กปปส.ย้ำแดงเบื้องหลังแยกประเทศ

กปปส.ย้ำแดงปัดเอี่ยวแยกดินแดนอย่างไรก็เข้าตัวเพราะมีหลักฐานชัด เผย 10 มี.ค.เปิดเวทีหารือปฏิรูปอย่างเป็นทางการ

นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ โฆษกกปปส. แถลงว่า การที่นางธิดา ถาวรเศรษฐ์ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ออกมาแถลงการณ์ผ่านเฟซบุ๊คส่วนตัว ปฏิเสธว่านปช.ไม่มีส่วนร่วมเรื่องการแบ่งแยกดินแดน ซึ่งทั้งหมดที่กล่าวอ้างในเฟซบุ๊คส่วนตัวถือเป็นโกหก บิดเบือนข้อมูล เพราะมีหลักฐานชัดเจนในเรื่องจนไม่สามารถปฏิเสธได้ คือ เมื่อวันที่ 28 ก.พ. กลุ่มเสื้อแดงเชียงใหม่ ได้มีการโพกผ้าโดยระบุข้อความ สปป. และจากการสอบถามของสื่อมวลชน ได้รับการตอบรับว่า สาธารณรัฐประชาธิปไตย เพราะหากเป็นสมัชชาปกป้องประชาธิปไตยล้านนา จะใช้ตัวย่อคำว่า สปล.

นอกจากนี้ กรณีแกนนำกลุ่มรักเชียงใหม่51 เคยให้สัมภาษณ์เมื่อวันที่ 1 มี.ค. ชัดเจนว่า แนวทางการแบ่งแยกดินแดน มีการพูดคุยกว่า 6 เดือน และมีความเป็นไปได้สูง โดยจะแบ่งแยกการปกครองในลักษณะ จีน ฮ่องกง พร้อมระบุว่ามีประชาชน 80% จาก 8 จังหวัดภาคเหนือเห็นด้วยกับเรื่องนี้ และภายหลังแกนนำกลุ่มเชียงใหม่ถูกแจ้งความ กลับปฏิเสธพร้อมโทษว่าเป็นการสื่อสารผิดพลาดของสื่อมวลชน และการปราศรัยเมื่อวันที่ 23 ก.พ. ของคนเสื้อแดง ซึ่งมีแกนนำจ.แพร่ 2 คน เสนอเนื้อหาในเรื่องการแบ่งแยกดินแดนเช่นกัน

นายเอกนัฏ กล่าวต่อว่า ทั้งหมดชี้ให้เห็นว่ามีแนวคิดแบ่งแยกดินแดนเป็นกระบวนการไม่ใช่ความบังเอิญ ดังนั้น กลุ่มนปช.จึงไม่สามารถปฏิเสธเรื่องดังกล่าวได้ แถลงการผ่านเฟซบุ๊คจึงเป็นเรื่องโกหก เพี่อพยายามรักษาระบอบอำนาจพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีไว้ ซึ่งกปปส.ขอเรียกร้องเจ้าหน้าที่ทุกส่วน ทั้งทหารและตำรวจ จัดการในเรื่องดังกล่าวเป็นการด่วน

อย่างไรก็ดี วันที่ 6 มี.ค. น.ส.จิตต์ภัสร์ กฤษดากร แกนนำกปปส. พร้อมมวลชนจะเดินทางไปยังสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) เพื่อนำจดหมายไปต่อผู้บัญชาการจตำรวจแห่งชาติ ในการเร่งขยายความดำเนินคดีกับกลุ่มที่ต้องการแบ่งแยกดินแดน

นอกจากนี้ การที่ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รมว.แรงงาน ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์รักษาความสงบ (ศรส.) ออกมาดูถูกกระบวนการประชาชนในเรื่องจำนวนมวลชนนั้น ถือว่าไม่ถูกต้อง เพราะมีประชาชนเข้าร่วมมากกว่านั้น และการเคลื่อนไหวได้รับการตอบรับจากประชาชน ซึ่งยุทธศาสตร์กปปส. นอกจากโถมกำลังกดดันรัฐบาล และตัดท่อน้ำเลี้ยงแล้ว ยังมีการเตรียมพร้อมว่าไม่นานรัฐบาลจะล้มเหลว และประชาชนจะได้ปฏิรูปประเทศไทย

โฆษกกปปส. ระบุว่า วันที่ 10 มี.ค. กปปส.จะเปิดเวทีปฏิรูปอย่างเป็นทางการ เพือสัมมนาแนวทางปฏิรูปโดยเฉพาะ และจะเชิญนักวิชาการ ผู้เชี่ยวชาญเคยศึกษาประเด็นต่าง รวมถึงประชาชนที่สนใจการปฏิรูปหัวข้อต่างมาหารือทำเป็นข้อสรุปคร่าวๆ ถึงแนวทางปฏิรูป ภายใต้ 6 หัวข้อหลัก คือ 1.การเมือง 2.ทุจริตคอรัปชั่น 3.การกระจายอำนาจ 4.ปรับโครงตำรวจ 5.แก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำในสังคม และ 6.ปฏิรูปข้าราชการ ซึ่งเชื่อว่าต้องดำเนินการอย่างเร่งด่วน

"เราไม่ได้จำกัดแค่ 6 หัวข้อนี้เท่านั้น แต่จะมีการจัดวงเสวนาอื่นๆ หรือหัวข้อเดิม หากประชาชนต้องการมีส่วนร่วม โดยแต่ละหัวข้อจะมีแกนนำรับผิดชอบ เช่น นายชัยวุฒิ บรรณวัฒน์ นายสุริยะใส กตะศิลา นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ และผมที่จะเข้าไปช่วยประสานงานในการจัดเวทีปฏิรูป"นายเอกนัฏ กล่าว