posttoday

ดาบไม่คม! ซามูไรฟันแข้งเทพสิบตัวไม่เข้า 0-0

19 มิถุนายน 2557

ญี่ปุ่น ที่ได้เปรียบตัวผู้เล่นมาเกือบ 1 ชั่วโมง พลาดทำได้เพียงแค่เสมอกับ กรีซ ไปแบบไร้สกอร์ 0-0

ฟุตบอลโลก 2014

รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม ซี นัดที่สอง
ญี่ปุ่น-กรีซ
วันที่: 19 มิ.ย.57 เวลา: 05.00 น.(เช้าวันศุกร์ที่ 20 มิ.ย.57 ตามเวลาประเทศไทย)
สนาม: เอสตาดิโอ ดาส ดูนาส, นาทาล


ความพ่ายแพ้ต่อ ไอวอรี่โคสต์ ทำให้ ญี่ปุ่น ต้องเร่งฝีเท้าขึ้นในเกมนี้เพราะหากแพ้อีกจะตกรอบ เช่นเดียวกันกับ กรีซ ที่แพ้นัดแรกมาเช่นกัน จะเรียกว่าเป็นเกมชิงดำโดยผู้แพ้ต้องม้วนเสื่อกลับบ้านสถานเดียว

อัลแบร์โต้ ซัคเคโรนี่ ปรับทีมจากเกมแรกไปเล็กน้อยโดยดร็อป ชินจิ คางาวะ เป็นเพียงแค่ตัวสำรอง และส่งผู้เล่นในแดนหน้าอย่าง โยชิโตะ โอคูโบะ ที่ลงมาเป็นตัวสำรองแล้วเล่นได้ดีลงสนามเป็นตัวจริง ขณะที่ผู้เล่นตัวหลักคนอื่นๆ ยังอยู่กันครบ ทั้ง เคซึเกะ ฮอนดะ, มาโกโตะ ฮาเซเบะ, ชินจิ โอกาซากิ หัวหอกจาก ไมนซ์ 05 ในเยอรมันไว้ล่าตาข่าย

ด้าน กรีซ ของกุนซือเฟร์นันโด ซานโต๊ส ให้โอกาสกับผู้เล่นอย่าง คอสตาส มิโตรกลู, ยอนนิส เฟตฟาซิดิส ลงเป็น 11 ตัวจริง โดยมี โซคราติส ปาปาสธาโธปูลอส ยืนเป็นปราการหลัง

การเจอกันในอดีตของทั้งสองทีมนั้นเกิดขึ้นเพียงครั้งเดียวตอนทัวร์นาเมนต์ ฟีฟ่า คอนเฟดฯ เมื่อปี 2005 ซึ่งเกมดังกล่าวจบลงด้วยชัยชนะของ ญี่ปุ่น 1-0 ขณะที่สถิติการเจอกับตัวแทนจากโซนยุโรปในรอบสุดท้ายของ ญี่ปุ่น นั้น พวกเขาเอาชนะได้ 2 เสมอ 2 และแพ้ 3 เกม

เริ่มมาได้แค่สองนาที โยชิโตะ โอคุโบะ โชว์กระชากหลบนักเตะ กรีซ ถึงสองคน ก่อนไหลเข้ากลางให้ โฮตารุ ยามากูชิ กดเต็มข้อ แต่โชคร้ายบอลไปติดแนวรับทีมจากยุโรปก่อนเคลียร์ออกมาได้

แปดนาทีต่อมา กรีซ มีลุ้นบ้างจากลูกยิงของ โคเน่ ร่วมๆ 25 หลา แต่ คาวาชิมะ ยังรับเอาไว้ได้

ก่อนครบ 20 นาทีแรก ญี่ปุ่น บุกขึ้นมาอีกครั้งและเป็น โอคุโบะ ที่เบิ้ลเร็วมาให้ ยูยะ โอซาโกะ ลองซัดด้วยซ้ายแต่เบาไป เข้าซอง โอเรนติส คาร์เนซิส

นาทีที่ 21 ขุนพล "ซามูไรบลูส์" น่าจะได้ประตูขึ้นนำแบบสุดๆ หลัง โอซาโกะ คนเดิมลองปั่นด้วยขวา บอลนั้นเกือบโค้งเสียบเสา ชนิดที่ คาร์เนซิส บินไปไม่ถึงแล้ว

ไม่กี่อึดใจต่อมา กรีซ โต้ขึ้นมาทันควัน จากจังหวะที่ โฮเซ่ โอเลบาส โชว์เทฟแตะทีผู้เล่นญี่ปุ่นสามคน แต่เจ้าตัวเปิดไม่ดี บอลไปเข้ามือ คาวาชิมะ แบบไม่มีอะไร

ผ่านมาเกือบครึ่งชั่วโมง กรีซ มาโดนเหลืองแรก จากจังหวะที่ คอสตาส คัตซูรานิส ไปพุ่งเสียบใส่ผู้เล่น ญี่ปุ่น อย่างโหด

นาทีที่ 33 นางาโตโมะ เปิดด้วยซ้ายมาให้ โอคุโบะ ขึ้นเทคตัวโขก แต่บอลยังไม่ตรงกรอบ

กรีซ ต้องใช้โควต้าเปลี่ยนตัวแต่หัววัน หลัง คอสตาส มิโตรกลู ไปเจอศอกของ มาโกโตะ ฮาเซเบะ เข้าเต็มเอว และส่ง ธีโอฟานิส เกคัส มาเล่นแทน

นาทีที่ 38 กรีซต้องเหลือผู้เล่นเพียงแค่ 10 คน หลัง คอสตาส คัตซูรานิส มาโดนเหลืองที่สองจากการไปเข้าสกัดใส่ ฮาเซเบะ กัปตันทีมญี่ปุ่นจากข้างหลัง กลายเป็นใบแดงไล่ออกจากสนาม

นาทีต่อมา กลายเป็น กรีซ ที่เกือบได้ประตูขึ้นนำก่อน จากลูกยิงเต็มข้อของ วาซิลิส โทโรซิดิส บอลทำท่าจะตุงตาข่ายอยู่แล้ว แต่ คาวาชิมะ นายทวารจอมหนึบบินมาเซฟได้อย่างสุดยอด

ห้านาทีสุดท้ายของครึ่งแรก กุนซือของ กรีซ ตัดสินใจปรับทัพอีกครั้งโดยถอด เฟตฟัตซิดิส ที่เล่นไม่ออก และส่ง จอร์จอส คารากูนิส ตัวเก๋าที่เคยคว้าแชมป์ยูโร 2004 มาแล้วลงสนาม

ช่วงเวลาที่เหลือ เป็น ญี่ปุ่น ที่บุกหนัก แต่ยังไม่สามารถฝ่าแนวรับ กรีซได้ จบครึ่งแรกเสมอกันอยู่ 0-0

เริ่มเกมในครึ่งหลัง ญี่ปุ่น ที่ได้เปรียบในเรื่องของตัวผู้เล่น ตัดสินใจส่ง ยาสึฮิโตะ เอ็นโดะ เพลย์เมกเกอร์จอมเก๋าจาก กัมบะ โอซาก้า ลงมาแทน มาโกโตะ ฮาเซเบะ ที่ติดเหลืองมาจากครึ่งแรก พร้อมกับสวมปลอกแขนกัปตันทีมเองด้วย

แม้จะเป็นฝ่ายบุกหนัก แต่แข้งซามูไรก็ยังไม่มีโอกาสเข้าทำ จน ซัคเคโรนี่ ตัดสินใจเปลี่ยนตัวอีกคน โดยส่ง ชินจิ คางาวะ ซุปเปอร์สตาร์ ของทีมลงมาเล่นแทน ยูยะ โอซาโกะ ถึงตรงนี้รู้เลยว่าแชมป์เอเชียหวังถึงสามคะแนนแล้ว

เกมผ่านมาหนึ่งชั่วโมง กรีซ เกือบพลิกขึ้นนำก่อนจากลูกเตะมุม เป็น เกคัส ที่สอดมาโหม่ง แต่ คาวาชิมะ ยังเซฟไว้ได้อีกครั้ง

ห้านาทีต่อมา ญี่ปุ่น ทำเกมรุกขึ้นมา คางาวะ เปิดบอลให้ อูจิดะ หักกลับมาหน้ากรอบ แต่ โอคุโบะ ซัดด้วยซ้ายหลุดกรอบออกไปอย่างน่าเสียดาย

คางาวะ ที่ลงมาเป็นตัวสำรองนั้นถือว่า โดดเด่นมาก และขึ้นเกมจนทำให้ กรีซ ต้องตัดฟาวล์หลายครั้งเลยทีเดียว

นาทีที่ 72 ญี่ปุ่น พลาดโอกาสทองสุดๆ หลัง อูจิดะ ฉวยโอกาสวิ่งมาหวดเต็มข้อจากจังหวะชุลมุนในกรอบ 6 หลา แต่บอลเด้งออกหลังไปแบบเหลือเชื่อ

นาทีที่ 78 โอคุโบะ ลองยิงไกลบอลพุ่งเข้ากรอบ ทำเอา คาร์เนซิส ต้องออกแรงปัดก่อนจะเป้นลูกเตะมุม ของ ญี่ปุ่น

กรีซ ตัดสินใจส่งตัวเก๋าอย่าง ดิมิทริส ซัลปินกีดิส ลงมาแทน พานาโยติส โคเน่ ที่วิ่งจนแทบจะหมดแรง และจากจังหวะเตะมุมนี้ กรีซ เกือบได้ประตูขึ้นนำ หลัง ซามาราส ขึ้นโขก แต่เจ้าตัวขวิดโดนบางไปหน่อย

ต้องยอมรับว่าเกมนี้ ญี่ปุ่น บุกหนักจริงๆ แต่ กรีซ เองก็ยังไม่พลาด ทำเอาแฟนๆ แข้งซามูไรต้องลุ้นกันต่อในขณะที่เหลือเวลาอีกเพียงแค่ 5 นาทีเท่านั้น

บุกไปบุกมา กลายเป็น กรีซ ที่หวิดจะได้ประตูอีกครั้ง หลัง โฮเลบาส หลุดขึ้นมายิงด้วยซ้าย บอลพุ่งแรงไปถึง คาวาชิมะ รับซองแตกแต่ยังดีที่ไม่มีตัวซ้ำ

นาทีสุดท้าย ญี่ปุ่นได้ฟรีคิก ก่อนที่เจ้าพ่อฟรีคิก อย่าง ยาสึฮิโตะ เอ็นโดะ จะปั่นไปที่เสาไกล บอลนั้นกำลังจะโค้งเข้าประตูอยู่แล้ว แต่ คาร์ซิดิส คนเดิม ก็ยังบินมาปัดได้ทัน

ช่วงทดเวลาบาดเจ็บ ทั้งสองทีมไม่สามารถทำประตูกันได้ จบเกม ญี่ปุ่น ทำได้เพียงแค่เสมอกับ กรีซ ที่เหลือตัวผู้เล่นเพียงแค่สิบคนตั้งแต่ท้ายครึ่งแรกไปอย่างน่าเสียดาย 0-0 ต้องไปเหนื่อยนัดสุดท้ายกับ โคลอมเบีย ส่วน กรีซ จะต้องไปดวลกับ ไอวอรี่โคสต์ ที่ต้องการชัยชนะเพื่อการันตีการเข้ารอบเช่นเดียวกัน

ญี่ปุ่น
เอจิ คาวาชิมะ - อัตซึโตะ อูจิดะ, มายะ โยชิดะ, ยาซึยูกิ คอนโนะ, ยูโตะ นางาโตโมะ - มาโกโตะ ฮาเซเบะ (กัปตันทีม) , โฮตารุ ยามากูชิ - ชินจิ โอกาซากิ, เคซึเกะ ฮอนดะ, โยชิโตะ โอคุโบะ
ยูยะ โอซาโกะ

กรีซ
โอเรสติส คาร์เนซิส - วาซิลิส โทโรซิดิส, คอสตาส มาโนลาส, โซคราติส ปาปาสทาโธปูลอส, โฮเซ่ โฮเลบาส - จานนิส มาเนียติส, คอสตาส คัตซูรานิส (กัปตันทีม), พานาโยติส โคเน่ - ยอนนิส เฟตฟัตซิดิส, จอร์จอส ซามาราส, คอสตาส มิโตรกลู

Thailand Web Stat