ปิดตายวัดร่องขุ่นสมบัติชาติมูลค่าหมื่นล้าน

ข่าวการประกาศปิดวัดร่องขุ่น จ.เชียงราย ออกไปอย่างไม่มีกำหนดของ เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ศิลปินแห่งชาติ สาขาทัศนศิลป์ (จิตรกรรม) ประจำปี 2554 ส่งผลกระทบโดยตรงกับความรู้สึกของคนไทยและยังสะเทือนในมิติเศรษฐกิจ

นั่นเพราะสถานที่แห่งนี้เปรียบดัง “แลนด์มาร์ก” ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกหัวระแหงเข้ามายัง จ.เชียงราย ตั้งแต่วันแรกที่เปิดให้เยี่ยมชม

“ถ้ามันแก้ไขไม่ได้ก็ต้องปล่อยทิ้งให้เป็นอนุสรณ์ของการเตือนแผ่นดินไหว วัดร่องขุ่นเคยสวยงาม วันหนึ่งต้องมาจบลงเพราะแผ่นดินไหว เสียหายไม่สามารถบูรณะกลับคืนมาได้ ก็คงทิ้งให้เป็นอย่างนี้” อาจารย์เฉลิมชัย เผยความรู้สึก

“ผมมาที่นี่ตอนอายุ 42 ผ่านไป 19 ปี หมดเงินไป 1,100 ล้าน ถามว่าเสียหายมากขนาดไหน ถ้าคิดเป็นเงินก็ขนาดนั้นแหละ”

“แต่ที่เสียหายคงเป็นเรื่องคุณค่ามากกว่า เพราะว่าศิลปะนั้นสร้างด้วยเงิน 1,100 ล้าน แต่ว่าค่าของมันเป็นหมื่นเป็นแสนล้านล้าน ดังนั้นมันจึงแพงกว่า แพงตรงคุณค่าของงานศิลปะต่างหาก ถ้าให้ฝรั่งประเมินราคาวัดร่องขุ่นมันประเมินไม่ได้”

ศิลปินแห่งชาติท่านนี้ ยอมรับว่า ตอนนี้วัดร่องขุ่นเละ

“ตอนนี้เละ ทุกอย่างพังหมด ที่เอียงอยู่มันก็หักเลย ที่เอียงนิดเดียวก็โน้มลง ทุกอย่างมีปัญหาหมด ตั้งแต่โบสถ์ หอพระธาตุ สะพานสุขาวดีหักเลย ต้องรื้อทิ้ง หอพระพุทธรูปสี่ทิศเรียบร้อย ... จบ”

“อาจมองว่าไม่เห็นเป็นอะไรเลย แค่ยอดหักก็ซ่อมได้ แต่จริงๆ มันไม่ใช่แค่ยอดหักนะครับ มันเป็นเรื่องของโครงสร้าง ซึ่งผมจะต้องใช้เวลาในการพิจารณาว่าจะแก้ไขซ่อมแซมให้กลับมาเหมือนเดิมได้ไหม”

“ผมขอเวลาไม่เกิน 10 วัน จะให้คำตอบว่าจะทำยังไงกับวัดร่องขุ่น วัดนี้เป็นของคนไทยทุกคน ผมสร้างไม่ได้ขอเงินใคร สร้างด้วยมือผมเอง มอบให้เป็นสมบัติแก่พี่น้องประชาชนคนไทยทุกคน”

“พี่น้องไม่ต้องห่วง ผมยังยิ้มได้สบายอยู่ มีคนร้องห่มร้องไห้ ฝรั่ง ลูกศิษย์ลูกหาผมเสียน้ำตาไปก็เยอะ ผมบอกอย่าไปเสียทุกอย่างมันเป็นธรรมชาติ เราไม่สามารถรักษาอะไรไว้ให้มันอยู่ยืนยาวได้ แม้กระทั่งชีวิตเรา”

ทั้งนี้ เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 6 พ.ค.ที่ผ่านมา เกิดอาฟเตอร์ช็อกอีกหลายครั้ง ส่งผลให้ยอดฉัตรที่เอนเอียงหักลงมา ขณะที่โครงสร้างต่างๆ เสียหายหมด ล่าสุดอาจารย์เฉลิมชัยสั่งปิดตายแล้ว