รำลึกวันครบรอบ21ปีโรงแรมโคราชถล่ม

13 สิงหาคม 2557

โดย...ทีมข่าวภูมิภาคโพสต์ทูเดย์

โดย...ทีมข่าวภูมิภาคโพสต์ทูเดย์

เมื่อวันที่ 13 ส.ค. ที่ศาลาการเปรียญวัดพระนารายณ์วรมหาวิหาร อ.เมือง จ.นครราชสีมา นายทองขาว  โคตรโยธา ประธานมูลนิธิสามัญศึกษาจังหวัดนครราชสีมา พร้อมด้วยคณะกรรมการมูลนิธิฯ  อดีตผู้อำนวยการโรงเรียน และครูจากโรงเรียนต่างๆ  ซึ่งมีทั้งผู้ที่รอดชีวิตจากเหตุการณ์โรงแรมรอยัลพลาซ่าถล่มเมื่อ 21  ปีก่อน  อีกทั้งญาติผู้ที่เสียชีวิต  ได้ร่วมกันทำบุญถวายภัตตาหารเพลให้กับพระภิกษุสงฆ์จำนวน 19 รูป และกรวดน้ำอุทิศส่วนกุศลให้กับผู้ที่เคราะห์ร้าย อีกทั้งได้มีการมอบทุนการศึกษาแก่นักเรียนที่มีผลการเรียนดี จำนวน 14 ทุน เป็นจำนวนเงิน 7 หมื่นบาท ทั้งนี้ก็เพื่อเป็นการอุทิศส่วนกุศลให้แก่ผู้เคราะห์ร้ายจากเหตุการณ์โรงแรมรอยัลพลาซ่าถล่มอีกทางหนึ่ง

นายชวลิต  ตัณฑเศรณีวัฒน์  อดีตผู้อำนวยการโรงเรียนราชสีมาวิทยาลัย  ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์และรอดชีวิตมาได้แต่ต้องสูญเสียขาขวาไปหนึ่งข้าง กล่าวว่า เหตุการณ์เมื่อ 21ปีที่แล้ว เป็นเหตุการณ์ที่ทุกคนจดจำไว้ตลอดชีวิตโดยเฉพาะตนซึ่งอยู่ในเหตุการณ์  และได้เสียเพื่อนที่อยู่ในสังกัดกรมสามัญศึกษาถึง 47 ชีวิต  นอกจากนั้นญาติพี่น้องของผู้เสียชีวิตยังได้รับความกระทบกระเทือนทางด้านจิตใจจนถึงปัจจุบัน   แต่ก็ยิ่งทำให้ตนเองต้องรำลึกมากขึ้นเมื่อมีข่าวตึกถล่มในรอบ 21 ปี ที่ จ.ปทุมธานี ดังนั้นในการที่จะมีการครบรอบอย่างนี้ก็ยิ่งที่จะต้องมีการคุมเข้มในเรื่องของการก่อสร้าง ซึ่งตนเองเคยกล่าวไว้ว่า ถึงวัวหาย แล้วล้อมคอก ก็ควรที่จะล้อมคอกต่อไป ไม่เช่นนั้นก็จะทำให้เกิดเหตุการณ์อย่างนี้ต่อไป ดังนั้นผู้ประกอบการควรที่จะมีมาตรการในการตรวจสอบโครงสร้างที่เมงวด เนื่องจากหากเกิดเหตุการณ์ถล่มมาก็จะสร้างความสูญเสียครั้งใหญ่ หลายครอบครัวต้องขาดคนที่รักไป

นายชวลิต กล่าวทั้งน้ำตา ถึงเหตุการณ์ที่อยู่ใต้ซากตึก โดยตนเองยอมรับว่าการที่เคยเป็นหนึ่งผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ที่ติดอยู่ใต้ซากตึกมานานกว่า 17 ชั่วโมง นั้นเป็นเรื่องที่ทำให้สภาพจิตใจนั้นแย่มาก แต่เมื่อถูกช่วยออกมาและผ่านเหตุการณ์ร้ายๆมานานถึง 21 ปี ตนเองก็ยังคงที่รู้สึกสะเทือนใจเป็นอย่างมาก อีกทั้งผู้ที่เสียชีวิตและผู้ที่ได้รับบาดเจ็บก็ไม่ได้รับการชดใช่จากผู้ประกอบการ ซึ่งก็เปรียบเสมือนว่าตายฟรี ดังนั้นตนเองคิดว่าไม่อยากให้เหตุการณ์อย่างนี้เกิดขึ้นอีก ให้เป็นบทเรียนของคนไทยทุกคน  และต้องการให้มีความระมัดระวังในเรื่องของการก่อสร้างเป็นอย่างมาก และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็ควรที่จะเข้ามาควบคุมการดำเนินการก่อสร้างอย่างจริงจัง เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำรอยต่อไป นายชวลิตฯกล่าว

ด้านนางชูศรี  ชาญชัย  อาจารย์โรงเรียนอนุบาลนครราชสีมา หนึ่งในผู้ที่ต้องสูญเสียสามี จากเหตุการณ์ตึกรอยัลพลาซ่าถล่มที่จังหวัดนครราชสีมา  เปิดเผยว่า การที่ตนเองมาร่วมทำบุญในครั้งเพื่ออุทิศส่วนกุศลให้กับ ว่าที่ร้อยตรี นคร  ชาญชัย (สามี) ซึ่งในวันที่เกิดเหตุสามีของตนได้เดินทางไปร่วมการสัมมนาที่โรงแรมรอยัลพลาซ่า โดยมีหน้าที่จัดเตรียมเอกสารในการประชุมจึงทำให้ในช่วงที่เกิดเหตุสามีของตนไม่สามารถที่จะออกไปไหนได้ จนกระทั้งตัวอาคารได้ถล่มลงมาทับร่างสามีของตน ในวันที่ 13 ส.ค.36 และกว่าจะได้ร่างสามีกลับมาก็ในวันที่ 15 ส.ค.36 ซึ่งตนเองรู้สึกเสียใจเป็นอย่างมาก

และเมื่อตนเองทราบข่าวว่ามีเหตุการณ์ตึกถล่มที่ จังหวัดปทุมธานี ทับคนงานก่อสร้างเป็นจำนวนมาก ตนก็ยิ่งรู้สึกเสียใจเป้นอย่างมาก เนื่องจากเหตุการณ์โรงแรมรอยัลพลาซ่าถล่มน่าจะเป็นเหตุการณ์สุดท้ายของการสูญเสีย และควรที่จะประสบการของโรงแรมรอยัลพลาซ่านั้นเป็นตัวอย่างเพื่อป้องกันในเรื่องของการก่อสร้าง ซึ่งผู้ที่จะต้องรับผิดชอบกับเหตุการณ์ดังกล่าวก็คือ วิศวกร เนื่องจากการก่อสร้างไม่ว่าจะเป็นเรื่องของเสารับน้ำหนักของตัวอาคาร วิศวกร ก็จะต้องเป็นผู้ที่อกแบบ อีกทั้งเรื่องของเหล็กที่ใช้ในการก่อสร้างนั้นมีความแข็งแรงที่จะสามารถรับน้ำหนักตึก 6 ชั้นได้หรือไม่ ซึ่งก็ทำให้เห็นว่ายังคงมีการคิดเล็กคิดน้อยเพื่อผลประโยชน์ส่วนตัว แต่ไม่คำนึงถึงความปลอดภัยของคนงาน และหากสร้างเสร็จมีผู้ที่เข้าอยู่อาศัยและเกิดเหตุการณ์ถล่ม จะต้องมีผู้ที่เสียชีวิตเป็นจำนวนมากและใครจะเป็นผู้ที่รับผิดชอบ ดังนั้นตนเองต้องการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่ดูแลรับผิดชอบเรื่องของโครงสร้างความแข็งแรงของตัวอาคารควรที่จะมีการตรวจที่เข้มงวด เพื่อความปลอดภัยของและเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ตึกถล่มเป็นครั้งที่3 นางชูศรีฯกล่าว

สำหรับเหตุการณ์สยองโรงแรมรอยัลพลาซ่า อ.เมืองฯ จ.นครราชสีมา ถล่ม  เกิดขึ้นเมื่อเวลา 10.12 น.ของวันที่ 13  สิงหาคม 2536 หรือเมื่อ 21 ปีที่แล้ว ซึ่งมีผู้เคราะห์ร้ายเสียชีวิตจากเหตุการณ์ดังกล่าวจำนวน 137 ราย และมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีกกว่า 300 คน  โดยผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่เป็นข้าราชการครูสังกัดกรมสามัญศึกษาที่กำลังนั่งประชุมสัมมนาอยู่ภายในห้องประชุม  จำนวน  47  คน  ที่เหลือเป็นพนักงานโรงแรม แขกที่เข้าพักทั้งชาวไทยและต่างชาติ  ซึ่งในวันนี้ครอบครัวและญาติของผู้เสียชีวิตจึงได้รวมตัวกันทำบุญและอุทิศส่วนกุศลให้กับผู้เคราะห์ร้ายเป็นประจำทุกปี ขณะที่การฟ้องร้องดำเนินคดีต่างๆ ล่าสุดได้สิ้นสุดคดีเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

Thailand Web Stat