วงการพนันหงอย ทยอยปิดหนี คสช.
มหกรรมฟุตบอลโลก 2014 เริ่มแล้ว แต่ที่มาก่อนการเตะนัดแรกในคืนวันที่ 12 มิ.ย.ที่ผ่านมา
มหกรรมฟุตบอลโลก 2014 เริ่มแล้ว แต่ที่มาก่อนการเตะนัดแรกในคืนวันที่ 12 มิ.ย.ที่ผ่านมา คือการเริ่มกวาดล้างการพนันฟุตบอล ซึ่งถือว่าเป็นโชคร้ายของบรรดา นักพนันที่ต้องเผชิญกับการเอาจริงเอาจังของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ซึ่งก่อนหน้านี้ในช่วงปลายเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา ก็มีคำสั่งห้ามเล่นการพนันที่ผิดกฎหมาย
สำทับด้วยคำกล่าวของ "บิ๊กตู่" พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก ในฐานะหัวหน้า คสช. ที่กล่าวในรายการคืนความสุขให้คนในชาติ เมื่อวันที่ 6 มิ.ย.ที่ผ่านมาว่า
"สิ่งที่จะต้องดำเนินการเร่งด่วนคือเรื่องอิทธิพล การพนัน ตู้ม้า อะไรต่างๆ เหล่านี้ การพนันฟุตบอลวันนี้ก็เดือดร้อน หนี้สินต่างๆ มากมาย หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องแก้ไข พ่อแม่จะได้สบายใจ มีความสุข"
หวยเถื่อน บ่อนการพนัน และตู้ม้านั้นโดนกวาดล้างกันแบบรายวัน โดยเฉพาะตู้ม้าและบ่อนการพนันนั้นมีให้เห็นมากที่สุด แม้จะเป็นบ่อนร้าง และตู้ม้าที่ถูกทิ้งไว้ตามอาคารพาณิชย์ ซึ่งแสดงว่าปิดกิจการมาแล้วระยะหนึ่ง หลังผู้มีอิทธิพลเกี่ยวข้องกับการพนันถูกเรียกให้มารายงานตัวต่อ คสช.กันมาแล้วนับสิบราย ขณะที่หวยเถื่อนนั้นแม้จะยังไม่มีการจับกุมให้เห็นมากนัก แต่ก็ทำให้การขายหวยเถื่อนในงวดปลายเดือน มิ.ย.ที่ผ่านมาซบเซาเป็นอย่างยิ่ง
ผู้ค้าหวยเถื่อน หรือคนเดินหวยรายหนึ่ง เปิดเผยว่า นับตั้งแต่ คสช.ออกคำสั่งห้ามก็ทำให้เจ้ามือหวยรายใหญ่ไม่กล้าเปิดรับแทงหวย เพราะเกรงจะถูกทหารจับกุม ดังนั้น การขายหวยเถื่อนงวดวันที่ 1 มิ.ย.ที่ผ่านมา จึงเงียบ เหงามาก และในงวดวันที่ 16 มิ.ย.นี้ก็เช่นกัน เจ้ามือหวยรายใหญ่ต่างไม่กล้าเปิดรับแทง ตัวเธอเองก็ต้องพึ่งการขายสลากกินแบ่งรัฐบาลหรือลอตเตอรี่ รวมทั้งกระแสฟุตบอลโลกที่เริ่มขึ้นก็ฉุดให้ยอดขายลอตเตอรี่ตกต่ำลงไปอีก
ในมุมมองของนักวิชาการซึ่งเคยทำงานวิจัยเรื่องหวยและบ่อนการพนัน สังศิต พิริยะรังสรรค์ คณบดีวิทยาลัยนวัตกรรมสังคม มหาวิทยาลัยรังสิต วิเคราะห์ว่า แม้ช่วงมหกรรมฟุตบอลโลกจะมีการพนันฟุตบอลอย่างคึกคัก แต่ก็จะไม่กระทบต่อยอดการแทงหวยใต้ดิน เนื่องจากคนละกลุ่มเป้าหมาย
"อาจจะมีการเหลื่อมกันบ้าง แต่ส่วนใหญ่แล้วผู้ที่พนันฟุตบอลจะเป็นกลุ่มคนอายุ 22-35 ปี ต้องการรู้ผลเร็ว มักเป็นนักเรียน นักศึกษา หรือพนักงานบริษัท โดยนักพนันกลุ่มนี้เมื่ออายุมากขึ้นก็จะเล่นพนันน้อยลง ไป สำหรับผู้ที่ชอบแทงหวยใต้ดินจะมีอายุมากกว่า ไม่ชอบเกมที่แพ้ชนะอย่างรวดเร็ว และจะมีระดับการศึกษาที่ค่อนข้างน้อยกว่ากลุ่มผู้พนันบอล จึงไม่มีการแย่งตลาดกัน" สังศิต กล่าว
ทว่า แหล่งข่าวจากสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลกลับมีข้อเท็จจริงซึ่งต่างออกไป โดยยกตัวอย่างจากการแข่งขันฟุตบอลโลกที่ผ่านมา ซึ่งข้อมูลสถิติพบว่า ส่งผลกระทบมาถึงยอดขายสลากต้องตกไปด้วย สะเทือนทั้งกลุ่มยี่ปั๊ว ซาปั๊ว และคนเด็กเร่ขายสลาก จะขายไม่ค่อยดี
"เป็นเรื่องที่น่าแปลกว่าเมื่อมีการแข่งขันฟุตบอลโลกยอดขายสลากจะตกลงทันที ทั้งที่ดูเผินๆ ลูกค้าน่าจะเป็นคนละกลุ่มกัน อย่างงวดวันที่ 16 มิ.ย.นี้ เชื่อว่าสุดท้ายก็จะขายสลากหมด แต่คนขายต้องยอมขายลดราคากันบ้าง จะมาขายใบละ 110 บาทคงไม่ได้ หรืออย่างพวกพ่อค้าคนกลางที่ไปเที่ยวหาหวยชุดมาขาย จากที่เคยขายส่งกันที่ราคาคู่ละ 92-93 บาท ก็คงไม่ได้ เชื่อว่าราคาน่าจะลงเหลือคู่ละ 86-87 บาท เท่ากับพ่อค้ากลุ่มนี้จะขาดทุนกำไร"
แม้ฟุตบอลโลกจะกระทบต่อยอดขายของรายย่อย แต่ก็ไม่กระทบต่อสำนักงานสลากฯ แต่อย่างใด เพราะยอดขายงวดละ 72 ล้านนั้น ขายได้ทั้งหมด เพราะคนที่ได้โควตาจะมารับสลากไปหมดทุกงวด ไม่มีใครกล้าทิ้งเพราะจะเสียประวัติและอาจโดนตัดสิทธิ
อย่างไรก็ตาม การเข้าควบคุมอำนาจการบริหารประเทศของ คสช. ก็ส่งผลกระทบกับผู้ค้ารายย่อย โดยเฉพาะข่าวลือหนาหู ซึ่งมีผู้ค้าสลากสอบถามมายังสำนักงานสลากฯ กันมากว่า คสช.จะเล่นงานผู้ที่ขายสลากเกินราคา
"ราคาสลากช่วงนี้น่าจะเป็นขาลงจาก 2 ปัจจัย คือ ฟุตบอลโลก กับกลัว คสช.ไล่จับคนขายสลากเกินราคา และเชื่อว่างวดวันที่ 1 ก.ค.นี้ จะเห็นผลกระทบมากขึ้น เพราะตรงกับช่วงแข่งบอลโลกเต็มๆ ทำให้คนขายสลากต้องยอมลดราคา อาจเห็นสลากขายกันที่ราคาคู่ละ 80-90 บาทก็เป็นได้" แหล่งข่าวจากสำนักงานสลากฯ เปิดเผย
ไม่เพียงแต่วงการหวยที่ได้รับผลสะเทือนจาก คสช. และฟุตบอลโลก บ่อนการพนันทั้งในประเทศ และใกล้พื้นที่ชายแดนด้านต่างๆ ก็พลอยได้รับผลกระทบตามไปด้วย แหล่งข่าวเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองด่านชายแดนไทย-กัมพูชา แห่งหนึ่งเปิดเผยว่า ช่วงปกติก่อน คสช.เข้าควบคุมอำนาจ จำนวนคนไทยที่เดินทางข้ามแดนไปเล่นการพนันมีมากถึงวันละ 1,000 คน หากเป็นช่วงวันหยุดก็จะมาก
แต่หลังจาก คสช.เข้มงวดกับการเดินทางข้ามแดน ซึ่งต้องใช้หนังสือเดินทางเท่านั้น ไม่สามารถให้บัตรผ่านแดนหรือบอร์เดอร์พาสได้อีก ทำให้ผู้ที่ข้ามไปเล่นการพนันในประเทศเพื่อนบ้านลดลงไปกว่าครึ่ง เหลือเพียงวันละประมาณ 600 คนเท่านั้น
ส่วนกระแสฟุตบอลโลกยอดตัวเลขผู้ผ่านแดนของด่านตรวจคนเข้าเมืองต่างๆ กลับไม่พบว่ามีการเปลี่ยนแปลงแต่อย่างใด จำนวนยังคงเท่าเดิม อาจเพราะเป็นลูกค้าคนละกลุ่ม นักพนันที่เข้าบ่อนส่วนใหญ่เป็นกลุ่มผู้ใหญ่ ขณะที่กลุ่มพนันฟุตบอลมักจะเป็นกลุ่มวัยรุ่น แต่ก็ยอมรับว่ามีเจ้ามือพนันหลายรายใช้บ่อนพนันในประเทศเพื่อนบ้านเป็นสถานที่รับแทงพนันฟุตบอลในประเทศไทย แต่ส่วนใหญ่มักจะเป็นพื้นที่ชายแดนภาคใต้
เจ้าหน้าที่หน่วยงานด้านความมั่นคงในพื้นที่ชายแดนภาคใต้ เปิดเผยว่า เจ้ามือพนันฟุตบอลรายใหญ่แถบชายแดนภาคใต้ จะเป็นชาวมาเลเซีย รวมทั้งสิงคโปร์ที่แฝงตัวเป็นนักท่องเที่ยว ซึ่งมักจะใช้สถานที่ในรัฐเคดาห์และเปอร์ลิส พรมแดนตรงข้าม จ.สงขลา ยะลา และนราธิวาส เป็นที่ติดต่อประสานงาน โดยมักจะรับแทงผ่านโทรศัพท์
อีกร่วม 1 เดือนนับจากนี้ ข่าวการจับกุมพนันฟุตบอลโลกคงจะมีให้เห็นถี่ขึ้น จากท่าทีเอาจริงเอาจังของ คสช. ซึ่ง พล.ต.ท.อนันต์ ศรีหิรัญ ผู้บัญชาการสำนักงานยุทธศาสตร์ตำรวจ (ผบช.สยศ.) ในฐานะหัวหน้าส่วนปฏิบัติการศูนย์ป้องกันและปราบปรามการลักลอบเล่นการพนันทายผลเทศกาลบอลโลก เปิดเผยว่า เพียงคืนแรกในการแข่งขันคู่เปิดสนาม ก็มีผลการจับกุมจากทั่วประเทศเข้ามาแล้วถึง 58 ราย โดยพื้นที่กรุงเทพมหานครมากสุดถึง 33 ราย รองลงมาคือพื้นที่อีสานใต้ 9 ราย อีสานเหนือและภาคตะวันตกพื้นที่ละ 5 ราย
"เว็บไซต์ที่มีการเปิดให้เล่นพนันฟุตบอล ได้ปิดไปแล้ว 391 เว็บไซต์ ซึ่งหลังจากปิดก็มีการเปิดเว็บไซต์ใหม่ คงต้องตามปิดไปเรื่อยๆ ส่วนการปราบปรามทุกพื้นที่ก็กวดขันการจับกุมทุกวัน" พล.ต.ท.อนันต์ กล่าว
ในฐานะพื้นที่ซึ่งมีการจับกุมพนันฟุตบอลได้มากที่สุด พล.ต.ต.ฉันทวิทย์ รามสูต รอง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รอง ผบช.น.) ฝ่ายปราบปราม เปิดเผยอย่างพึงพอใจว่า เพราะการเอาจริงเอาจังของ คสช. โดยเฉพาะการใช้มาตรการอายัดทรัพย์ตามกฎหมายฟอกเงินมาใช้กับเจ้ามือ ทำให้ความเคลื่อนไหวในวงการพนันฟุตบอลโลกครั้งนี้เงียบเหงา ลดน้อยลงกว่าที่ผ่านมาอย่างเห็นได้ชัด
"ส่วนหนึ่งเป็นผลจากมาตรการเคอร์ฟิว แต่ที่เห็นได้ชัดคือเว็บไซต์พนันฟุตบอลหายไปกว่า 200 เว็บไซต์ ขณะที่สถิติการจับกุมก็มีมากขึ้น แต่คงต้องประเมินสถานการณ์หลังยกเลิกเคอร์ฟิวอีกครั้ง"
คงต้องรอดูว่ามาตรการเอาจริงเอาจังการปราบปรามพนันฟุตบอลโลกครั้งนี้จะเป็นผลแค่ไหน เพราะจากสถิติการจับกุมพนันฟุตบอลโลกเมื่อปี 2553 ที่ผ่านมา จับกุมได้ถึง 3,789 ราย เงินหมุนเวียนมากถึง 105 ล้านบาท ซึ่งถือว่าเล็กน้อยมาก หากเทียบกับประมาณการเม็ดเงินพนันฟุตบอลโลกที่คาดว่าหมุนเวียนนับหมื่นล้านบาท