posttoday

เสียงจากตำรวจไม่อยากยิงแต่นายสั่ง

04 ธันวาคม 2556

2 วันเต็มๆ ที่ควันแก๊สน้ำตาคละคลุ้งทั่วบริเวณทำเนียบรัฐบาลและกองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) แต่พอเข้าวันที่ 3 บรรยากาศที่พร้อมระเบิดความรุนแรงเต็มพิกัด กลับกลายเปี่ยมไปด้วยมิตรภาพอย่างน่าอัศจรรย์ เมื่อตำรวจยอมเปิดทางให้ผู้ชุมนุมผ่านเข้าไปได้พร้อมยืนแถวปรบมือต้อนรับอีกด้วย

2 วันเต็มๆ ที่ควันแก๊สน้ำตาคละคลุ้งทั่วบริเวณทำเนียบรัฐบาลและกองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) แต่พอเข้าวันที่ 3 บรรยากาศที่พร้อมระเบิดความรุนแรงเต็มพิกัด กลับกลายเปี่ยมไปด้วยมิตรภาพอย่างน่าอัศจรรย์ เมื่อตำรวจยอมเปิดทางให้ผู้ชุมนุมผ่านเข้าไปได้พร้อมยืนแถวปรบมือต้อนรับอีกด้วย

ดาบตำรวจชุดปราบปรามจลาจลจากขอนแก่น ซึ่งปฏิบัติหน้าที่อยู่แนวหน้าที่สะพานชมัยมรุเชฐ บอกเล่าความรู้สึกว่า ยิงแก๊สน้ำตาตามคำสั่งผู้บังคับบัญชา แต่ใจจริงไม่อยากทำเพราะเป็นคนไทยด้วยกัน เผลอๆ เป็นคนบ้านเดียวกันอีก แต่เมื่อนายสั่งก็ต้องทำ

ทว่า ภาพการเปิดแบริเออร์เมื่อเช้าวันที่ 3 ธ.ค.ที่ผ่านมา ดาบตำรวจคนนี้ถึงกับพูดไม่ออก

“ผมงงน่ะ ไม่คิดว่ามันจะจบแบบนี้เพราะมันง่ายไป แต่เมื่อเปิดแล้วก็โอเค ไปเดินจับไม้จับมือกัน ที่บอกว่างงเพราะ 2 วันก่อนยังทะเลาะกันอยู่ มันปรับตัวเองไม่ทัน”

ไม่ต่างจาก ร.ต.อ.เอนก บุญรัตนาสิทธิ์ จากลำปาง บอกว่า สงสัยคงใกล้วันพ่อแล้วก็เลยจบลงทุกอย่าง ดีแล้วเพราะคนไทยด้วยกันไม่ควรจะมารบราฆ่าฟันกันเอง ส่วนตัวก็อยากจะกลับบ้านเร็วๆ อยากกลับไปหาลูกหาเมียเหมือนกับตำรวจคนอื่นๆ เหมือนกับผู้ชุมนุมไม่ต่างกัน

“จบแบบนี้ก็สวยกันทั้งสองฝ่ายนะ ตำรวจก็ไม่เหนื่อย ประชาชนก็ไม่เจ็บ เราทำเพื่อพ่อหลวงของเราเหมือนกันทุกคน เพียงแต่ต่างหน้าที่กันเท่านั้น”

อีกเสียงจากตำรวจชุมพรบอกชัดเจนว่า ไม่ต้องการทำอะไรที่รุนแรงแล้ว

“มันเป็นคำสั่ง เราเป็นตำรวจก็ต้องมีวินัยปฏิบัติตาม แต่คุณรู้มั้ย แก๊สน้ำตาที่ออกไปมันก็เจ็บหัวใจตำรวจเหมือนกัน เพราะคนที่โดนคือประชาชนคนไทย”

ตำรวจนายนี้ย้ำว่า ภาพการตั้งแถวรับดอกไม้และนกหวีดจากผู้ชุมนุม ทำเอาเขาน้ำตาซึม

ด้านพี่ตุ๊ก เจ้าของร้าน สจ. ซึ่งรับจัดโต๊ะจีน จ.ลพบุรี ซึ่งมาทำอาหารให้กับตำรวจที่ บช.น. บอกว่าทำข้าววันละ 4 มื้อ เมนูหลากหลาย รวมแล้วกว่า 5,000 กล่อง วันแรกที่ปิดถนนเข้ามาทางรถไม่ได้เลยได้นั่งเฮลิคอปเตอร์เป็นครั้งแรกด้วย

นี่คือเสียงจากตำรวจหลังจากพายุสงบยกแรก ถือว่าทุกฝ่ายทำเพื่อชาติ แต่ยกต่อไปไม่มีใครรู้ได้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น