"ลิงลพบุรี"ชะตากรรมวันนี้ช่างน่าเศร้า
ข่าวการกวาดจับลิงครั้งใหญ่ในเมืองลพบุรี ก่อให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง คำถามสำคัญอยู่ที่ว่าอะไรคือทางออกที่ดีที่สุดในการแก้ปัญหา
โดย...อินทรชัย พาณิชกุล
“ลพบุรี” เป็นเมืองที่มีลิงอาศัยมากที่สุดในประเทศไทย
เรียกว่าเป็นอาณาจักรของลิงที่ใหญ่ที่สุดเลยก็ว่าได้
โดยเฉพาะเขตเทศบาลเมืองลพบุรี แหล่งมีชื่อเสียงที่ลิงอาศัยชุกชุม เช่น บริเวณศาลพระกาฬและพระปรางค์สามยอด ตึกชโยวานิช โรงหนังเก่ามาลัยรามา ตลาดนัดมโนราห์ เทวสถานปรางค์แขก บขส.สระแก้ว จนถึงสี่แยกเอราวัณ จะมีลิงแสม ลิงวอก ลิงกัง ลิงเสน ลิงวอกภูเขา จำนวนนับพันตัววิ่งยั้วเยี้ยเกลื่อนกลาดตามหลังคาตึก ตามท้องถนน จนกลายเป็นภาพชินตาของประชาชนในพื้นที่ อีกทั้งยังเป็นสัญลักษณ์ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวเข้ามาไม่ขาดสาย
แต่ถึงอย่างนั้น การแพร่พันธุ์อย่างรวดเร็วส่งผลให้ประชากรลิงเพิ่มขึ้นทุกปี บวกกับสภาพบ้านเมืองที่เจริญรุดหน้า
ปัญหาการอยู่ร่วมกันระหว่างคนกับลิงจึงเกิดขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ลิงล้นเมือง ปัญหาเรื้อรังที่แก้ไม่ตก
พ.ท.วิรัตน์ ภู่เพียงใจ อดีตผู้อำนวยการสวนสัตว์ลพบุรี เคยทำการศึกษาเรื่อง "ปัญหาลิงลพบุรี" โดยระบุว่าลิงเหล่านี้มีชีวิตอยู่ท่ามกลางอันตรายรอบด้าน
"ลิงถูกรถชนนี่เป็นเรื่องธรรมดา บางตัวซุกซนอยากรู้อยากเห็นกัดแทะสายไฟจนช๊อตหม้อแปลงระเบิด บ้างหมากัดจนพิการตาบอด แขนขาขาด ตายไปเยอะมากในแต่ละปี"
ขณะเดียวกัน ปัญหาเรื่องที่อยู่อาศัยแออัด อาหารขาดแคลน หรือแม้แต่ความขัดแย้งในฝูงลิง ส่งผลให้มี "ลิงแตกฝูง" กระจัดกระจายไปรุกล้ำตึกรามบ้านช่อง ชาวบ้านจำนวนไม่น้อยต้องประสบปัญหาถูกลิงรบกวน ขโมยอาหาร ทำลายข้าวของ ถึงขั้นปิดกิจการ ขายบ้านหนี
"สงครามย่อยๆระหว่างคนกับลิงจึงเกิดขึ้น มีการใช้กำลัง คนถูกลิงกัด ลิงถูกน้ำร้อนลวก ถูกตี ถูกยิงบางตัวไปกัดเด็กถูกจับขังตากแดดตากฝนไร้อิสรภาพ นักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาดูความแปลกว่าทำไมคนกับลิงถึงอยู่ร่วมกันได้ นักวิชาการบางคนยังเชื่อว่าอยู่กันได้อย่างกลมกลืน แต่ความเป็นจริงไม่ใช่"พ.ท.วิรัตน์ ระบุ
อาจกล่าวได้ว่าเรื่องลิงลพบุรีกลายเป็นปัญหาคาราคาซังที่ยังแก้ไม่ตกเสียที
แผนอพยพลิงครั้งใหญ่
เมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา มีข่าวว่าทางจังหวัดลพบุรีมีแผนการที่จะอพยพฝูงลิงไปไว้ยังพื้นที่ 10 ไร่ บริเวณ ต.โพธิ์เก้าต้น อ.เมือง จ.ลพบุรี
แต่วันนี้ยังไร้วี่แววว่าจะดำเนินการเมื่อใด
นายสุจิน ชุมไชยศักดิ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดลพบุรี เปิดเผยว่าแผนดังกล่าว ได้รับงบประมาณตั้งแต่เดือนต.ค.2556 รวมทั้งสิ้น 40 ล้านบาท
"แบ่งเป็น 30 ล้านบาทสำหรับการสร้างสวนลิง ภายในนั้นจะมีคอนโดลิงไว้เป็นที่อยู่อาศัย มีต้นไม้ มีคูน้ำ ล้อมรอบด้วยกำแพงปูนเพื่อป้องกันลิงปีนป่ายได้รับบาดเจ็บ จุได้ประมาณ 1,000 ตัว รวมถึงโรงพยาบาล และอาคารสำนักงาน ขณะที่อีก 10 ล้านบาท เป็นงบปรับปรุงภูมิทัศน์ที่อยู่อาศัยลิงบริเวณศาลพระกาฬ-พระปรางค์สามยอด เพื่อเป็นสถานที่ท่องเที่ยว
อุปสรรคที่ทำให้ล่าช้าอยู่ตรงการเตรียมพร้อมด้านสถานที่ ไม่ว่าอาคารสิ่งปลูกสร้าง บุคลากร เครื่องมือเวชภัณฑ์และยาต่างๆ อาหาร รวมทั้งแผนการอพยพลิง ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนเตรียมดำเนินการเรื่องการจัดซื้อจัดจ้าง คาดว่ากลางปี 2558 ถึงจะมีความพร้อมในการอพยพต่อไป"
รองผู้ว่าราชการจังหวัดลพบุรี ระบุว่าลิงที่จะถูกอพยพคือลิงกลุ่มที่เป็นส่วนเกินมาจากฝูงใหญ่ ซึ่งสร้างความเดือดร้อนให้แก่ประชาชนเท่านั้น ทั้งนี้จะมีการแจ้งให้ประชาชน นักอนุรักษ์ รวมถึงสื่อมวลชนได้ทราบถึงการทำงานทุกขั้นตอน เพื่อความโปร่งใส
"ลิงเป็นสัญลักษณ์ที่อยู่คู่ชาวเมืองลพบุรีมาตั้งแต่สมัยโบราณ นโยบายหลักของทางจังหวัดคือการดูแลให้คนกับลิงอยู่ร่วมกันได้อย่างสมประโยชน์ เพียงแต่วิธีการจัดการอาจแตกต่างกันออกไปบ้าง แต่ขอยืนยันว่าไม่เคยมีใครเสนอแนวคิดให้ฆ่าลิง เราไม่มีวันทำร้ายลิงอย่างแน่นอน"
ลิงล่องหน พวกมันหายไปไหน?
วันนี้ ปฏิเสธไม่ได้ว่าเรื่องลิงลพบุรีหายตัวไปอย่างปริศนา กลายเป็นทอล์ก ออฟ เดอะทาวน์ที่คนสนใจเป็นอย่างยิ่ง
เรื่องมีอยู่ว่าเมื่อวันที่ 14 ก.ค.ที่ผ่านมา โพสต์ทูเดย์ได้รับแจ้งจากทาง สัตวแพทย์หญิงจุฑามาศ สุพะนาม กลุ่มคนรักษ์ลิงลพบุรี ว่าลิงจำนวนกว่า 2,000 ตัวที่เคยอาศัยหากินอยู่กลางเมืองลพบุรีได้ถูกเจ้าหน้าที่รัฐกวาดจับตัวไป หลงเหลือเพียง 200 กว่าตัว
เมื่อสอบถามไปยังกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืชได้รับคำตอบว่าลิงทั้งหมดถูกส่งไปไว้ที่สวนสัตว์จังหวัดลพบุรี แต่เมื่อเดินทางเข้าตรวจสอบกลับพบลิงอยู่เพียง 74 ตัวเท่านั้น
ลิงส่วนใหญ่ท่าทางอิดโรย เต็มไปด้วยบาดแผลทั่วลำตัว ทั้งหมดนั่งเซื่องซึมอยู่ภายในกรงขนาดใหญ่ด้วยสภาพไม่สู้ดีนัก
"สิ่งที่เราสงสัยอย่างมากก็คือการกวาดจับลิงครั้งนี้กระทำโดยพลการหรือไม่ เพราะลิงแสมมีสถานะเป็นสัตว์ป่าคุ้มครองตามพรบ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2535 หากจับลิงอย่างถูกต้อง ทำไมถึงเปิดเผยไม่ได้ว่าจับลิงไปไว้ที่ไหน มีทั้งหมดกี่ตัว บาดเจ็บหรือเสียชีวิตกี่ตัว มีคนรายงานว่าเห็นเจ้าหน้าที่เทศบาลไล่จับโดยใช้วิธีเอาอาหารมาล่อให้เข้ามาติดกรง บางคนเอาไม้กระทุ้ง วิ่งไล่ตีลิงอย่างทารุณ ชาวบ้านพยายามเข้าไปสอบถามกลับถูกตะคอก ข่มขู่ห้ามไม่ให้ถ่ายภาพ"
ตามที่ได้มีการนับจำนวนลิงลพบุรีของ สพญ.จุฑามาศ เผยว่า ปัจจุบันลิงลพบุรีมีทั้งหมด 4 ฝูงใหญ่ ประกอบด้วยฝูงลิงที่อาศัยอยู่บริเวณศาลพระกาฬ-พระปรางค์สามยอด ประมาณ 500 ตัว โรงหนังมาลัยรามา 500 ตัว ตึกชโยวานิช 400 ตัว ตลาดนัดมโนราห์ 400 ตัว นอกจากนี้ยังมี 4 ฝูงเล็ก ซึ่งเป็นลิงแตกฝูงหนีความแออัดในเมืองมาตั้งกลุ่มใหม่ เช่น ลิงที่เทวสถานปรางค์แขก 70 ตัว บขส.สระแก้ว 100 ตัว สี่แยกเอราวัณ 50 ตัว รวมทั้งหมดประมาณ 2,000 กว่าตัว
"จากการลงพื้นที่สำรวจครั้งล่าสุด ลิงหายไปกว่าครึ่ง โดยเฉพาะลิงที่ศาลพระกาฬ ปรางค์สามยอด ซึ่งถือเป็นฝูงที่สมบูรณ์ มีลิงจ่าฝูง ลิงตัวเมีย ลิงชรา ลิงเด็ก แต่ทำไมลิงที่ถูกจับไปไว้ที่สวนสัตว์ลพบุรีถึงมีแต่ลิงตัวผู้ ที่เหลือหายไปไหน"เธอตั้งข้อสังเกต
หนุ่ย เด็กขายอาหารลิงวัย 13 ปีประจำพระปรางค์สามยอด ยืนยันอีกเสียงว่าวันนี้จำนวนลิงบางตาลงมาก
"ลิงที่ศาลพระกาฬ ปรางค์สามยอด หรือที่อยู่ฝั่งตึกไชโยวาณิช เป็นลิงที่ไม่สร้างปัญหาครับ อยู่เป็นฝูงเป็นระเบียบ วันนี้น้อยลงมากครับ หายไปกว่าครึ่ง ปกติเรียกแป๊บเดียว แห่มากันเต็ม แต่นี่เรียกตั้งนานกว่าจะมา ผิดปกติมากๆ"
ขณะที่แม่ค้าขายอาหารลิงรายหนึ่งถึงกับปล่อยโฮ พร้อมสารภาพว่าจำนวนลิงที่น้อยลงส่งผลต่ออาชีพแน่นอน เธอบอกว่าชีวิตเธอมีวันนี้ ส่งเสียลูกเรียนหนังสือได้ เพราะรายได้จากนักท่องเที่ยว
ด้านหญิงวัยกลางคนเจ้าของร้านขายอะไหล่มอเตอร์ไซค์ชื่อ ชโยวานิช อันเป็นที่รู้กันในละแวกนั้นว่าเป็นคนรักลิง เนื่องจากเป็นห้องแถวเพียงไม่กี่คูหาที่ปล่อยให้ลิงเข้ามาอย่างอิสระ ไม่ทุบตี ไม่ขับไล่ แถมให้อาหารกิน แตกต่างจากผู้ประกอบการหลายรายที่เกลียดลิงเข้าไส้ ถึงขั้นปิดกิจการหนี
"ลิงหายไปเยอะ เห็นว่าเขามีเรื่องมีราวกันอยู่นี่ ... (ถามว่าทำไมอยู่กับลิงมาได้ตั้งนาน ทั้งที่คนอื่นหนีหมด) อยู่กับมันจนชิน เดี๋ยวก็รักมันไปเอง แต่ก็ต้องคอยไล่ คอยดุบ้าง เวลาปิดร้านก็ให้ออกให้หมด ไม่งั้นซนหยิบข้าวของ ปีนชั้นวางของเล่น เขาฟังนะ เราก็อยู่ได้ นี่อยู่มาจนจะ 60 ปี สบายดี ไม่เจ็บไม่ป่วย"เธอยิ้มอย่างใจดี
ทั้งนี้ หลังกระแสข่าวการหายตัวไปของลิงลพบุรี นายจำเริญ สละชีพ นายกเทศมนตรีเมืองลพบุรี และ นายนิธิ อาจสมรรถ ผอ.สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 1 สาขาสระบุรี กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ได้ออกมายืนยันลิงทั้งหมดที่ถูกจับไปมีแค่ 80 ตัวเท่านั้น และเป็นลิงที่ถูกร้องเรียนผ่านทางสายด่วน 1362 กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืชว่าสร้างความเดือดร้อนรำคาญให้แก่จากชาวบ้าน
"การจับลิงครั้งนี้เป็นการปฏิบัติหน้าที่ตามที่ได้รับแจ้งผ่านทางสายด่วน 1362 ของกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ซึ่งจับได้แค่ 50-60 ตัวเท่านั้น ไม่ใช่เป็นพันๆตัวตามถูกกล่าวอ้าง การจับลิงได้เป็นจำนวนพันๆตัวคงเป็นไปได้ยาก ต้องเก่งมากๆ เพราะแค่ 50-60 ตัวยังต้องใช้เวลาเกือบสองสัปดาห์ ส่วนลิงที่จับได้จะถูกส่งไปไว้ที่สวนสัตว์ลพบุรี เพื่อพิจารณาปล่อยคืนสู่ป่าต่อไป"ผอ.สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 1 สาขาสระบุรี ผู้รับผิดชอบการดำเนินการจับลิงครั้งนี้ กล่าว
ขณะที่ นายสุจิน ไชยชุมศักดิ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดลพบุรี กล่าวว่าได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว และพบว่าการดำเนินการเป็นไปอย่างถูกต้อง
"เท่าที่ตรวจสอบพบว่าไม่มีอะไรผิดปกติ ลิงที่ถูกจับไปมีไม่เกิน 80 ตัว ไม่ได้จับไปเป็นร้อยเป็นพันตัวอย่างที่ตกเป็นข่าว ส่วนข่าวลือที่ว่าลิงถูกนำไปฆ่า หรือขายต่อยังประเทศเพื่อนบ้าน ล้วนเป็นคำกล่าวอ้างสิ้น ขณะนี้ยังไม่มีหลักฐานยืนยันชัดเจน ใครมีหลักฐานสามารถยื่นเรื่องเข้ามาได้เลย"
ล่าสุดเมื่อวันที่ 16 ก.ค.ผู้ว่าราชการจังหวัดลพบุรีได้มีคำสั่งให้ระงับการจับลิงแล้ว และกำลังตั้งคณะกรรมการตรวจสอบหน่วยงานที่จับลิงไปว่าดำเนินการอย่างถูกต้องหรือไม่ รวมทั้งส่งเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์จังหวัดให้เข้าไปดูแลบาดแผลลิงที่ถูกจับ ซึ่งสาเหตุที่ลิงมีบาดแผลอาจเป็นเพราะการถูกจับ และ การกระทบกระทั่งกันเองภายในฝูง
กลับมาที่ สพญ.จุฑามาศ เธอเห็นด้วยกับแผนการอพยพลิงไปไว้ที่ต.โพธิ์เก้าต้น อ.เมือง จ.ลพบุรี ภายใต้เงื่อนไข 3 ข้อสำคัญ คือ ต้องมีสถานที่กว้างขวาง สภาพแวดล้อมเหมาะสม มีอาหารการกินสมบูรณ์ และมีเจ้าหน้าที่ดูแล
"โดยเฉพาะบรรดาลิงแตกฝูง นิสัยเกเร อย่างลิงตึก ลิงที่โรงหนังมาลัยรามา ตลาดมโนราห์ พวกนี้น่าสงสาร ขาดแคลนอาหาร ขาดแคลนที่อยู่อาศัย อีกทั้งยังอาจไปสร้างความเดือดร้อนให้ประชาชน ส่วนลิงฝูงใหญ่ที่ศาลพระกาฬและพระปรางค์สามยอด พวกถือว่าเป็นฝูงที่อุดมสมบูรณ์ อยู่อย่างเป็นสัดเป็นส่วน ควรให้อยู่ที่เดิม เพื่ออนุรักษ์ไว้ให้นักท่องเที่ยวเข้ามาให้อาหาร มาดูลิง อย่างไรก็ต้องมีคนดูแล มีน้ำท่าอาหารเพียงพอ
แต่สิ่งที่เกิดขึ้นตอนนี้คือเทศบาลนครเมืองลพบุรีได้ดำเนินการจับอย่างถูกต้องตามขั้นตอนหรือไม่ ที่สำคัญยังไม่มีที่รองรับ แล้วจับไปทำไม ลิงที่หายไป หายไปไหน"
เป็นคำถามดังๆจากแกนนำกลุ่มคนรักษ์ลิงลพบุรีที่ฝากไปยังผู้หลักผู้ใหญ่ที่เกี่ยวข้องช่วยตอบ เพื่อให้คนลพบุรีหายข้องใจ
หลากหลายความเห็นของคนรักลิง
บรรทัดต่อจากนี้ไปคือปฏิกิริยาจากประชาชนที่มีต่อข่าวเรื่องการกวาดจับลิงในครั้งนี้
"เขาไม่ได้จับอย่างเดียวนะคะพวกเขาเอาไม้ไล่ตีด้วยค่ะจนลูกลิงน้อยตกจากอกแม่แล้วโดนตีปางตายคะ"
"สองใจคะ มีทั้งคนรักและไม่ชอบลิง ลิงอาศัยมานานจนขยายเป็นจำนวนมาก ต้องอาศัยตามบ้านคน ทำลายข้าวของ แต่ไม่โทษลิงเพราะเรามาช้ากว่าลิง แต่สิ่งที่ควรทำคือผู้ใหญ่ในบ้านลพบุรีน่าจะหาวิธีการประชาสัมพันธ์ อธิบายให้เข้าใจ การทำงานถ้ามันดีคงไม่มีใครด่าจริงมั้ย...ทุกวันนี้ยังมีคนด่าการทำงานของเทศบาลลพบุรี เรื่องการจับลิง ฉะนั้นควรหาวิธีที่ดี และเข้าใจง่ายให้เข้าถึงชุมชน"
"ลิงอยู่มานาน ทำเงิน ทำอาชีพให้คนลพบุรีมาช้านาน ไม่ว่าลิงจะอาศัยที่ศาลพระกาฬก็ดี หรืออาศัยตามบ้านคนก็ดี ควรได้รับการดูแลเท่าเทียมกัน ... เข้าใจคนเดือดร้อนนะคะ และเข้าใจคนที่รักอย่างเดียวเช่นกัน..เชิญชวนคนลพบุรีช่วยกันนะคะ"
"จับเพื่ออะไร ทำไมไม่ทำหมันควบคุมการขยายพันธุ์ล่ะ ย้ายถิ่นไปที่อื่น เขาจะไปหากินได้เหรอ จะพาเขาไปปล่อยที่ไหน สักแต่ว่าไปปล่อยป่า ป่านั้นมีอะไรให้หากินได้ไหม หรือส่งขายกันแน่"
"ลิงซนทุกตัวเป็นธรรมชาติ ไม่งั้นจะมีคำเปรียบเปรยว่าซนเป็นลิงรึไง เค้าไม่มีอาหารกินเพราะโดนคนเบียดเบียน ก็ต้องขอเป็นธรรมดา ส่วนการที่ลิงดุหรือทำร้ายคนนั่นเป็นเพราะสัญชาติญาณของเค้า ซึ่งเค้าอาจจะเคยถูกคนทำร้ายมาก่อนเลยหวาดกลัวและไม่ใว้ใจใครให้เข้าใกล้ก็ได้ อยู่กันมาตั้งนานทำไมไม่เข้าใจธรรมชาติของเค้า ทำร้ายชีวิตเค้าทำไม ทุกชีวิตมีค่าและต่างก็รักชีวิตตัวเองทั้งนั้น ไม่ว่าคนหรือสัตว์ เราไปลพบุรีมาช่วงเข้าพรรษา ไม่เจอลิงซักตัว ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้เยอะมาก ถ้าบอกว่าจับไปไม่กี่สิบตัว ใครจะเชื่อ คนอื่นไม่ได้โง่นะ"
"ชุมชนเดือดร้อน ตึกก็สกปรก เกือบจะร้าง ชาวบ้านเดือดร้อนมากค่ะ เคยเจอกับต้วเอง รถเสียหายยับเยิน เป็นแหล่งเชื้อโรค เค้าหาที่อยู่ที่ดีให้น้องลิงค่ะ ไม่ต้องห่วง"
ฯลฯ