ไทย-ญี่ปุ่นเดินหน้าจัดประชุม วิสาขบูชาโลก ปี 2553
8...สมหมาย สุภาษิต หัวหน้าฝ่ายประชาสัมพันธ์และเผยแผ่ มจร
สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร พร้อมด้วยพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายา จะเสด็จพระราชดำเนินไปทรงเป็นประธานเปิดการประชุมวิสาขบูชาโลก พ.ศ. 2553 ในวันที่ 23 พ.ค. 2553 เวลา 14.00 น. ที่ห้องประชุม มวก. 48 พรรษามหาวชิราลงกรณ์ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย จ.พระนครศรีอยุธยา
ทั้งนี้ ตามที่คณะกรรมการสมาคมสภาสากลวันวิสาขบูชาโลก (ICUNDV) ให้ประเทศไทยและประเทศญี่ปุ่น เป็นเจ้าภาพในการจัดการประชุม ซึ่งกำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 2325 พ.ค. 2553 ในประเทศไทย
วันรุ่งขึ้นวันที่ 24 พ.ค. 2553 จะมีการประชุมวิชาการ คาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมประชุมประมาณ 3,000 คน ตามความจุของห้องประชุม ในการนี้คาดว่าจะมีชาวพุทธจากต่างประเทศเดินทางมาเข้าร่วมประชุม 1,500 คน มากกว่า 83 ประเทศ
ความคืบหน้าในการเตรียมงานครั้งนี้อยู่ในความสนใจของสาธารณชนโดยทั่วไป เนื่องจากสถานการณ์บ้านเมืองอยู่ในภาวะวิกฤต มีบางประเทศทั้งในเอเชีย เช่น ญี่ปุ่นและยุโรป จัดความอันตรายของประเทศไทยไว้ในอันดับที่ 4 หรือที่ 5 ทำให้รัฐบาลนั้นๆ ไม่อยากให้คนของเขามาเสี่ยง
แต่ถ้าย้อนกลับไปเมื่อปี พ.ศ. 2552 จะเห็นว่าสภาพการณ์ที่เป็นอยู่ในวันนี้ไม่แตกต่างจากปีที่ผ่านมาเลย หากจะถามว่ามีผลกระทบต่อการตอบรับของประมุขสงฆ์ ผู้นำชาวพุทธที่จะเดินทางเข้ามาร่วมพิธีหรือไม่ ณ วันนี้ยังมีอยู่บ้าง แต่ไม่ถึงกับทำให้การประชุมมีปัญหา เพราะจำนวนประเทศที่จะเข้าร่วมประชุมได้ตอบรับมาแล้ว 79 ประเทศ
พร้อมกันนี้ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ได้ดำเนินการรับสมัครเยาวชนเพื่ออาสาทำหน้าที่ให้การต้อนรับชาวพุทธที่มาจากประเทศต่างๆ ซึ่งมีผู้สนใจเข้าสมัครจำนวนถึง 358 คน ซึ่งทางมหาวิทยาลัยได้ดำเนินการฝึกอบรมไปแล้วเมื่อวันที่ 24 เม.ย.ที่ผ่านมา
นอกจากนี้ ยังจัดฝึกอบรมผู้ที่ทำหน้าที่กำกับดูแลเหล่าอาสาสมัครอีก เมื่อวันที่ 1 พ.ค. 2553 และจะนำบรรดาอาสาสมัครทั้งหมดเข้าไปสัมผัสกับสถานที่ปฏิบัติงานจริง ในช่วงวันที่ 17 พ.ค. 2553 นี้ด้วย
ในส่วนความคืบหน้าด้านการประสานงาน ขณะนี้รัฐบาล โดย พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ รองนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติราชการแทนนายกรัฐมนตรี ได้ลงนามในคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการที่ปรึกษา กรรมการอำนวยการและกรรมการดำเนินการจัดงานสัปดาห์ส่งเสริมพระพุทธศาสนา เนื่องในเทศกาลวันวิสาขบูชา วันสำคัญสากลของโลก ประจำปี 2553 เมื่อวันที่ 22 เม.ย. 2553
ในการประชุมชาวพุทธนานาชาติเนื่องในวันวิสาขบูชาโลกปีนี้ ที่ประชุมตกลงหัวข้อใหญ่คือ การฟื้นตัวจากวิกฤตการณ์ของโลก ตามทัศนะชาวพุทธ (Global Recovery : The Buddhist Perspective)
และหัวข้อย่อย ได้แก่
กลุ่มที่ 1 การฟื้นตัวจากวิกฤตการณ์ของโลก โดยอาศัยมุมมองชาวพุทธ (Global RecoveryThe Buddhist Perspective)
กลุ่มที่ 2 การฟื้นตัวจากวิกฤตการณ์ของโลก โดยอาศัยการพัฒนาทางจิต (Global Recovery through Mental Wellbeing)
กลุ่มที่ 3 การฟื้นตัวจากวิกฤตการณ์ของโลก โดยอาศัยการศึกษาเชิงพุทธ (Global Recovery through Buddhist Education)
กลุ่มที่ 4 การฟื้นตัวจากวิกฤตการณ์ของโลก โดยอาศัยการอยู่ร่วมกันอย่างสันติ (Global Recovery through Harmonious Coexistence)
กลุ่มที่ 5 การฟื้นตัวจากวิกฤตการณ์ของโลก โดยอาศัยนิเวศวิทยาเชิงพุทธ (Global Recovery through Buddhist Ecology)
กลุ่มที่ 6 การฟื้นตัวจากวิกฤตการณ์ของโลก โดยอาศัยพระพุทธศาสนาเพื่อสังคม (Global Recovery through Engaged Buddhism)
การประชุมปฏิบัติการ 2 กลุ่ม คือ
กลุ่มที่ 1 สมาคมมหาวิทยาลัยพระพุทธศาสนานานาชาติ (IABU)
กลุ่มที่ 2 พระไตรปิฎกฉบับสากล (Common Buddhist Texts)
โดยใช้สถานที่อาคารหอประชุม มวก. 48 พรรษามหาวชิราลงกรณ์ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
วันสุดท้ายของการประชุมจะจัดขึ้นที่สำนักงานใหญ่สหประชาชาติ กรุงเทพฯ เมื่อปิดประชุมแล้วคณะผู้เข้าร่วมประชุมจะไปเวียนเทียนปิดประชุมที่พุทธมณฑล การประชุมจึงมี 3 วัน คือ วันที่ 2324 และวันที่ 25 พ.ค.
ส่วนญี่ปุ่นซึ่งเป็นเจ้าภาพร่วมด้วยนั้น จะนำชาวญี่ปุ่นมาร่วมประชุม 600 คน โดยออกค่าใช้จ่ายเองทั้งหมด และร่วมรับผิดชอบออกค่าใช้จ่ายอื่นๆ ในการประชุมในประเทศไทยอีกด้วย
การที่ญี่ปุ่นขอเป็นเจ้าภาพร่วม เนื่องจากเห็นว่าสำนักงานสหประชาชาติตั้งอยู่ที่ประเทศไทย นอกจากนี้ในการประชุมคณะกรรมการยังได้คัดเลือกผู้ที่จะปาฐกถานำ และการแสดงทางวัฒนธรรมว่า ประเทศไหนจะนำการแสดงทางวัฒนธรรมที่เกี่ยวข้องกับพระพุทธศาสนามาแสดงบ้าง ซึ่งจะมีการตกลงกันในรายละเอียดอีกครั้ง
การจัดงานครั้งนี้เรามีการเตรียมการล่วงหน้าแต่เนิ่นๆ ซึ่งข้อมูลทุกด้านสามารถสืบค้นได้ที่ www.icundv.com โทรศัพท์ 035248098, 026236323
ส่วนการจัดแสดงนิทรรศการพระไตรปิฎกนั้น ในเบื้องต้นกำหนดจัดที่มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ตั้งแต่วันที่ 2224 พ.ค 2553 โดยเป็นพระไตรปิฎก 17 ภาษาจากทั่วโลก หลังจากนั้นจะนำไปจัดตามภูมิภาคต่างๆ ทั่วประเทศ
ในด้านคณะสงฆ์ โดยมหาเถรสมาคมนั้น พระธรรมโกศาจารย์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย (มจร) นำเสนอพร้อมทั้งถวายคำชี้แจงในรายละเอียดของการจัดงาน เมื่อวันที่ 9 เม.ย. 2553 ซึ่งที่ประชุมมหาเถรสมาคมมีมติเห็นชอบตามเสนอ คือ
ในส่วนกลางจัดกิจกรรมหลัก ได้แก่
1.กรมการศาสนา กรุงเทพมหานคร และศูนย์ส่งเสริมพระพุทธศาสนาแห่งประเทศไทย จัดกิจกรรมส่งเสริมพระพุทธศาสนา ณ บริเวณมณฑลพิธีท้องสนามหลวง วันที่ 2428 พ.ค. มีกิจกรรมประกอบด้วย สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี จะเสด็จพระราชดำเนินไปทรงเป็นประธานในพิธีเปิดงานและพระราชทานเสาเสมาธรรมจักรแก่ผู้ทำประโยชน์ต่อพระพุทธศาสนา พิธีอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุจากพระบรมมหาราชวัง ประดิษฐาน ณ มณฑลพิธีท้องสนามหลวง พิธีเจริญพระพุทธมนต์และเจริญจิตภาวนา ถวายเป็นพระราชกุศล การจัดนิทรรศการทางพระพุทธศาสนา กิจกรรมส่งเสริมศีลธรรมจริยธรรมของเยาวชน ขบวนเอกลักษณ์ส่งเสริมพระพุทธศาสนา พิธีเวียนเทียน การบรรยายธรรม การอภิปรายธรรม การบรรยายธรรม และตักบาตรพระสงฆ์
2.การจัดกิจกรรมส่งเสริมพระพุทธศาสนา ณ พุทธมณฑล จ.นครปฐม ระหว่างวันที่ 2428 พ.ค. โดยสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย (มจร) และมหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย (มมร) เป็นหน่วยงานหลักในการจัดกิจกรรม ประกอบด้วย พิธีปฏิบัติบูชาธรรมยาตรา พิธีเจริญพระพุทธมนต์และเจริญจิตภาวนา ถวายเป็นพระราชกุศล โดยพระสงฆ์ 5,000 รูป พุทธศาสนิกชน 6,000 คน
พิธีเวียนเทียนของประมุขสงฆ์ และผู้นำชาวพุทธนานาชาติ พิธีบำเพ็ญพระราชกุศลเวียนเทียน เนื่องในวันวิสาขบูชา การตักบาตรพระสงฆ์ 802 รูป การถวายสังฆทาน การแสดงพระธรรมเทศนา การบรรยายธรรม และการสนทนาธรรม การเจริญพระพุทธมนต์สรรเสริญพระรัตนตรัยทำนองสรภัญญะของสถานศึกษา
นอกจากนี้ มีการอัญเชิญพระธรรมเจดีย์คัมภีร์พระพุทธศาสนาโบราณ ประดิษฐาน ณ พุทธมณฑล
3.การจัดกิจกรรม ณ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา และศูนย์การประชุมองค์การสหประชาชาติ ประจำประเทศไทย วันที่ 2225 พ.ค. โดยมีมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย (มจร) เป็นหน่วยงานหลักในการจัดกิจกรรม ประกอบด้วย การประชุมสัมมนาทางวิชาการของประมุขสงฆ์ และผู้นำชาวพุทธนานาชาติ 83 ประเทศ โดยพิธีเปิดการประชุม ณ ห้องประชุมมหาวชิราลงกรณ์ มจร วังน้อย ในวันที่ 23 พ.ค. และการประชุมสัมมนาทางวิชาการ ณ ห้องประชุมองค์การสหประชาชาติ ประจำภาคพื้นเอเชียแปซิฟิก ประเทศไทย
ในส่วนของภูมิภาค จัดกิจกรรมส่งเสริมพระพุทธศาสนา ในวันที่ 28 พ.ค. ณ จังหวัดทุกจังหวัดและวัดทุกวัด ทั่วราชอาณาจักร โดยเห็นควรให้ พศ. ประสานงานกับสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัด (พศจ.) แจ้งสถานศึกษาสังกัดกระทรวงศึกษาธิการ ส่งนักเรียนนักศึกษาและเยาวชนเข้าร่วมกิจกรรมงานสัปดาห์ส่งเสริมพระพุทธศาสนา และให้วัดทุกวัดจัดแสดงพระธรรมเทศนา เรื่อง “ความสุข สงบ ร่มเย็นของสังคม เกิดด้วยหลักพุทธธรรม”
นับเป็นโอกาสสำคัญอีกครั้งที่ประเทศไทยได้เป็นเจ้าภาพจัดประชุมชาวพุทธนานาชาติ เนื่องในวันวิสาขบูชาโลก ซึ่งแสดงถึงศักยภาพของประเทศไทยและคณะสงฆ์ไทย ที่เป็นที่ยอมรับของชาวพุทธทั่วโลก ดังนั้นชาวไทยควรถือโอกาสนี้ในการสร้างสรรค์บทบาทของความเป็นคนไทยให้มีชื่อเสียงขจรขจายไปทั่วโลกมากยิ่งขึ้น โดยอาศัยพระพุทธศาสนาเป็นฐานนั่นเอง
ดังนั้น วิกฤตใดๆ ทางการเมือง ไม่เป็นอุปสรรคขัดขวางการประชุมวันวิสาขบูชา วันสำคัญของโลกของชาวพุทธทั่วโลก เพราะพุทธศาสนามีแต่สันติ สงบ ร่มเย็น เป็นสุข