เสือโคร่งตัวแรก

07 กันยายน 2557

ในชีวิตการเที่ยวป่าของผม นับว่าโชคดีกว่าใครต่อใครมากมาย ได้เห็นเสือโคร่งตัวจริงเสียงจริง

ในชีวิตการเที่ยวป่าของผม นับว่าโชคดีกว่าใครต่อใครมากมาย ได้เห็นเสือโคร่งตัวจริงเสียงจริงในป่ามาแล้วถึง 3 ตัว รู้สึกประมาณว่าเกิดมาชาตินี้ ไม่เสียชาติเกิดแล้ว อิอิ

นักเที่ยวป่ารุ่นใหญ่บางคนแชร์ประสบการณ์ บอกว่าเคยเห็นเสือโคร่งในป่าแค่แว้บๆ เห็นหลังไวๆ ยังดีใจจนบอกไม่ถูก แล้วประสบการณ์ของผมละ ตัวหนึ่งยืนแยกเขี้ยวข้างๆ ประตูรถนานหลายนาที อีกสองตัววิ่งไล่เล่นต่อสู้กันกลางลำธาร ผมดีใจขนาดไหน คงพอจะนึกภาพออก

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่จะเขียนถึง “เสือโคร่งตัวแรก” นั้น เป็นเรื่องของเสือโคร่งที่ผมสามารถถ่ายภาพได้เป็นครั้งแรกด้วยกล้องดักถ่ายที่ดัดแปลงจากกล้อง DSLR พ่วงระบบแฟลช 3 ดวง

ก่อนประสบความสำเร็จ ผมลงทุนลงแรงที่จะทำให้ความฝันนี้เป็นจริงนานเป็นปีๆ เหน็ดเหนื่อยกับการขับรถทางไกล การแบกอุปกรณ์เข้าป่า บางครั้งเจอฝนระดับฟ้ารั่วกลางป่า เปียกสั่นสะท้านเป็นลูกหมาตกน้ำ แต่ที่เหนื่อยยิ่งกว่าอื่นใด ความพยายามอย่างหนักเหล่านั้น กลับให้ผลลัพธ์เป็นศูนย์ หรือคว้าน้ำเหลวมาตลอด

ครั้งหนึ่งซึ่งใกล้เคียงที่สุด เสือโคร่งตัวผู้ขนาดใหญ่ เดินผ่านแนวเซ็นเซอร์หลังผมวางดักไว้แค่ 5 วัน แต่ระบบก็รวน ไม่ยอมทำงานซะงั้น

ที่ผมรู้ว่ามีเสือใหญ่ผ่านมาวันเวลาไหน เพราะเห็นภาพจากกล้องดักถ่ายของนักวิจัยที่วางไว้ข้างๆ กัน (ไม่รู้ ยังอาจจะดีซะกว่า ไม่ต้องเสียดาย 555)

แต่แล้ว วาระแห่งความสมหวังก็มาถึง ในช่วงเวลาที่แทบจะเลิกหวังไปหมดแล้ว ความรู้สึกนั้นสุดยอดเกินจะพรรณนา นาทีที่ผมไล่ตรวจภาพจากจอหลังกล้อง Nikon D90 ทีละเฟรมละเฟรม แล้วพบเสือลายพาดกลอน ยืนผงาดอยู่กลางแสงแฟลชที่เซตไว้ให้ยิงแสงจากทิศทางต่างๆ

ได้ยินคำพูดรำพึงรำพันในหัว “อืม เจอกันเสียทีนะ” ปลื้มปริ่มอิ่มใจยิ้มอยู่คนเดียวกลางป่า

แม้จะเป็นการถ่ายรูปเสือโคร่งในแบบที่ผมไม่ได้เห็นตัวจริง แต่ผมประทับใจกับ “เสือโคร่งตัวแรก” จัดการแปลงไฟล์ในกล้องมาเป็นภาพถ่ายขนาดใหญ่ยักษ์ แขวนประดับผนังบ้านในทุกวันนี้

เป็นเครื่องย้ำเตือน ครั้งหนึ่ง...ได้เคยจริงจังเพื่อบางสิ่งมากมายเพียงใด

Thailand Web Stat