ลำปางจับจริงมือเผาป่าเซ่นหมอกควันไฟ
การเผาไหม้ป่า ทำให้ จ.ลำปาง เป็นจังหวัดที่ปัญหาหมอกควันไฟ และฝุ่นละอองขนาดเล็ก พุ่งนำโด่งเป็นจังหวัดแรก
โดย...อัศวิน ลำปาง
ถึงแม้ จ.ลำปาง นำ จะระดมทุกภาคส่วนราชการกว่า 30 หน่วย ทั้งระดับจังหวัด และระดับอำเภอ มานั่งทำงานร่วมกัน เพื่อเฝ้าระวังปัญหาหมอกควันไฟ ภายใต้ศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควันไฟของ จ.ลำปาง มาตั้งแต่เดือนพ.ย. 2556 เพื่อพร้อมรับมือกับสถานการณ์ที่อาจจะเกิดขึ้นเร็ว และแรงกว่าทุกปี โดยเฉพาะในปีนี้ ที่สภาพอากาศใน จ.ลำปาง หนาวเย็นมาก อย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน อาจจะเป็นปัจจัยสำคัญ ที่จะทำให้เกิดการเผาไหม้ในพื้นที่เป็นบริเวณกว้างได้ จนทำให้เกิดควันไฟ และฝุ่นละอองขนาดเล็กฟุ้งในอากาศ ปกคลุมในพื้นที่ในระดับที่หนาแน่นมากกว่าปกติ ดังนั้น ทางจังหวัดจึงออกต้องประกาศมาตรการต่างๆ เพื่อหวังสกัดกั้นไม่ให้ปัญหาดังกล่าวเกิดขึ้น จนสภาพอากาศเกิดภาวะวิกฤติ ไม่ว่าจะเป็นมาตรการควบคุมการเผาในที่โล่งแจ้ง และการประกาศคุมเข้มพื้นที่ป่า เพื่อป้องกันการบุกรุกป่า ด้วยการเผา และประกาศห้วง 100 วันอันตราย จากการเผา ระหว่างวันที่ 27 มกราคม – 6 พฤษภาคม 2557 เพื่อขอความร่วมมือให้ชาวลำปาง งดการเผาทุกกรณี
อย่างไรก็ตามเนื่องด้วยในปีนี้ที่สภาพอากาศ เสริมปัจจัยความแห้งแล้ง และการเผาเป็นอย่างดี ประชาชนชาวลำปาง บางคนที่ไม่มีจิตสำนึก ก็ได้รุกเข้าป่า เพื่อหวังหาของป่า และเปิดทางเดินด้วยการเผาป่า ทำให้ป่าเมืองลำปางหลายผืนต้องตกอยู่ในกองไฟ เกิดไฟไหม้ป่าขยายวงกว้างในหลายพื้นที่ โดยจากการขึ้นบินทางอากาศของ นายธานินทร์ สุภาแสน ผู้ว่าราชการจังหวัด และ พลตรี ชีวัน โหละบุตร ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 32 ค่ายสุรศักดิ์มนตรี จ.ลำปาง พบว่า ป่าไม้ ทั้งป่าสงวน และป่าอุทยานแห่งชาติ ในเขต อ.งาว อ.แจ้ห่ม อ.แม่เมาะ และ อ.แม่ทะ ถูกบุกรุกแผ้วถางไปหลายพันไร่ และมีการเผาป่า เพื่อให้ราบเตี้ยน หวังจะเข้าครอบครองที่ดิน ด้วยการปลูกพืชทางการเกษตร ทำให้ทางจังหวัด ต้องเปิดปฎิบัติการเชิงรุกภาคพื้นดิน ออกเดินเท้าสำรวจ และยึดพื้นที่ป่า ที่ถูกบุกรุกไปกลับคืนมา พร้อมจัดเหยี่ยวดับไฟป่า เข้าไปสงบไฟ ที่กำลังลุกไหม้อย่างหนัก ให้ดับลง ไม่ให้ควันไฟลอยไปปกคลุม จ.ลำปาง
ปัญหาดังกล่าวนั้น ล่าสุด นายธานินทร์ สุภาแสน ผวจ.ลำปาง ได้นั่งหัวโต๊ะสรุป และประเมินสถานการณ์หมอกควันไฟของ จ.ลำปาง ว่าตั้งแต่ประกาศใช้มาตรการควบคุมการเผาในห้วง 100 วันอันตรายของ จ.ลำปาง ปรากฏว่าค่าเฉลี่ยหมอกควันไฟ และฝุ่นละอองขนาดเล็กในอากาศของ จ.ลำปาง ได้พุ่งสูงเกินค่ามาตรฐานมา 21 วันแล้ว โดยเฉพาะตั้งแต่วันที่ 1 – 11 มี.ค.ที่ผ่านมา ค่าเกินมาตรฐานต่อเนื่องติดต่อกันนานหลายวัน และแน่นอนว่า จะส่งผลกระทบต่อสุขภาพร่างกายของประชาชรชาวลำปาง ที่หายใจในที่โล่งแจ้ง จะทำให้ป่วยเป็นโรคระบบทางเดินหายใจ โดยเฉพาะผู้ป่วยโรคเรื้อรัง ทั้งโรคหอบหื่น และโรคปอด ที่จะเกิดอาการหนัก จากควันไฟ และฝุ่นละอองขนาดเล็ก ที่ปกคลุม จ.ลำปาง นับเป็นสถานการณ์ที่มาจากน้ำมือมนุษย์ ที่เผาป่าเมืองลำปาง ทั้งสิ้น
“จากค่าเฉลี่ยหมอกควันไฟ และฝุ่นละอองขนาดเล็กที่เกินค่ามาตรฐานนานหลายวัน ขอย้ำว่า ทางจังหวัด ไม่ได้นิ่งนอนใจต่อปัญหาที่เกิดขึ้น ที่ผ่านมา ได้ระดมทุกภาคส่วน และเจ้าหน้าที่ของรัฐ ร่วมกันดำเนินงานตามมาตรการต่าง ๆ ที่ได้วางไว้อย่างเต็มที่ทั้งจังหวัด แต่เนื่องจากไฟไหม้ป่า จากผืนป่าที่มาก เนื้อที่กว่า 5 ล้านไร่ จึงทำให้การเฝ้าระวัง ไม่สามารถดูแลได้หมด จึงทำให้ไฟป่าเกิดขึ้นในหลายจุด และเป็นบริเวณกว้าง ทำให้สาเหตุหลักของสถานการณ์ในปีนี้มาจากไฟป่าทั้งสิ้น ซึ่งจากการรวบรวมจุดความร้อน หรือจุดฮอทสปอต ภาพถ่ายดาวเทียมตรวจพบในพื้นที่ จ.ลำปาง ในช่วงเฝ้าระวัง มีมากถึง 522 จุด โดยเกิดขึ้นในเขต อ.เถิน จ.ลำปาง มากสุด รองลงมา อ.แม่พริก แม่เมาะ และแม่ทะ” นายธานินทร์
นอกจากนี้จากการนำกฎหมายเข้ามาบังคับใช้กับผู้ฝ่าฝืน เพื่อป้องกันการจุดไฟเผาป่า และในที่โล่งแจ้งทุกกรณี เจ้าหน้าที่ได้จับกุมคนเผาป่าได้แล้ว 3 คน และหากมีผู้บุกรุกเผาป่าอีก ก็จะมีการจับกุมจริง และจับกุมอีก ตามมาตรการต่าง ๆ เพื่อให้สถานการณ์หมอกควันไฟ และฝุ่นละอองขนาดเล็กในอากาศของ จ.ลำปาง บรรเทาลง ไม่รุนแรงไปมากกว่านี้ นอกจากนี้ จ.ลำปาง ยังประเมินสถานการณ์หมอกควันไฟในพื้นที่อีกว่า ทางสถานีอุตุนิยมวิทยาลำปาง ได้คาดการณ์ ว่า ในห้วงระหว่างวันที่ 15 – 17 มี.ค.นี้ ในพื้นที่อาจจะเกิดฝนฟ้าคะนอง และลมกระโชกแรง คาดว่าจะทำให้สถานการณ์บรรเทาลง จนกลับเข้าสู่ภาวะปกติ จากฝน และลม ที่จะชะล้างหมอกควันไฟ และฝุ่นละอองขนาดเล็กเจือจางลงไป และเพื่อให้เกิดการชะล้าง และเจือจางปัญหาดังกล่าว ให้หมดไป ฉะนั้น ในห้วงก่อนที่จะเกิดฝนฟ้าคะนอง ซึ่งจะทำให้บนท้องฟ้าเกิดความชื้นมาก จะได้ประสานให้ศูนย์ปฎิบัติการฝนหลวงภาคเหนือ ให้เข้ามาบินทำฝนเทียมในพื้นที่ จ.ลำปาง เพื่อให้เกิดฝนตกเร็วขึ้น ผู้ว่าราชการจังหวัด กล่าวทิ้งท้าย
ในปีนี้ จ.ลำปาง นับเป็นจังหวัดเดียวในไทย ที่ค่าเฉลี่ยพุ่งสูงเกินค่าต่อเนื่องนานหลายวัน เป็นจังหวัดที่ทางกรมควบคุมมลพิษ ห่วงมากสุดในทุกปีที่ผ่านมา และทุกปีต่อจากนี้ไป เพราะในพื้นที่ ยังมีการเผาอย่างต่อเนื่อง เมื่อเข้าสู่ฤดูแล้ง โดยเฉพาะการเผาไหม้ป่า ทำให้ จ.ลำปาง เป็นจังหวัดที่ปัญหาหมอกควันไฟ และฝุ่นละอองขนาดเล็ก พุ่งนำโด่งก่อนและเกิดเป็นปัญหาที่ยาวนานก่อน กว่าทุกจังหวัดในภาคเหนือ ที่สำคัญไปกว่านั้น พื้นที่ทางภูมิศาสตร์ของ จ.ลำปาง ที่เป็นแอ่งกระทะ และมีภูเขาเข้าสูงล้อมรอบ ก็เอื้อทำให้ควันไฟจากการเผาไหม้ ไม่ลอยไปไหน กลับสะสมลอยตัวคลุมแอ่งกระทะลำปางแห่งนี้ นับเป็นปัจจัยเสริมที่ทำให้ปัญหาหมอกควันไฟเกิดขึ้นทุกปี อย่างที่ไม่มีปีใด จะไม่เกิดขึ้น
หากประชาชน ทุกคน หรือบางคน ที่เผาป่าหยุดสักนิด ไม่เข้าไปเผาป่า เห็นประโยชน์ส่วนร่วม มากกว่าส่วนตน วันนั้นจะทำให้ทุกแล้งของเมืองลำปาง “อากาศจะกลับมาสดใส และบริสุทธิ์” กันเสียที..!