โคราชอ่วมพื้นที่เกษตรจมน้ำกว่า1แสนไร่
ลำน้ำ 4 สายโคราชเอ่อท่วมพื้นที่เกษตร 20 อำเภอกว่า 1 แสนไร่ เร่งสำรวจเพื่อเยียวยา
ลำน้ำ 4 สายโคราชเอ่อท่วมพื้นที่เกษตร 20 อำเภอกว่า 1 แสนไร่ เร่งสำรวจเพื่อเยียวยา
นายเฉลิมศักดิ์ ประสิทธิ์สุวรรณ เกษตรจังหวัดนครราชสีมา กล่าวถึงการช่วยเหลือเกษตรกรถูกน้ำท่วมพื้นที่การเกษตรได้รับความเสียหายจากสภาวะฝนตกชุกตั้งแต่ช่วงปลายเดือนก.ย.-ต.ค.ซึ่งได้รับผลกระทบจากลุ่มน้ำลำเชียงไกรตั้งแต่ อ.เทพารักษ์, อ.ด่านขุนทด ไหลมายัง อ.โนนไทย, อ.โนนสูง ซึ่งพี่น้องประชาชนที่อยู่ริมสองฝั่งลุ่มน้ำได้รับผลกระทบจากน้ำเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมไร่นาของเกษตรกร โดยเป็นน้ำไหลหลากเข้าท่วม ส่วนข้าวที่อยู่ในระยะการเจริญเติบโตก็ไม่น่าจะได้รับผลกระทบมากนัก
ขณะที่ประชาชน อ.ปักธงชัย, อ.ครบุรี, อ.เสิงสาง ลำน้ำลำพระเพลิง และลำน้ำมูล น้ำเอ่อล้นตลิ่ง โดยเฉพาะอ่างเก็บน้ำลำพระเพลิง อ.ปักธงชัย, เขื่อนลำแชะ อ.ครบุรี เกินปริมาณกักเก็บกว่า 1 เมตรทางชลประทานต้องเร่งระบายน้ำ เพื่อไม่ให้กระทบตัวเขื่อนทำให้น้ำท่วม โดยน้ำจะเอ่อล้นตลิ่งไปรวมกันที่ลำน้ำมูล อ.เฉลิมพระเกียรติ ส่วนประชาชน อ.เมือง ลำน้ำลำตะคอง เขตเทศบาลนครนครราชสีมา และลำบริบูรณ์ ก็ได้รับผลกระทบน้ำเอ่อล้นเข้าท่วมไร่นาาบ้านเรือนราษฎร ซึ่งน้ำสายนี้จะไปลงที่ อ.เฉลิมพระเกียรติ และมวลน้ำทั้งหมดนี้จะไหลไปรวมกันที่ อ.พิมาย ฉะนั้นประชาชนที่อยู่บริเวณลุ่มน้ำหรือนาลุ่มได้รับผลกระทบบ้าง ตรงนี้ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่เกษตรตำบล เกษตรอำเภอออกสำรวจเรื่องความเสียหายจากน้ำท่วมนา ซึ่งขณะนี้ที่ได้รับข้อมูลมีประมาณ 20 อำเภอที่มีผลกระทบ มีนาข้าวได้รับความเสียหายกว่า 1 แสนไร่เศษ และหลังจากที่น้ำเข้าสู่สภาวะปรกติแล้ว จะให้สำนักงานเกษตรระดับอำเภอ ตั้งคณะกรรมการระดับตำบลออกสำรวจความเสียหายอีกรอบหนึ่ง
นายเฉลิมศักดิ์ กล่าวอีกว่า ในช่วงนี้ขอประชาสัมพันธ์ไปยังพี่น้องเกษตรกรว่า มติคณะรัฐมนตรี(ครม.)ได้อนุมัติเงินช่วยเหลือพี่น้องที่ประสบภัยแล้ง ภัยน้ำท่วมเมื่อปี 2555 จ.นครราชสีมา ที่มีส่วนเสียหายกว่า 98,000 ราย มีการอนุมัติเงินมาประมาณ 1,600 ล้านบาท ที่มาชดเชยให้กับพี่น้องเกษตรกรที่ได้รับความเสียหายจากน้ำท่วมไร่ละ 1,113 บาท ขอให้พี่น้องไปตรวจสอบเลขที่บัญชีเมื่อถูกต้องแล้วทาง ธนาคาร หรือ ธกส.จะทำการโอนเงินเข้าบัญชีโดยตรง อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่จะไม่จ่ายเงินสดให้ แต่จะโอนเข้าบัญชีของแต่ละคน สำหรับการช่วยเหลือน้ำท่วมเป็นไปตามความเป็นจริง โดยจะมีคณะกรรมการตรวจสอบในระดับหมู่บ้าน มีกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน เกษตรหมู่บ้าน สมาชิก อบต. เพื่อให้ความเป็นธรรมและทั่วถึง