสิตประมาณ 1.30 ซม
ด้านนาย ชาญ พวงเพ็ชร์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี ได้ร่วมกับทาง อบต. ศาลาครุ ก็ได้ลงพื้นที่เพื่อรับฟังปัญหาความเดือดร้อนของชาวบ้าน และ แก้ไขปัญหาในเบื้องต้นให้กับชาวบ้าน โดยให้ทาง อบต. ศาลาครุ นำไม้กระดานมายกพื้นขึ้นเป็นทางเดินให้กับชาวบ้านในการสัญจรไปมา
ขณะที่น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาเอ่อท่วมพื้นที่ริมแม่น้ำทั้ง 2 ฝั่ง ในเขต อ.เมืองปทุมธานีและ อ.สามโคก โดยทางด้านฝั่งตะวันออก พบว่าน้ำได้เอ่อท่วมวัดโพธิ์เลื่อน หมู่ 1 ต.บ้านกระแชง อ.เมืองปทุมธานี รวมทั้งโรงเรียนวัดโพธิ์เลื่อน และศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก อบต.บ้านกระแชง ตั้งอยู่ในบริเวณวัด ระดับน้ำสูงเกือบ 30 ซม. เป็นเหตุให้ ข้าวของที่เก็บไว้ชั้นล่างเสียหาย
น.ส.จิดาภา บุญสร้างสม ผู้อำนวยการวัดโพธิ์เลื่อน กล่าวว่า ที่โรงเรียนถูกน้ำท่วมชั้นล่าง แต่ยังมีห้องเรียนอีก 2 ชั้น ยังเปิดโรงเรียนตามปกติเพราะใกล้สอบปลายภาคเรียน โดยทาง อบจ.ปทุมธานี สนับสนุนการทำ ห้องน้ำและสะพานทางเดินให้นักเรียนเดินเข้าออกโรงเรียนในเบื้องต้น นายชาญกล่าวว่าทางอบจ.ปทุมธานีได้ออกประกาศแจ้งเตือนให้ประชาชนและชุมชน ที่อาศัยอยู่นอกแนวเขื่อนคันกั้นน้ำ เฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด โดยให้ยกของขึ้นที่สูง รวมถึงปลั๊กไฟ อีกทั้งอาจจะได้รับผลกระทบจากคลื่นกระทบของเรือด่วน พร้อมกันนี้ ให้เจ้าหน้าที่ลงไปช่วยเหลือเบื้องต้น โดยการทำสะพานทางเดินและจัดทำตารางน้ำขึ้น-น้ำลงของกรมอุทกศาสตร์ ไปประชาสัมพันธ์ให้กับประชาชนรับทราบทุกวัน
ส่วนบริเวณประตูระบายน้ำคลองเปรมรังสิตเหนือ หมู่ 1 ต.บางพูน อ.เมือง จ.ปทุมธานี เจ้าหน้าที่ชลประทาน ต้องเร่งสูบน้ำออกจากพื้นที่คลองเปรมประชากร ที่รับน้ำมาจาก อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา โดยการปิดประตูระบายน้ำแล้วทำการสูบออก ด้วยการติดตั้งเครื่องสูบน้ำ 4 เครื่อง เพื่อสูบออกตลอด 24 ชม. เพื่อป้องกันน้ำไหลเข้าท่วมพื้นที่บ้านเรือนประชาชน โดยการสูบน้ำลงสู่คลองรังสิตประยูรศักดิ์ ให้ไหลออกสู่แม่น้ำเจ้าพระยา
นอกจากนี้ที่ชุมชนหน้าวัดบางหลวง หมู่ 4 ต.บ้านฉาง อ.เมือง จ.ปทุมธานี ซึ่งเป็นชุมชนที่มีลักษณะคล้ายเกาะ เนื่องจากฝั่งตะวันออกติดกับแม่น้ำเจ้าพระยาและฝั่งตะวันตกติดกับคลองบางหลวง ซึ่งเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาที่เอ่อสูง ได้ไหลบ่าเข้าท่วมพื้นที่ของชุมชน มีระดับความสูงประมาณ 30-40 ซม.
นางอรสา ภุมกาญจน์ ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 4 ต.บ้านฉาง อ.เมือง จ.ปทุมธานี กล่าวว่า ชุมชนตั้งอยู่คล้ายเกาะกลางแม่น้ำเพราะมีแม่น้ำเจ้าพระยาและคลองบาง หลวงล้อมรอบ โดยช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา มีน้ำเอ่อเข้าท่วมชุมชนที่มีอยู่กว่า 200 หลังคาเรือน แต่ระดับน้ำยังคงขึ้นๆ ลงๆ อยู่ แต่วันนี้ระดับน้ำสูงมากขึ้นกว่าเดิม โดยน้ำจะไม่ค่อยลดลงแล้ว มีแต่จะสูงขึ้นกว่าเดิม ซึ่งขณะนี้ชาวบ้านในชุมชน ต่างก็ยกข้าวของขึ้นที่สูงหมดแล้ว
นายธีรวุฒ กลิ่นสุขุม นายกเทศบาลนครรังสิต กล่าวว่า ในเขตพื้นที่เทศบาลนครรังสิต อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี ว่า ขณะนี้ระดับน้ำในคลองรังสิตประยูรศักดิ์ ได้เพิ่มสูงมากขึ้นเนื่องจากมีน้ำไหลมาจากองครักษ์ จ.ดนครนายก และน้ำจากคลองซอยต่าง ๆ ตั้งแต่คลองหนึ่ง ถึงคลองสิบห้า ฝั่งทิศเหนือ ที่ติดกับคลองระพีพัฒน์ ได้มีการเปิดประตูน้ำระบายลงคลองรังสิต ทำให้ระดับน้ำในคลองเพิ่มขึ้นทำให้น้ำท่วมบ้านเรือนประชาชนที่ปลูกอยู่ริมคลอง ทำให้ทางเทศบาลนครรังสิต ได้เร่งติดตั้งเครื่องสูบน้ำตามชุมชนต่าง ๆ ในพื้นที่จำนวน 90 เครื่อง สูบน้ำภายในชุมชนลงคลองรังสิตและเทศบาลนครรังสิตยังเร่งเดินเครื่องสูบน้ำเพื่อระบายน้ำออก สู่แม่น้ำเจ้าพระยา
ส่วนการ ระบายน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา ล่าสุดวันนี้ในทุกจุดกรมชลประทานได้เพิ่มการระบายน้ำเกิน 2,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ซึ่งเกือบเต็มความจุลำน้ำ โดยที่เขื่อนเจ้าพระยา ระบายน้ำอยู่ที่ 2,100 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาทีซึ่งกรมชลประทานแจ้งว่า จะเพิ่มการระบายน้ำให้ถึง 2,300 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ในวันที่ 29 ก.ย.