เกษตรลำปางร้องขอที่ดินทำกินคืน
ลำปาง-เกษตรกรบุกศาลากลางยื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรีขอผืนป่าทำกินหลังเจ้าหน้าที่ปักป้ายยึดคืน
ลำปาง-เกษตรกรบุกศาลากลางยื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรีขอผืนป่าทำกินหลังเจ้าหน้าที่ปักป้ายยึดคืน
เมื่อวันที่ 14 ต.ค. เกษตรกรจาก 33 หมู่บ้าน จาก 7 อำเภอของ จ.ลำปาง ได้แก่ อ.เมืองปาน วังเหนือ แจ้ห่ม งาว แม่เมาะ เสริมงาม และเถิน กว่า 100 คนรวมถึงเกษตรกรจากสหพันธ์เกษตรกรภาคเหนือ (สกน.)ได้เดินทางมาชุมนุมอยู่ที่ทางขึ้นศูนย์ราชการ จ.ลำปาง เพื่อขอพบนายธานินทร์ สุภาแสน ผวจ.ลำปาง เพื่อยื่นหนังสือผ่านไปยัง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ที่มีคำสั่งในเรื่องการปราบปราม และการหยุดยั้งการบุกรุกทำลายทรัพยากรป่าไม้ โดยมอบหมายให้ทางกระทรวงกลาโหม กระทรวงมหาดไทย กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม รวมถึงกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ให้ทำการยึดพื้นที่ป่าที่ถูกบุกรุกคืน
ทั้งนี้ชาวบ้าน ระบุว่า ได้ใช้พื้นที่ดินดังกล่าวมานาน ก่อนที่จะเกิดความเดือดร้อนจากคำสั่งดังกล่าวซึ่งจะมีการยึดพื้นที่ดังกล่าวคืนจะกระทบต่อชาวบ้านที่มีอาชีพเกษตรกรรมอย่างแน่นอนจึงได้รวมตัวกัน และเข้ายืนหนังสือเรียกร้องในครั้งนี้ เพื่อขอให้ นายกรัฐมนตรีพิจารณาในคำสั่งดังกล่าวด้วย และขอความเห็นใจ และเป็นธรรมกับชาวบ้าน ที่ไม่ใช่กลุ่มนายทุนที่เข้าไปรุกที่ป่า แต่เป็นผู้มีรายได้น้อย ที่ใช้เป็นที่ดินทำกินในการประกอบอาชีพเกษตรกรรม
นายฤทธิพงศ์ เตชะพันธ์ รองผวจ.ลำปาง ปฎิบัติราชการแทนนายธานินทร์ ผวจ.ลำปาง ได้มาพบกลุ่มชาวบ้านที่มาชุมนุมที่ทางขึ้นศูนย์ราชการจังหวัดลำปาง พร้อมรับฟังแถลงการณ์ในปัญหาผลกระทบดังกล่าว ก่อนที่จะรับหนังสือจากตัวแทนชาวบ้าน เพื่อจะได้ส่งผ่านไปยังนายกรัฐมนตรี ในลำดับต่อไป ทำให้ชาวบ้านหลังทำการยื่นหนังสือแล้ว จึงได้แยกย้ายกลับบ้าน
นางชนิกานดา ประดิษฐ์พุ่ม ตัวแทนชาวบ้านสบเมาะ หมู่ 4 ต.แม่เมาะ อ.แม่เมาะ จ.ลำปาง กล่าวว่า มีพื้นที่ปลูกถั่วอยู่ท้ายหมู่บ้านจำนวน 30 ไร่ ปรากฏว่า มีเจ้าหน้าที่ป่าไม้ได้เข้ามาทยอยปักป้ายห้ามบุกรุกป่า และประกาศบทลงโทษไว้อย่างชัดเจนทำให้ชาวบ้านคนอื่นที่ถูกปักป้าย รวมถึงเธอเองได้เกิดความกลัวว่า จะถูกจับ และได้รับผลกระทบเพราะจะต้องดูแลพื้นที่การเกษตร และผลผลิตก็ใกล้ที่จะเก็บเกี่ยวแล้ว ดังนั้น จึงต้องฝืนเข้าไปดูแล เพราะหากไม่ดูแลถั่วที่ปลูกก็จะตาย หากไม่เข้าไปเก็บเกี่ยวผลผลิตก็จะไม่มีรายได้มาเลี้ยงชีพ เพราะครอบครัวมีอาชีพประกอบการเกษตรเพียงอย่างเดียว ดังนั้นจึงวิงวอนขอร้องให้ทางนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติพิจารณาด้วย เพื่อไม่ให้กระทบต่อชาวบ้าน เป็นคืนความสุขกับผู้ที่มีรายได้น้อยไว้ด้วย