รัฐเปิดเกมรบเต็มสูบจับบลูสกาย

05 ธันวาคม 2556

รัฐเปิดเกมรบขบวนการโค่นระบอบทักษิณ สั่งจับแหลก บลูสกาย-ผู้ว่าฯกทม.-เอกชน สมคบกบฏ

รัฐเปิดเกมรบขบวนการโค่นระบอบทักษิณ สั่งจับแหลก บลูสกาย-ผู้ว่าฯกทม.-เอกชน สมคบกบฏ

นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในฐานะผู้กำกับดูแลศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย (ศอ.รส.) ได้เรียกประชุมคณะทำงาน ประกอบด้วย พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รองนายกฯฝ่ายความมั่นคง พล.อ.นิพัทธ ทองเล็ก ปลัดกระทรวงกลาโหม นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร.ตัวแทนจากกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย โดยก่อนหารือ พล.อ.นิพทธ์ กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า สถานการณ์ยังไม่น่าไว้วางใจ โดยผู้ชุมนุมยังประกาศที่จะมีการเคลื่อนไหวต่อ จึงต้องมีการประเมินสถานการณ์เพื่อเตรียมรับการเคลื่อนไหว

นายสุรพงษ์ แถลงว่า ได้นัดประชุมคณะกรรมการชุดใหญ่ หลังจากนายกฯ มีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาความไม่สงบเรียบร้อย โดยตั้งคณะกรรมการขึ้นมา 4 ชุด ประกอบด้วย คณะกรรมการกำหนดยุทธศาสตร์จัดทำแผนและประสานงาน มีตนเป็นประธาน มี พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รองนายกฯ และนายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รมว.มหาดไทย เป็นรองประธาน นอกจากนี้จะมีคณะกรรมการด้านกฎหมาย มี รมว.ยุติธรรม เป็นประธาน คณะกรรมการดูแลประชาชน มี รมว.มหาดไทย เป็นประธาน และคณะกรรมการด้านข้อมูลข่าวสารและสารสนเทศ มี รมว.ไอซีที เป็นประธาน

การประชุมคณะกรรมการชุดใหญ่ ได้มีข้อสรุปหลายประเด็น คือ 1.การดำเนินการของคณะทำงานที่ปฏิบัติงานตั้งแต่ในตอนนี้ ต้องยึดกฎหมายเป็นหลัก อย่างกรณีนายสุเทพ เป็นผู้ต้องหากบฏ ดังนั้น ผู้สนับสนุนนายสุเทพ จะถือว่าเป็นผู้ที่สนับสนุนผู้ที่เป็นกบฏ ต้องมีความผิดแน่นอนตาม ม.114 ต้องมีการใช้ข้อกฎหมายให้ชัดเจน ซึ่งได้กำชับ ผบ.ตร.ออกหมายจับผู้ให้การสนับสนุน ซึ่งทางดีเอสไอ และ ผบ.ตร.คงทยอยออกหมายจับ

“จากการหารือ รายแรก คือ สถานีบลูสกาย แต่ไม่ใช่เป็นการปิดสถานี เพียงแต่ผู้บริหารบลูสกายนั้นชัดเจนว่าให้ความสนับสนุนนายสุเทพ ผิด ม.114 ดังนั้น บลูสกายจะต้องเจอหมายศาลอย่างแน่นอน ส่วนจะมีรายอื่นเข้ามาด้วยหรือไม่ คงต้องรอ จะมีการออกหมายจับเป็นระยะๆ โดยจะเน้นที่แกนนำก่อน สำหรับผู้ชุมนุมจะยังไม่พิจารณาว่าผิดหรือไม่ผิด แต่จะเริ่มทยอยออกหมายจับ และเมื่อเราออกหมายศาลแล้วมามอบตัวก็ไม่เป็นไร แต่ถ้าไม่มามอบตัวเมื่อทุกอย่างจบก็คงต้องติดคุกหัวโต ซึ่งมีโทษจำคุก 3-15 ปี ต่างกรรมต่างวาระกันไป” นายสุรพงษ์ กล่าว

นายสุรพงษ์ กล่าวว่า ได้กำชับดีเอสไอไปแล้ว ซึ่งเป็นเลขาฯ ของทีมกฎหมายรับไปดำเนินการ จะมีการออกหมายจับทั้งบริษัทและห้างร้านที่ให้การสนับสนุน เพียงแต่วันนี้เน้นบลูสกายเพราะชัดเจน และไม่คิดว่าจะเติมเชื้อไฟให้เกิดความรุนแรง เพราะรัฐไม่ได้สั่งให้ปิดสถานี เพียงแต่เป็นการแจ้งความและมีหมายศาลไว้ก่อน เมื่อทุกอย่างจบสิ้น เป็นไปตามกฎหมายก็จะติดคุกหัวโตเท่านั้น

 นอกจากนี้ในส่วนของ กทม.ที่ให้การสนับสนุนกบฏ ก็ถือว่าผิด ม.114 เช่นกัน อย่างเช่นนำส้วมไปให้ใช้ หรือรถน้ำไปให้ก็มีความผิด กทม. ผิดก็ต้องว่าไปตามผิด ไม่มีใครอยู่เหนือกฎหมาย วันนี้ได้กำชับกระทรวงมหาดไทยแล้ว ให้ดำเนินการแจ้งเตือนไปก่อน เพราะหลักการที่มีอยู่ชัดเจนว่าให้ความช่วยเหลือกบฏ ต้องถูกจับกุมทั้งหมด ซึ่งไม่คิดว่าจะเพิ่มความรุนแรงให้เกิดขึ้น เพราะเราว่ากันตามกฎหมาย แม้แต่ตัวผู้ว่าฯ กทม.ถ้ามีความผิดชัดเจนว่ากระทำผิดก็ต้องถูกดำเนินการเช่นกัน เราจะต้องปฏิบัติตามกฎมายอย่างเคร่งครัด ไม่เช่นนั้นกฎหมายคงไม่มีความหมาย

นายสุรพงษ์ กล่าวว่า คงไม่มีการหารือระหว่างนายกฯกับนายสุเทพอีกแล้ว เพราะจะกลายเป็นว่ามีความผิดไปสมรู้ร่วมคิดกับกบฏ ดังนั้นนายสุเทพ ต้องมอบตัวในข้อหากบฏ แม้แต่ตนหรือใครก็ไปเจรจาด้วยไม่ได้ เพราะจะมีความผิดทั้งหมด ส่วนการเจรจาของนายกฯ และนายสุเทพครั้งแรกนั้น ไม่ถือว่าผิด เพราะยังไม่ถูกข้อหากบฏ

นอกจากนี้ยังได้พูดคุยถึงการชุมนุมประท้วงที่จะเกิดขึ้นต่อจากนี้ ขอให้ยึดมั่นในวิถีทางเดิม คือจะไม่ใช้ความรุนแรง จะใช้สื่อในการติดตามเพื่อให้นานาชาติ และคนในประเทศได้ทราบถึงความเคลื่อนไหวต่างๆ ที่เกิดขึ้น นอกจากนั้นการดำเนินการใดๆ ของผู้ประท้วง ฝ่ายรัฐจะรีบเผยแพร่ข้อมูลเพื่อให้ทันต่อเหตุการณ์ ไม่เช่นนั้นสังคมจะเกิดความเข้าใจผิด

นายสุรพงษ์ กล่าวถึงการประเมินความเคลื่อนไหวของผู้ชุมนุมที่จะกลับมาเคลื่อนไหวอีกครั้งว่า คิดว่าผู้ชุมนุมจะเริ่มทยอยเอาคนเข้ามาอีก ซึ่งการข่าวของรัฐบาลพอจะทราบว่าจะมีการระดมคนเข้ามา ซึ่งรูปแบบการเคลื่อนไหว คิดว่าผู้ชุมนุมจะทำให้รุนแรงมากขึ้น เพื่อที่จะปรักปรำและผลักความรับผิดชอบมาที่รัฐบาล เป็นวิธีการเดียวที่คิดและเชื่อว่าจะสำเร็จ

"ผมอยากจะบอกว่าอย่าทำให้เกิดความเสียหายต่อทรัพย์สินหรือสถานที่ราชการ โดยเฉพาะอย่าไปปิดกั้นให้ข้าราชการเข้ามาปฏิบัติหน้าที่ เพราะเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง สังคมโลกก็ไม่ยอมรับ นานาชาติได้ประณามการปิดสถานที่ราชการ หรือแม้แต่สถานที่ของเอกชน เพื่อไม่ให้เกิดการทำงาน ไม่มีใครรับได้ วันนี้สิ่งที่ผู้ชุมนุมเรียกร้อง สังคมโลกไม่ยอมรับ คนไทยเองต่างก็รู้ว่าอะไรเป็นอะไร วันนี้คิดว่าสิ่งที่นายสุเทพ เรียกร้องไม่มีใครรับได้ และขอให้นายสุเทพ ไปหาหมอเสียดีกว่า"นายสุรพงษ์กล่าว

Thailand Web Stat