นำร่อง6เส้นทางล้าง"เด็กแว้น"ป่วนเมือง
ตร.จะมีมาตรการกวดขันปราบปรามเข้มข้นในทุกมิติมากกว่าเดิม ทั้งปิดล้อมตรวจค้น พร้อมใช้อุปกรณ์ลดความเร็วของรถ
โดย...เอกชัย จั่นทอง
ปัญหาเด็กแว้นปิดถนนสาธารณะ จับกลุ่มแข่งรถจักรยานยนต์ สร้างความเดือดร้อนรำคาญใจแก่ผู้ใช้ทางสัญจรอย่างสาหัสมาช้านาน แม้ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ตำรวจจะพยายามป้องปรามจับกุมอยู่เป็นระยะๆ แต่เผลอเมื่อไหร่ นักบิดวัยโจ๋ก็กลับมาครองถนนอยู่ร่ำไป
เมื่อคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เข้ามาบริหารประเทศ และมีนโยบายสถาปนาความสงบเรียบร้อยให้เกิดขึ้นในสังคม ปัญหาเด็กแว้นก็เป็นอีกประเด็นที่อยู่ในลิสต์ที่ต้องจัดการอย่างจริงจังเสียที ถึงขั้น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้า คสช. ออกมาประกาศเมื่อเร็วๆ นี้ว่า ปัญหาเด็กแว้นเป็นปมทางสังคมที่ยังไม่สามารถแก้ไขได้ จนกลายเป็นปัญหาเรื้อรั้งอาจเกินการเยียวยา และจะถูกหยิบยกขึ้นมาเพื่อสะสางให้หมดจากสังคมตามแนวทาง คสช.
ขั้นตอนหลังจากนี้ ต้องโฟกัสไปที่กลไกการปฏิบัติว่าจะเป็นอย่างไร
พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก ผู้บังคับการตำรวจจราจร (ผบก.จร.) รับผิดชอบการจราจรบนท้องถนนในกรุงเทพมหานคร ให้ข้อมูลว่า ปัจจุบันการแข่งรถบนทางสาธารณะเพิ่มขึ้นและมีจำนวนผู้กระทำ|ความผิดในแต่ละครั้งสูงขึ้น บางครั้งตัวเลขการจับกุมสูงกว่า 300 คน ขณะที่สถิติการรับแจ้งการแข่งรถผ่านสายด่วน 1197 ในปี 2556 มีประชาชนผู้ได้รับผลกระทบด้านสัญจรบนถนนหลวงหลายเส้นทาง แจ้งเข้ามากว่า 262 ครั้ง ส่วนปี 2557 มีร้องเรียนเข้ามาแล้ว 71 ครั้ง
“พฤติกรรมนี้จัดเป็นพฤติกรรมเสี่ยงในวัยรุ่น ทั้งเป็นอันตรายต่อทั้งตนเองและผู้อื่น สาเหตุเกิดจากการอยากท้าทายสังคม พอสังคมไม่สนับสนุน ไม่เห็นคุณค่าก็จะแสดงออกด้วยการท้าทายสังคม อาจนำไปสู่ปัญหาแทรกซ้อนไม่ว่าจะเป็นการพนัน ยาเสพติด ปัญหาทางเพศ อุบัติเหตุ และการก่ออาชญากรรม สารพัดปัญหา” พล.ต.ต.จิรสันต์ ระบุ
พล.ต.ต.จิรสันต์ กล่าวอีกว่า ปัญหาเด็กแว้น ต้องแบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม คือ 1.พวดฮาร์ดคอร์ คือ แข่งรถ ประลองความเร็วเป็นประจำ 2.พวกตามกลุ่มเข้าไป ขับไปรวมกลุ่มด้วย และ 3.พวกเด็กที่ออกมาดูอย่างเดียว
จากข้อมูลของ บก.จร. พบว่า ถนนยอดนิยมที่เด็กแว้นใช้ประลองความเร็วใน กทม. ประกอบด้วย 1.ถนนเพชรบุรี ขาเข้า 2.ถนนพระราม 4 ช่วงแยกกล้วยน้ำไท คลองเตย 3.ถนนวิภาวดีรังสิต 4.ถนนประดิษฐ์มนูธรรม 5.ถนนเกษตร-นวมินทร์ และ 6.ถนนกาญจนาภิเษก
พล.ต.ต.จิรสันต์ กล่าวถึงแนวทางปฏิบัติหลังจากนี้ ว่า จะมีมาตรการกวดขันปราบปรามเข้มข้นในทุกมิติมากกว่าเดิม โดยหากตำรวจทราบข้อมูลแน่ชัดว่ามีการรวมกลุ่มของรถจักรยานยนต์บนถนนหลวง จะระดมกำลังทุกพื้นที่ใกล้เคียงแต่ละครั้งไม่ต่ำกว่า 50 นาย ทั้งตำรวจ อาสาสมัคร และตำรวจพื้นที่ เข้าปิดล้อมตรวจค้น พร้อมใช้อุปกรณ์ลดความเร็วของรถ โดยให้คำนึงถึงความปลอดภัยเป็นหลัก
ทั้งนี้ ตำรวจจะบันทึกภาพนิ่งและภาพเคลื่อนไหวในทุกขั้นตอนเพื่อเป็นหลักฐานใช้ดำเนินคดีตามกฎหมาย สำหรับโทษจะจำคุกไม่เกิน 3 เดือน หรือปรับตั้งแต่ 2,000-1 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ด้าน นพ.สุริยเดว ทรีปาตี ผู้อำนวยการสถาบันแห่งชาติเพื่อการพัฒนาเด็กและครอบครัว มหาวิทยาลัยมหิดล ให้ความเห็นถึงปัจจัยการเกิดปัญหาเด็กแว้น ว่า เมื่อต้นทุนชีวิตไม่แข็งแรงพอ ค้นพบตัวเองไม่ได้ เป็นต้นตอหนึ่งของปัญหา โดยมีแรงเร้าทางสภาพแวดล้อมชุมชน ครอบครัว และสถาบันการศึกษา ว่าจะหล่อหลอมให้เด็กเกิดการพัฒนาการไปในทางดีหรือไม่ ต้องดูว่าสภาพแวดล้อมภายในครอบครัวเป็นอย่างไร สามารถพัฒนาทักษะความคิดจิตสำนึกได้อย่างไร
“ส่วนใหญ่เด็กแว้นทั้งหมดจะเป็นวัยรุ่น ไม่มีผู้ใหญ่เข้าร่วม เนื่องจากผู้ใหญ่ถูกหล่อหลอมสอนให้คิดเรียนรู้อย่างถูกต้องว่าสิ่งไหนดีหรือไม่ดี แต่เด็กกำลังก้าวสู่วัยรุ่นตอนกลางและตอนปลาย ถือเป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญ เสมือนเดินอยู่บนเวทีแฟชั่นโชว์ สังคมกำลังจับจ้องมอง บางคนมีความคิด อยากโชว์ อยากเด่นอยากดัง ความยอมรับในหมู่เพื่อน คือกล้าได้ไม่กลัวเสีย และกลุ่มเด็กที่ไม่อยากโชว์”นพ.สุริยเดว กล่าว
นพ.สุริยเดว ย้ำว่า นั่นเกิดจากสมองส่วนอารมณ์ถูกกระตุ้นพร้อมระเบิดขึ้นได้ตลอดเวลา จึงออกมา|ประลองความเร็วสร้างการยอมรับ ทำให้สมองส่วนคิดไม่ได้พัฒนาเท่าที่ควร จากนั้นเมื่อเด็กแว้นเหล่านั้นถูกจับกุมแล้วนำไปเข้าค่ายอบรมละลายพฤติกรรม แต่ไม่สร้างสมองส่วนความคิดให้เด็ก ย่อมไม่เกิดผลแน่นอน โดยครอบครัวถือว่าสำคัญที่สุด สังคมควรมีพื้นที่ให้เด็กได้แสดงออกโดยไม่ผิดกฎหมาย เพราะเด็กเหล่านี้กำลังบ้าพลัง การเปิดถนนให้แข่งรถก็ไม่ใช่การแก้ไขปัญหา ที่สำคัญต้องไม่เลี้ยงลูกด้วยวิธีการสำลักความรักหรือตามใจเด็กมากเกินไป