กปปส.กางแผนรบครั้งสุดท้าย

18 พฤษภาคม 2557

เกมการต่อสู้ของกลุ่มผู้ชุมนุมขับไล่ระบอบทักษิณเดินเข้าสู่ศึกครั้งสุดท้ายอีกครั้ง เมื่อ สุเทพ เทือกสุบรรณ

เกมการต่อสู้ของกลุ่มผู้ชุมนุมขับไล่ระบอบทักษิณเดินเข้าสู่ศึกครั้งสุดท้ายอีกครั้ง เมื่อ สุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส. ได้เรียกประชุมแกนนำ กปปส.ต่างจังหวัด เครือข่ายแนวร่วมอื่นๆ กปปส. ณ ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล เมื่อวันที่ 17 พ.ค.ที่ผ่านมา

สุเทพ เปิดเผยว่า วุฒิสภาไม่มีความชัดเจนว่าจะดำเนินการสรรหานายกรัฐมนตรีคนใหม่ เพื่อเดินหน้าปฏิรูปการเมืองตามข้อเรียกร้องของ กปปส.ได้เมื่อใด และไม่รู้ว่าจะดำเนินการให้สำเร็จเสร็จสิ้นได้เมื่อใด

ดังนั้น จากการหารือกันของ กปปส.และเครือข่าย จึงได้ข้อสรุปถึงวิธีปฏิบัติการต่อสู้ครั้งสุดท้าย ประการแรก จะเริ่มปฏิบัติตั้งแต่วันที่ 18 พ.ค. และกำหนดวันสุดท้ายการปฏิบัติต้องจบภายในวันที่ 26 พ.ค.นี้

วันที่ 18 พ.ค. จะเริ่มปฏิบัติการตั้งแต่เวลา 10.00 น. โดยจะเชิญคณะกรรมการของสมาพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ (สรส.) ทุกเครือข่ายมาร่วมประชุมที่ทำเนียบรัฐบาล เพื่อตกลงมอบหมายแบ่งภารกิจกันว่าแต่ละ สรส.ต้องทำอะไรร่วมกัน และจะแยกปฏิบัติการตามความเหมาะสมของ สรส. เมื่อได้ข้อสรุปในวันที่ 19 พ.ค. จึงเริ่มลงมือ

นอกจากนี้ วันเดียวกัน เวลา 14.00 น. จะเชิญอดีตข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ อาทิ ปลัดกระทรวง รองปลัดกระทรวง อดีตผู้ว่าฯ แต่ละจังหวัด ที่เกษียณอายุราชการมาประชุมร่วมกัน เพื่อร่วมกันกำหนดแผนปฏิบัติของส่วนราชการ เมื่อได้ข้อสรุปจะได้แบ่งงานไปปฏิบัติในวันนั้น

“ขอให้ข้าราชการที่สนับสนุนแนวทาง กปปส. ซึ่งอยู่ตามกระทรวง ทบวง กรม ลุกขึ้นปฏิเสธคำสั่ง ครม. ซึ่งไม่มีอำนาจ เพราะสั่งไปอาจทำให้เกิดปัญหาข้อกฎหมาย และต้องขอให้แต่ละกระทรวงทำชัดเจน เปิดเผยเหมือนข้าราชการกระทรวงสาธารณสุข”

ขณะที่มวลมหาประชาชนจะแยกย้ายกันออกทวงคืนอำนาจอธิปไตยจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) รักษาการที่เหลืออยู่ เพื่อให้รัฐมนตรีเหล่านั้นส่งใบลาออกมา ไม่ว่าอยู่กระทรวงหรืออยู่ที่บ้านหรือที่ไหนก็จะตามไปหาทุกที่ เพื่อเรียกร้องให้ส่งมอบอำนาจคืนให้กับประชาชนโดยดี เพราะขวางทางเจริญของประเทศ ซึ่งอาจจะต้องตามหากัน 3 วัน ตั้งแต่วันจันทร์ อังคาร พุธ

“หากประชาชนรู้เบาะแสรัฐมนตรี 24 คน อยู่ที่ไหน ขอให้แจ้งมาที่ กปปส. เพื่อจะได้ตามทวงคืนอำนาจ ใครเป็นเพื่อนบ้าน หรืออยู่คอนโดเดียวกัน หากรู้มาหลบอยู่ เช่น เซฟเฮาส์ ของ นิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล พงศ์เทพ เทพกาญจนา ขอให้แจ้งมา” สุเทพ กล่าว

นอกจากนี้ วันที่ 22 พ.ค. จะเรียกประชุมหัวหน้าส่วนราชการ อาทิ ปลัดกระทรวง อธิบดี อัยการสูงสุด รวมถึงผู้ว่าฯ หากไม่มาหรือมาไม่ได้ ก็ส่งตัวแทนเข้าร่วมประชุม เพื่อช่วยกันล้างอิทธิพลระบอบทักษิณในกระทรวง ทบวง กรม ให้หมดสิ้น เพราะบางกระทรวง เช่น มหาดไทย ลงลึกมาก

อย่างไรก็ดี ระหว่างวันที่ 2325 พ.ค. จะเป็นการลุกฮือครั้งใหญ่ของประชาชนทั้งประเทศและจะจบในวันที่ 26 พ.ค. แพ้ชนะรู้กันวันนั้น ถ้าไม่ชนะในวันที่ 27 พ.ค. จะเข้ามอบตัว สลายการต่อสู้ เพราะสู้มากกว่านี้ไม่ไหว เนื่องจากเสียหายต่อประเทศ อีกทั้งประชาชนต้องกลับไปทำมาหากิน แพ้ชนะต้องทำใจ เพราะได้ทำถึงที่สุดแล้ว

“ตั้งแต่วันพรุ่งนี้ถึงวันที่ 26 พ.ค. จะทุ่มเทกำลังทั้งหมด ทำภารกิจอย่างเต็มที่ เพราะหนังเรื่องนี้ฉายนานแล้ว จะจบแบบแฮปปี้หรือไม่ ขึ้นอยู่กับประชาชน” เลขาธิการ กปปส. กล่าว

อย่างไรก็ตาม สุเทพ ระบุอีกว่า เหตุผลที่ต้องปฏิบัติการคู่ขนานกับการดำเนินการแต่งตั้งนายกฯ ของวุฒิสภา เนื่องจากการแถลงประธานวุฒิสภาเมื่อวันที่ 16 พ.ค.ที่ผ่านมา ยืนยันชัดเจนว่า สมาชิกวุฒิสภามีอำนาจและหน้าที่เลือกนายกฯ คนใหม่ แต่ไม่มีความชัดเจนเรื่องระยะเวลา

“การที่วุฒิสภาจะเลือกนายกฯ คนใหม่ได้ เป็นไปตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญตามมาตรา 132 172 173 180 และมาตรา 7 ประการที่สอง วุฒิสภามีความเห็นเหมือนกับ กปปส.ที่ต้องการปฏิรูปประเทศทันที ประการที่สาม วุฒิสภาเห็นว่านายกฯ ที่ สว.เลือกไม่ใช่นายกฯ ชั่วคราว หรือนายกฯ รักษาการชั่วระยะเวลาสั้นๆ แต่เป็นนายกฯ ที่มีอำนาจเต็มจริงๆ เพื่อแก้ปัญหาประเทศ ประชาชน และปฏิรูปประเทศ”

ทั้งนี้ สาระสำคัญ 3 ข้อของวุฒิสภา ต้องดำเนินการให้มีนายกฯ โดยเร็ว จึงเกิดคำถามว่า โดยเร็วเมื่อไหร่ และทำอย่างไร

“น่าเสียดายคำแถลง สว.ไม่สามารถกำหนดชี้ชัดได้ว่ากี่วัน เมื่อไหร่ การเปิดกว้างจึงไม่สามารถตอบคำถามประชาชนทั้งประเทศได้ เราได้ต่อสู้ยาวนานมาก มากที่สุดในการต่อสู้ของประชาชนในประเทศนี้” สุเทพ กล่าว

ขณะที่ พีระศักดิ์ พอจิต สว.อุตรดิตถ์ ในฐานะว่าที่รองประธานวุฒิสภาคนที่ 2 ระบุว่า แม้สุเทพไม่พอใจท่าทีของวุฒิสภา แต่ก็จะทำงานเพื่อให้ได้นายกฯ ที่มีอำนาจเต็ม โดยต้องรอดูการเจรจาระหว่างสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย รองประธานวุฒิสภาคนที่ 1 กับนิวัฒน์ธำรง ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกฯ ในวันที่ 19 พ.ค. ว่า รัฐบาลรักษาการจะยอมลาออกหรือไม่

“ถ้าไม่ยอมลาออกคงต้องใช้ช่องทางการเทียบเคียงรัฐธรรมนูญ ให้ สว.ทำหน้าที่สรรหาตัวนายกฯ ที่มีอำนาจเต็มมาบริหารราชการแผ่นดินต่อไป” สว.อุตรดิตถ์ กล่าว

พีระศักดิ์ ย้ำว่า ขั้นตอนในส่วนนี้ยังไม่มีการกำหนดกรอบเวลาว่าต้องทำให้เสร็จภายในเมื่อใด แต่จะทำให้เร็วที่สุด มั่นใจว่า การได้ตัวนายกฯ ที่มีอำนาจเต็มมีโอกาสสูงมาก เพราะขณะนี้มีความคืบหน้าไปแล้ว 80% โดยในวันที่ 21 พ.ค. จะเรียก สว.เลือกตั้ง ประมาณ 30 คน มาหารือและทำความเข้าใจเรื่องการหาทางออกประเทศ

ด้าน นิวัฒน์ธำรง ให้สัมภาษณ์ที่ จ.เชียงใหม่ ว่า รัฐบาลยินดีจะหารือกับวุฒิสภาในวันที่ 19 พ.ค.นี้ เพื่อร่วมหาทางออกของประเทศตามคำเชิญของวุฒิสภา แต่ยังยืนยันว่าทุกทางออกต้องอยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญและกฎหมายที่เกี่ยวข้องเท่านั้น

“การเสนอแต่งตั้งนายกฯ มาตรา 7 นั้น ในภาวะเช่นนี้ไม่มีกฎหมายรองรับก็ไม่สามารถทำได้” ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกฯ ระบุ

นิวัฒน์ธำรง ย้ำว่า รัฐบาลจะหารือกับ กกต.กำหนดวันเลือกตั้งอีกครั้ง หลังจากการหารือครั้งแรกล่มไป

Thailand Web Stat