"จักรภพ"เผยหวังต่อสู้เปลี่ยนโครงสร้างอำนาจ

"จักรภพ"ยอมรับคุยกับ จารุพงศ์ วางแผนต่อสู้มาตลอด ระบุตั้งใจอยู่นอกประเทศมากกว่า 5 ปี ลั่นสู้ครั้งนี้หวังเปลี่ยนโครงสร้าง

เมื่อวันที่ 25 มิ.ย. เว็บไซต์ไทยอีนิวส์ดอทบล็อกสปอต ได้เผยแพร่บทสัมภาษณ์ นายจักรภพ เพ็ญแข ผู้ต้องหาคดีความผิดกฎหมายอาญามาตรา112 ในฐานะ เลขานุการองค์กรเสรีไทย โดยนายจักรภพ กล่าวว่า ตนและนายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ ตั้งใจอยู่นอกประเทศไทยมากว่าห้าปี จุดประสงค์เพื่อรอตั้งขบวนการต่อสู้เต็มรูปแบบ

"ที่ผ่านมาเราหวังตื้นๆ ที่ชนะการเลือกตั้ง หรือเอาใจคนบางคนเพื่อให้เขาพอใจสบายใจ เขาจะได้อนุญาตให้เราอยู่ในอำนาจบริหารได้นานหน่อยแม้กระทั่งถึงเวลาชุมนุม ประท้วงกันแล้ว เราก็ยังจัดแบบไม่คิดลุย หวังแค่เอามวลชนมากๆ มาโชว์เพื่อให้เขาคิดเปลี่ยนใจเอง แนวคิดอย่างนี้ไม่มีทางเปลี่ยนโครงสร้างอำนาจในรัฐไทยได้ ผมกับคุณจารุพงศ์ได้คุยกันลึกซึ้งกันมานานหลายปี บิดาคุณจารุพงศ์คือนายจารุบุตร เรืองสุวรรณ อดีตเลขานุการส่วนตัวที่ใกล้ชิดนายปรีดี พนมยงค์ เมื่อรู้ว่าคุณจารุพงศ์เดินทางออกนอกราชอาณาจักร นึกในใจทันทีว่า ไม่เสียหลายที่ได้จูนคลื่นสมอง จิตใจ และหัวใจกันมาตลอด คนที่คิดถึงขั้นโครงสร้างอำนาจรัฐมักจะได้ข้อสรุปที่คล้ายกันเสมอ"นายจักรภพกล่าว

นายจักรภพ กล่าวอีกว่า ขณะนี้ นายจารุพงศ์เป็น เลขาธิการองค์กรเสรีไทย ส่วนตนเป็นเลขานุการบริหารและโฆษกฯ ทำหน้าที่คล้ายๆ ปลัดกระทรวงขององค์กร นอกจากนี้ยังมีคณะกรรมการกลางราว 10 คน ผู้ร่วมอุดมการณ์ที่มีชื่อเสียงและมีประวัติอันเรืองรองในการต่อสู้ทางการ เมืองมีอีกไม่ต่ำกว่า 20 คน นักวิชาการระดับโลกทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ

นายจักรภพ ยังยืนยันด้วยว่า งานนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ไม่ได้เข้ามาร่วมรู้เห็นหรือเกี่ยวข้องใดๆ และ อารมณ์ที่ชาวประชาธิปไตยมีอยู่ในขณะนี้ ไม่ต้องมีใครมาออกคำสั่งหรือชี้นำอะไรทั้งนั้น

"เรื่องเงินทองค่าใช้จ่าย หลายคนนึกว่าไม่มีเศรษฐีมาคอยช่วยแล้วคงจะเดินไม่เป็นแน่ บอกได้ว่าเราจะเดินหน้ากันแบบต้นทุนต่ำหรือ low-cost ทำคล้ายสายการบินแบบประหยัดที่ลดความสิ้นเปลืองทุกชนิดออกหมด เอาแต่เดินทางจากจุด ก. ไปจุด ข. เท่านั้น ในอนาคตเราอาจจะระดมทุนในระดับโลกด้วย ให้มันรู้ไปว่าคนไทยส่วนใหญ่มุ่งมั่นขนาดนี้แล้วเราจะอับจนหนทาง"นายจักรภพกล่า

นายจักรภพ อ้างว่า ขณะนี้ประเทศหลักๆ ในโลกก็เข้าใจองค์กรเสรีไทย และมีการพูดคุยกัน ซึ่งองค์กรฯจะเดินสายขอความสนับสนุนต่อไปและมีมาตรการที่จะขอรับความ อนุเคราะห์อย่างเป็นรูปธรรมหลายอย่าง แต่ในขั้นนี้ขอสงวนไว้ เพราะยังไม่สรุป