posttoday

อนาคภาคอีสานกับธุรกิจท่องเที่ยว

08 ตุลาคม 2557

ในปัจจุบันภาคอีสานของไทยดูเหมือนกับว่าจะเป็นภาคที่อาภัพที่สุดในธุรกิจโรงแรมและการท่องเที่ยวไทยครับ ทั้งๆ ที่เป็นภาคที่มีประชากรค่อนข้างหนาแน่นที่สุดในประเทศ มีศิลปวัฒนธรรม มีประวัติศาสตร์ความเป็นมาที่น่าสนใจ โดยเฉพาะรากเหง้าของชนเผ่าไทตราบอดีตจนถึงปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นไทดำ ไทลาว ไทพวน ไทยอีสาน นอกจากนี้อีสานยังเป็นภาคที่มีวัดทางพุทธศาสนาจำนวนมาก อีกทั้งมีความเชื่อในสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่สืบทอดมาจากบรรพบุรุษจากรุ่นสู่รุ่น มีงานบุญประเพณีตลอดปี มีการละเล่นพื้นบ้าน มีวิถีการดำรงชีวิตของชาวบ้านที่น่าสนใจ เป็นต้น

ในปัจจุบันภาคอีสานของไทยดูเหมือนกับว่าจะเป็นภาคที่อาภัพที่สุดในธุรกิจโรงแรมและการท่องเที่ยวไทยครับ ทั้งๆ ที่เป็นภาคที่มีประชากรค่อนข้างหนาแน่นที่สุดในประเทศ มีศิลปวัฒนธรรม มีประวัติศาสตร์ความเป็นมาที่น่าสนใจ โดยเฉพาะรากเหง้าของชนเผ่าไทตราบอดีตจนถึงปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นไทดำ ไทลาว ไทพวน ไทยอีสาน นอกจากนี้อีสานยังเป็นภาคที่มีวัดทางพุทธศาสนาจำนวนมาก อีกทั้งมีความเชื่อในสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่สืบทอดมาจากบรรพบุรุษจากรุ่นสู่รุ่น มีงานบุญประเพณีตลอดปี มีการละเล่นพื้นบ้าน มีวิถีการดำรงชีวิตของชาวบ้านที่น่าสนใจ เป็นต้น

ว่ากันว่าสาเหตุที่ทำให้ธุรกิจท่องเที่ยวภาคอีสานนั้นไม่สามารถเติบโตได้ดีนักทั้งในอดีตและปัจจุบัน หากเปรียบเทียบกับภาคอื่นๆ ของประเทศ ไม่ว่าจะเป็นภาคใต้ ภาคเหนือ ภาคตะวันออก หรือแม้กระทั่งภาคตะวันตกก็ตาม อาจเป็นเพราะว่าสภาพภูมิประเทศของอีสานที่ธรรมชาติไม่มีความสวยงามเพียงพอที่จะดึงดูดนักท่องเที่ยวได้ตลอดปี อีกทั้งสภาพดินฟ้าอากาศที่ร้อนและแห้งแล้ง อีกทั้งเส้นทางคมนาคมที่ยังอยู่ระหว่างการพัฒนา รวมทั้งยังขาดแคลนสถานที่ท่องเที่ยวตามกระแสนิยมของนักเดินทางระดับนานาชาติ รวมทั้งความยากจนของประชากรที่ส่วนใหญ่ดำรงชีวิตในวิถีการเกษตรแบบเรียบง่ายนั่นเอง

ในธุรกิจโรงแรมก็เช่นเดียวกัน ผมว่าในภาคอีสานท่านทั้งหลายสามารถที่จะหาห้องพักชั้นดีใหม่เอี่ยมอ่อง ขนาดกว้างขวาง มีคุณภาพ มีความสะดวกสบายพร้อมสรรพ แถมอาหารเช้าในราคาย่อมเยาในราคาต่ำกว่า 1,000 บาท ซึ่งสามารถเปรียบเทียบความหรูหราได้กับห้องพักในกรุงเทพฯ ขนาดสี่ดาวมาตรฐานทีเดียวครับ

หากจะถามว่า คุ้มไหมกับการลงทุนในธุรกิจโรงแรมในภาคอีสานในปัจจุบัน ต้องขอเรียนว่าหากคำนวณหาเวลาคุ้มทุน โดยถือกำไรจากผลประกอบการที่ได้รับในแต่ละปีเป็นฐานในการคำนวณ ท่านผู้ลงทุนอาจจะต้องรอจุดคุ้มทุนอย่างน้อย 20 ปีขึ้นไปครับ ด้วยความเป็นจริงในขณะนี้ การขายการตลาดของโรงแรมในภาคอีสานส่วนใหญ่ต้องพึ่งพิงหน่วยงานราชการเป็นหลัก โดยเน้นกลุ่มเป้าหมายไปที่การจัดประชุมสัมมนาและห้องพัก รองลงมา คือกลุ่มบริษัทห้างร้านที่มีเจ้าหน้าที่เดินทางไปทำงานในพื้นที่ สำหรับนักท่องเที่ยวนั้นโดยมากจะมีเฉพาะช่วงเทศกาลเป็นหลักเท่านั้น ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้ทั้งอัตราเฉลี่ยวันที่เข้าพักและค่าที่พักไม่จัดว่าสูงมากนัก เมื่อเปรียบเทียบกับภูมิภาคอื่นของประเทศ

แต่ทว่าหากภาครัฐจะช่วยสนับสนุนธุรกิจการท่องเที่ยวในภาคอีสานอย่างเป็นระบบยั่งยืนและครบวงจร ผมกลับมองว่าภาคอีสานเป็นภาคที่น่าลงทุนในธุรกิจโรงแรมมากที่สุดในเวลานี้ครับ เพราะว่าในอนาคตอันไม่ไกลจากนี้ หลายจังหวัดในภูมิภาคนี้จะมีศักยภาพสูงทางเศรษฐกิจ จะเป็นเส้นทางคมนาคมเชื่อมโยงระหว่างจังหวัดและประเทศที่สำคัญทั้งในการเดินทางท่องเที่ยว ขนส่งสินค้าและเส้นทางการค้าขาย ที่จะสามารถเดินทางผ่านไปยังหลากหลายประเทศ ทั้งในกลุ่มประเทศอาเซียนและบางเส้นทางอาจจะสามารถเชื่อมโยงการคมนาคมทางรถยนต์ในอนาคตเข้าไปถึงจีน อินเดีย ตะวันออกกลาง และตุรกี นอกจากนี้เขตนิคมอุตสาหกรรมในหลายจังหวัด ทั้งที่มีอยู่แล้วและกำลังจะเปิดใหม่ในภาคอีสาน จะเป็นแหล่งสร้างงานให้พี่น้องในภาคนี้ได้มีรายได้ที่มั่นคง โดยจะมีนักเดินทาง นักธุรกิจต่างชาติเดินทางเข้ามามากขึ้น

ดังนั้น สิ่งที่หน่วยงานภาครัฐในด้านการท่องเที่ยวควรพิจารณาคือการกำหนดนโยบายเพื่อสนับสนุนส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนและมั่นคงในพื้นที่ภาคอีสานนับแต่นี้ไปครับ เท่าที่ผมสังเกตเห็นในอดีตที่ผ่านมา นโยบายทางการท่องเที่ยวของเรามักจะทุ่มเทงบประมาณไปทำการตลาดในพื้นที่ที่นักท่องเที่ยวต่างชาติรู้จัก ได้รับความนิยมและขายได้อยู่แล้ว เช่น กรุงเทพฯ พื้นที่ชายทะเลตะวันออกกับภาคใต้ หรือพื้นที่ภูเขาในภาคเหนือ เป็นต้น

ในขณะที่ภาคอีสานของเรานั้น มีความพร้อมในเกือบจะทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นสนามบิน เส้นทางรถยนต์ ที่พักแรมคุณภาพดี ศูนย์การค้าทันสมัย สินค้าหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ ศิลปวัฒนธรรม ประเพณีเทศกาลงานบุญ วิถีชีวิต เอกลักษณ์ทางด้านอาหาร รวมถึงอัธยาศัยไมตรีจิตความเป็นมิตรของพี่น้องประชาชนชาวอีสาน แต่เป็นที่น่าเสียดายว่าจังหวัดในภาคอีสานทั้งหลายมักจะไม่ค่อยได้รับการสนับสนุนจากหน่วยงานของรัฐในการทำกิจกรรมทางการตลาดหรือประชาสัมพันธ์ในระดับนานาชาติมากนัก เมื่อเปรียบเทียบกับภูมิภาคอื่นของประเทศไทย

หน่วยงานท่องเที่ยวภาครัฐน่าจะลองบูรณาการตลาดนักท่องเที่ยวเชิงปริมาณทั้งหลาย อาทิ จีน อินเดีย เกาหลี รัสเซีย มาเลเซีย ฝรั่งเศส กลุ่มประเทศในอินโดจีนและที่ขาดไม่ได้คือตลาดคนไทยทั้งนักท่องเที่ยว กลุ่มประชุมสัมมนา ให้หันมาเดินทางมาท่องเที่ยวภาคอีสานทั้งเหนือและใต้มากขึ้นให้ได้ครับ

ผมเชื่อว่าไม่ต้องห่วงภาคเอกชนในเรื่องการลงทุนในธุรกิจท่องเที่ยวเพื่อรองรับการเติบโตหรอกครับ ขอให้ภาครัฐดำเนินงานให้นักท่องเที่ยวมาให้มากๆ เถอะครับ เม็ดเงินสดๆ จากนักธุรกิจในภาคอีสานมีพร้อมที่จะลงทุนครับ ทั้งโรงแรม ศูนย์การค้า ร้านอาหาร สถานบันเทิง หรือแม้กระทั่งร้านสินค้าปลอดภาษีก็ทำได้ครับ