เพลี้ยไฟไรแดงระบาดไร่แคนตาลูป

บุรีรัมย์-อากาศร้อนแห้งแล้งเพลี้ยไฟไรแดงระบาดในไร่แคนตาลูปทำผลผลิตเสียหาย

เมื่อวันที่ 14 มี.ค.จากสภาพอากาศที่ร้อนจัดและแห้งแล้งในช่วงนี้ได้ส่งผลทำให้เกิดเพลี้ยไฟไรแดงระบาดในไร่แตงแคนตาลูปของเกษตรกรบ้านหนองสรวง ต.แสลงพัน อ.ลำปลายมาศ จ.บุรีรัมย์ ทำให้ใบหงิกงอผลผลิตแคระแกรนไม่สมบูรณ์ขายไม่ได้ราคา บางส่วนระบาดหนักจนไม่ได้ผลผลิตต้องถอนต้นทิ้ง สร้างความเดือดร้อนให้แก่เกษตรกรผู้ปลูกแตงแคนตาลูปอย่างหนักถึงแม้เกษตรกรจะควักเงินในกระเป๋าซื้อยาหรือสารเคมีมาฉีดพ่นเพื่อกำจัดเพลี้ยไฟไรแดงแต่ก็ไม่เป็นผล ซ้ำยังทำให้ต้นทุนเพิ่มสูงขึ้น
 
ขณะที่บางรายใช้วิธีเด็ดใบหรือยอดอ่อนที่มีเพลี้ยไฟไรแดงทิ้งเพื่อยับยั้งการระบาด  แต่ก็ยังไม่สามารถกำจัดได้ จากกรณีดังกล่าวทำให้เกษตรกรหลายรายต้องประสบปัญหาขาดทุนเนื่องจากผลผลิตแคระแกรนขายไม่ได้ราคาและบางรายไม่สามารถเก็บผลผลิตส่งขายได้ แม้ช่วงนี้แคนตาลูปจะมีราคาสูงถึงกิโลกรัมละกว่า 20 บาทก็ตาม จึงอยากเรียกร้องให้หน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องได้เร่งเข้ามาสำรวจและหาวิธีกำจัดเพลี้ยไฟไรแดงที่กำลังระบาดเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรโดยเร็วด้วยก่อนที่ขยายวงกว้างมากกว่านี้
 
นายพิเชษฐ์  คุสินธุ์ เกษตรกรผู้ปลูกแคนตาลูปบ้านหนองสรวง กล่าวว่า เกษตรกรได้ประสบปัญหาศัตรูพืชระบาดและภัยแล้งต่อเนื่องมาหลายปีทำให้เกษตรกรหลายรายต้องชะลอและเลิกปลูก หันไปประกอบอาชีพอื่นแทน จากที่ผ่านมามีเกษตรกรปลูกแตงแคนตาลูปมากกว่า 20 ราย พื้นที่ปลูกกว่า 100ไร่ ปัจจุบันมีเกษตรกรปลูกเพียง 8 ราย เนื้อที่ปลูกประมาณ 20 ไร่เท่านั้น
 
ด้านนายผัด  คำแดง  เกษตรกรผู้ปลูกแตงแคนตาลูป บ้านหนองสรวงอีกราย กล่าวว่า ได้ปลูกแคนตาลูปจำนวน 2 ไร่ ลงทุนไปทั้งสิ้นประมาณ 60,000 บาท หากไม่ประสบปัญหาเพลี้ยไฟไรแดงระบาดก็จะสามารถเก็บผลผลิตส่งขายได้ไม่น้อยกว่า  100,000 บาท แต่หลังจากได้เกิดศัตรูพืชระบาดไม่รู้ว่าจะสามารถเก็บผลผลิตขายได้ทุนคืนหรือไม่จึงอยากเรียกร้องให้หน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องหาวิธีกำจัดเพลี้ยไฟไรแดงที่กำลังระบาดเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกแตงแคนตาลูปที่กำลังประสบปัญหาเดือดร้อนอยู่ในขณะนี้ด้วยก่อนที่เกษตรกรจะต้องเลิกทำอาชีพปลูกแคนตาลูปทั้งหมด