นายกคนกลาง ตามวิถีทางรัฐธรรมนูญ

17 พฤษภาคม 2557

การได้มาซึ่งนายกคนกลางเพื่อแก้วิกฤติชาติ อย่างเร่งด่วน เป็นไปตามวิถีทางรัฐธรรมนูญ

นายกคนกลาง ตามวิถีทางรัฐธรรมนูญ
โดย-อภิชาติ ดำดี สมาชิกวุฒิสภา จ.กระบี่

การได้มาซึ่งนายกคนกลางเพื่อแก้วิกฤติชาติ อย่างเร่งด่วน ที่วุฒิสภาพยายาม หาทางออกกับทุกภาคส่วนในสังคมไทยขณะนี้ ไม่ใช่ “นายกนอกรัฐธรรมนูญ” “นายกเถื่อน” “นายกม.7” แต่เป็นนายกที่จะได้มาตามกระบวนการที่เป็นไป ตามวิถีทางรัฐธรรมนูญ ดังนี้

1.รัฐธรรมนูญ ม.182 (7) : ความเป็นรัฐมนตรีของนายกยิ่งลักษณ์สิ้นสุดลง ตั้งแต่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าได้กระทำการอันต้องห้าม  ตาม ม.266, 268

2.รัฐธรรมนูญ ม.180 วรรคสอง : เมื่อความเป็นรัฐมนตรีของนายกยิ่งลักษณ์ สิ้นสุดลง ต้องดำเนินการให้มีการแต่งตั้งนายกโดยสภาผู้แทนราษฎร ตามม.172, 173 โดยอนุโลม

(หมายเหตุ : นับตั้งแต่ปี 2476 มีการแต่งตั้งนายกใหม่ต่อเนื่องหลังจากนายกลาออก 8 ครั้ง คณะรัฐมนตรีลาออก 1 ครั้ง และความเป็นรัฐมนตรีของนายกสิ้นสุดลง 2 ครั้ง คือ กรณีนายกสมัครและนายกสมชาย และครั้งที่สามคือ กรณีนายกยิ่งลักษณ์)

•ประเทศไทยไม่มีนายกและครม.ที่มี อำนาจเต็มในการบริหารราชการแผ่นดิน และอยู่ในสถานการณ์ไม่ปกติ คือต้องแต่งตั้งนายกในขณะที่ไม่มีสภาผู้แทนราษฎร

3.รัฐธรรมนูญ ม.132 : เมื่อสภาผู้แทนราษฎรถูกยุบ (1)วุฒิสภาทำหน้าที่รัฐสภาในเรื่องสำคัญ ของประเทศเกี่ยวกับสถาบันพระมหากษัตริย์ (ม.19, 21,22, 23) และการประกาศสงคราม (ม.189)

(2)วุฒิสภาทำหน้าที่พิจารณาให้บุคคล ดำรงตำแหน่งใดตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญ

•การใช้กฎหมายโดยการเทียบเคียง  (Analogy) จากมาตรา 132 (1) ได้ว่า ในขณะที่ไม่มีสภาผู้แทนราษฎร วุฒิสภาทำหน้าที่รัฐสภาในเรื่องสำคัญยิ่งของประเทศได้ และมาตรา 132

(2)ให้อำนาจวุฒิสภาในการพิจารณาให้บุคคลดำรงตำแหน่งตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญได้

4.รัฐธรรมนูญ ม.7 : อุดช่องว่างในรัฐธรรมนูญไว้ว่า เมื่อไม่มีบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญบังคับใช้แก่กรณีใด ให้วินิจฉัยกรณี
นั้นไปตามประเพณีการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข

(หมายเหตุ : จากประวัติศาสตร์การเมืองไทย เคยมีการแต่งตั้งนายกตามประเพณีการปกครองเกิดขึ้นเพื่อแก้ไขปัญหาบ้านเมืองในยามวิกฤติ 2 กรณี คือ -กรณีปี 2516 นายกถนอมลาออก นายทวี แรงขำ รองประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติใน ขณะนั้นเป็นผู้รับสนองพระบรมราชโองการแต่งตั้งให้อาจารย์สัญญา ธรรมศักดิ์เป็นนายก

-กรณีปี 2535 นายกสุจินดา ลาออก ดร.อาทิตย์ อุไรรัตน์ ประธานสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งทำหน้าที่ประธานรัฐสภาในขณะนั้นเป็นผู้รับ สนองพระบรมราชโองการแต่งตั้งให้นายอานันท์ ปันยารชุน เป็นนายกฯ ออการตัดสินใจของ ดร.อาทิตย์ ในครั้งนั้น ได้รับความชื่นชมจากสังคมไทยและยกย่องให้เป็น “วีรบุรุษประชาธิปไตย”)

จากที่กล่าวมาข้างต้น “นายกคนกลาง ตามวิถีทางรัฐธรรมนูญ” จึงมีความชอบในทางนิติศาสตร์ทั้งหลักกฎหมาย, การใช้กฎหมายโดยการเทียบเคียง และประเพณีการปกครอง

แต่ปัจจัยสำคัญอีกประการหนึ่งที่วุฒิสภาและทุกภาคส่วนต้องช่วยกันตอบโจทย์คือความชอบในทางรัฐศาสตร์ เพื่อให้นายกคนกลางและครม.ชุดใหม่เป็นที่ยอมรับมากที่สุด แม้จะไม่ทั้งหมดก็ตาม โดยมีแรงเสียดทานในระดับที่บริหารจัดการได้

ทั้งนี้ เพื่อนำพาประเทศไทยฝ่าวิกฤติ แก้ปัญหาเศรษฐกิจเฉพาะหน้า และดำเนินการปฏิรูปการเมืองอย่างเร่งด่วน โดยมีกรอบเวลาที่ชัดเจนในการนำพาบ้านเมืองไปสู่การเลือกตั้งที่สุจริตยุติธรรม ทุกฝ่ายยอมรับได้ เพื่อการปฏิรูปประเทศไทยไปสู่สังคมธรรมาภิบาลที่มีความสันติสุขอย่างยั่งยืนสถาพรต่อไป

Thailand Web Stat