posttoday

21 วิธีคิดที่ทำให้คนรวย...แตกต่าง (ตอนที่ 3)

29 พฤษภาคม 2557

วันนี้จะคุยกันต่อเกี่ยวกับเรื่อง “21 วิธีคิดที่ทำให้คนรวย...แตกต่าง” จากทั้งหมด 7 ตอนด้วยกัน (ตอนที่ 1-2 ลงตีพิมพ์ใน นสพ.โพสต์ทูเดย์ ฉบับวันที่ 27-28 พ.ค.) โดยวิธีคิดเหล่านี้แหละ!! จะช่วยให้คุณผู้อ่านสามารถเปลี่ยนวิธีคิด หรือสร้างวิธีคิดใหม่ๆ ขึ้นมาได้ ในบทนี้ผมจะขอคุยให้คุณผู้อ่านเข้าใจเพิ่มขึ้นอีก 3 วิธี ดังนี้

วันนี้จะคุยกันต่อเกี่ยวกับเรื่อง “21 วิธีคิดที่ทำให้คนรวย...แตกต่าง” จากทั้งหมด 7 ตอนด้วยกัน (ตอนที่ 1-2 ลงตีพิมพ์ใน นสพ.โพสต์ทูเดย์ ฉบับวันที่ 27-28 พ.ค.) โดยวิธีคิดเหล่านี้แหละ!! จะช่วยให้คุณผู้อ่านสามารถเปลี่ยนวิธีคิด หรือสร้างวิธีคิดใหม่ๆ ขึ้นมาได้ ในบทนี้ผมจะขอคุยให้คุณผู้อ่านเข้าใจเพิ่มขึ้นอีก 3 วิธี ดังนี้

7) คนทั่วไปจะหาเงินจากการทำในสิ่งที่...ตัวเองไม่ชอบ ส่วนคนรวยจะพยายามทำในสิ่งที่...ตัวเองชอบ

ปีเตอร์ ลินช์ (Peter Lynch) หนึ่งในนักลงทุนที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในโลก คุณผู้อ่านรู้ไหมครับว่า ก่อนที่ลินช์จะเข้าสู่วงการการเงินและตลาดทุนนั้น เขาทำอาชีพอะไรมาก่อน?

ใช่แล้วครับ...เขาทำอาชีพแคดดี้ในสนามกอล์ฟแห่งหนึ่งในมลรัฐแมสซาชูเซตส์ สหรัฐอเมริกา เขาเองไม่ชอบอาชีพแคดดี้เลย จึงอยากแสวงหาอาชีพอื่น และแล้วลินช์ก็โชคดีที่ได้เป็นแคดดี้ให้กับประธานบริษัท ฟิเดลลิตี้ บริษัทลงทุนขนาดใหญ่แห่งหนึ่งของสหรัฐอเมริกา เขาจึงขอร้องให้ประธานรับเขาเข้าทำงานในฟิเดลลิตี้

ที่ฟิเดลลิตี้ ลินช์เริ่มต้นจากการเป็นพนักงานฝึกงาน แต่ด้วยที่อาชีพการลงทุนเป็นอาชีพที่เขาชอบ เขาจึงทุ่มเททั้งชีวิตและจิตใจให้กับงานนี้ ลินช์ได้รับการเลื่อนตำแหน่งโดยตลอดมาเป็นนักวิเคราะห์ หัวหน้าฝ่ายวิเคราะห์ และเป็นผู้จัดการกองทุนฟิเดลลิตี้เม็กเจลลันในปี 2544

ที่นี่...ลินช์ได้สร้างผลงานที่โดดเด่นจนยากที่จะมีผู้ใดเสมอเหมือน กองทุนฟิเดลลิตี้เม็กเจลลันได้สร้างผลตอบแทนสูงถึง 29.2% ตลอดระยะเวลายาวนานถึง 13 ปี (2520–2533) มูลค่ากองทุนก่อนที่ลินช์จะเข้าบริหารอยู่ที่ 1.8 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ ก็ได้กลายไปเป็น 14 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ หรือเพิ่มขึ้นเป็น 778 เท่าของเงินกองทุนเมื่อเริ่มต้น และนั่นคือผลงานที่ยอดเยี่ยมที่สุดของกองทุนอายุไม่เกิน 20 ปี ที่ยังไม่มีใครสามารถลบสถิติได้จนถึงปัจจุบัน

8) คนทั่วไปจะพยายามตั้งเป้าหมายในชีวิตให้ต่ำๆ เพื่อจะได้ไม่ผิดหวัง แต่คนรวยจะตั้งเป้าหมายในชีวิตไว้สูงๆ เพื่อท้าทายตนเอง

ผมมีตัวอย่างหนึ่งของชีวิตจริงของคนคนหนึ่ง ที่เขาตั้งเป้าหมายในชีวิตไว้สูงๆ เพื่อท้าทายตนเอง โดยการตั้งเป้าหมายในชีวิตไว้ว่า “ข้า...จะทำทุกอย่างเพื่อให้ได้เงินล้านก่อนอายุ 20 ปี”

เขามีชื่อว่า คุณทิวา ชินธาดาพงศ์ หรือคุณมี่ มี่เป็นคนชอบคิดที่อยากจะ “รวยเร็ว” ดังนั้นหลังจากเรียนจบชั้น ม.3 มี่จึงตัดสินใจไม่เรียนต่อ ม.4 แต่ไปยึดอาชีพขี่มอเตอร์ไซค์รับจ้างแทน มี่ตั้งเป้าจะรวยจากการขี่มอเตอร์ไซค์รับจ้าง เขาตั้งเป้าที่จะต้องหาเงินให้ได้อย่างต่ำวันละ 1,000 บาท บางวันลูกค้าน้อยมาก เขาต้องขี่มอเตอร์ไซค์ตั้งแต่ 6 โมงเช้ายันเที่ยงคืน เพียงเพื่อให้ทุกวันต้องได้เงิน 1,000 บาท

แม้ว่ามี่จะไม่ได้ประสบความสำเร็จจากการขี่มอเตอร์ไซค์รับจ้าง และเขายังต้องทำงานอีกหลายอย่างกว่าจะประสบความสำเร็จ เช่น มัคคุเทศก์ ขายประกัน ขายโทรศัพท์มือถือ และอีกสารพัด แต่ในที่สุดมี่ก็ประสบความสำเร็จในชีวิตจนได้

ทุกวันนี้อาชีพที่แท้จริงของมี่คือ นักลงทุนเต็มตัว และมีเงินในบัญชีเป็นหลักร้อยล้านบาทแล้ว ปัจจัยสำคัญปัจจัยหนึ่งที่ทำให้เขาประสบความสำเร็จได้มากถึงขนาดนี้ก็คือ “การตั้งเป้าหมายให้สูงไว้ (Aim High)” คุณผู้อ่านล่ะครับ ตั้งเป้าหมายในชีวิตที่สูงไว้บ้างหรือยัง?

9) คนทั่วไปคิดว่า เขาต้อง “ทำ” บางสิ่งบางอย่างเพื่อที่จะรวย แต่คนรวยคิดว่า เขาต้อง “เป็น” บางสิ่งบางอย่างเพื่อที่จะรวย

ผมเป็นคนชอบภาษาจีน และผมก็พยายามจะเรียนภาษาจีนให้ได้ดี ผมจึงฝึกอ่าน เขียน ฟังภาษาจีนอยู่อย่างต่อเนื่อง แต่เมื่อผมเจอกับคนจีนและต้องใช้ภาษาจีน คำพูดต่างๆ ที่ควรจะใช้ก็พลันมลายลืมหายเกือบจะหมดสิ้น นอกจากนั้นยังเกิดอาการประหม่าไม่กล้าพูด แม้ว่าเราจะรู้แล้วว่าควรจะพูดยังไงก็ตาม

ผมจึงนำเรื่องนี้ไปคุยกับ “เหล่าซือ” (คำเรียก...อาจารย์ในภาษาจีน) ซึ่งในที่นี้ก็คือ ศาสตราจารย์ฟู่เจิงโหย่ว แห่งมหาวิทยาลัยปักกิ่ง และปัจจุบันเป็นผู้อำนวยการสถาบันขงจื่อแห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เหล่าซือได้พูดให้ผมฟังถึงเคล็ดลับมหัศจรรย์ที่ได้ทำให้ผมสามารถพูดภาษาจีนในขั้นพื้นฐานได้อย่างคล่องแคล่ว

นั่นคือ “ถ้าคุณอยากจะพูดภาษาจีนเก่งๆ คุณต้องทำตัวเป็นคนจีน”

ท่านได้อธิบายให้ผมฟังว่า การทำตัวเป็นคนจีน หมายถึงการเปลี่ยนสิ่งแวดล้อมทั้งหมดเป็นสิ่งแวดล้อมของคนจีน เช่น ดูละครจีน ฟังข่าวจีน ดูหนังสือพิมพ์จีน ตอนอยู่ในรถถ้าไม่ฟังเพลงจีน ก็ให้ฟังบทสนทนาภาษาจีน เป็นต้น

เพียงไม่กี่เดือนหลังจากนั้น ผมก็สามารถสนทนากับคนจีนที่เพิ่งพบกันได้อย่างคล่องแคล่ว ถ้าคุณผู้อ่านคิดจะเรียนภาษาใดในโลกนี้ก็ตาม ลองเอาเคล็ดลับของเหล่าซือไปใช้ ผมรับรองว่าคุณผู้อ่านจะได้เห็นความก้าวหน้าอย่างมหัศจรรย์ที่เกิดขึ้นกับตัวคุณผู้อ่านอย่างแน่นอนครับ

ในทำนองเดียวกัน ถ้าคุณผู้อ่านอยากเป็นคนรวย ก็อย่าพยายาม “ทำ” ทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อที่จะเป็นคนรวย แต่คุณผู้อ่านจะต้องเริ่มต้นด้วยการ “เป็น” คนรวยเสียก่อน ซึ่งไม่ใช่การเริ่มต้นด้วยการใช้เงิน หรือการมีชีวิตความเป็นอยู่อย่างคนรวย แต่ต้องเริ่มต้นจากการเปลี่ยนวิธีคิดของเราให้เหมือนกับวิธีคิดของคนรวยเสียก่อน

จากนั้นก็เริ่มเปลี่ยนอุปนิสัย ความรู้ ความสามารถ และศักยภาพอื่นๆ ให้เหมือนกับคนรวย โอกาสที่จะประสบความสำเร็จเป็นคนรวยก็จะเกิดขึ้นได้ในเร็ววันครับ

พบกับ “21 วิธีคิดที่ทำให้คนรวย...แตกต่าง” ตอนที่ 4 ได้ในวันต่อไปครับ