PR สำนักปฏิบัติธรรมต้นแบบ
สมเด็จพระพุทธชินวงศ์ ประธานเผยแผ่พระพุทธศาสนาแห่งชาติ จัดสื่อประชาสัมพันธ์สำนักปฏิบัติธรรมต้นแบบ
สมเด็จพระพุทธชินวงศ์ ประธานเผยแผ่พระพุทธศาสนาแห่งชาติ จัดสื่อประชาสัมพันธ์สำนักปฏิบัติธรรมต้นแบบ ผ่านทางวิดีทัศน์ โดยสื่อสาร 5 ภาษา ไทย อังกฤษ จีน ญี่ปุ่น และเยอรมัน เพื่อให้เข้าถึงผู้สนใจนานาชาติได้ทั่วถึง
เมื่อจัดทำเรียบร้อยจะจัดสำนักปฏิบัติธรรมแฟร์ ขึ้น โดยให้วัดแต่ละวัดจัดบูธแสดงการปฏิบัติธรรมที่จัดขึ้นในวัดนั้นๆ เป็นประจำ มาจัดให้ผู้สนใจได้เรียนรู้ ในเบื้องต้น
สมเด็จพระพุทธชินวงศ์ Most Ven Somdej Phra Buddha Jinawongsa (ศ.พิเศษ ดร. สมศักดิ์ ป.ธ.9 Ph.D.) กรรมการมหาเถรสมาคม เจ้าคณะใหญ่หนกลาง ประธานเผยแผ่พระพุทธศาสนาแห่งชาติ ต้องการให้มีสถานปฏิบัติธรรมตามหลักมหาสติปัฏฐาน 4 และวิปัสสนากรรมฐาน ขยายยิ่งขึ้น จึงดำริให้จัดทำสื่อประชาสัมพันธ์สำนักปฏิบัติธรรมต้นแบบ เพื่อส่งเสริมสถานปฏิบัติธรรมที่ได้มาตรฐานตรงตามพุทธประสงค์ ให้เป็นที่รู้จักของสาธารณชน
ความคิดดังกล่าวจุดประกายขึ้น เมื่อทราบว่าตัวเลขสถานปฏิบัติธรรมในประเทศไทยมีเพียง 1,001 แห่งเท่านั้น ทั้งนี้ จากการที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติสำรวจวัดต่างๆ และขึ้นทะเบียนไว้ ตามที่มหาเถรสมาคมให้คณะสงฆ์จังหวัด คัดเลือกวัดที่มีความเหมาะสมในด้านการอบรมและสอนวิปัสสนากรรมฐาน ให้เป็นสำนักปฏิบัติธรรมประจำจังหวัดตามระเบียบมหาเถรสมาคม
ในการคัดเลือกได้กำหนดหลักเกณฑ์ว่าต้องเป็นสถานปฏิบัติธรรมที่ก่อให้เกิดปัญญารู้แจ้งตามความเป็นจริงตามธรรมชาติ และเข้าถึงสภาวะดับ สงบเย็น หรือนิพพานในที่สุด
ในการนี้สมเด็จพระพุทธชินวงศ์ ร่วมกับคณะทำงาน คัดเลือกสำนักปฏิบัติธรรมตามเกณฑ์ได้ 14 แห่ง เพื่อถ่ายทำสื่อประชาสัมพันธ์ด้วยเทคนิคทันสมัย โดยทำเป็นดีวีดี 3 แผ่น แบ่งเป็น 14 ตอน ความยาวตอนละ 1823 นาที และพิมพ์หนังสือความเป็นมาของสำนักดังกล่าว จัดทำเว็บไซต์ โดยจะนำเนื้อหาในดีวีดีไปเผยแผ่ผ่านสถานีโทรทัศน์ เพื่อเป็นความรู้สำหรับประชาชนทั่วไป
ส่วนประโยชน์ที่จะได้รับจากการสร้างสื่อประชาสัมพันธ์ จะได้ข้อมูลและองค์ความรู้เรื่องวิปัสสนากรรมฐาน สถานปฏิบัติธรรมต้นแบบ ตรงตามวัตถุประสงค์ ตรงแนวทางของพระพุทธเจ้า เพื่อนำไปใช้เป็นมาตรฐาน ถ้าหากต้องการจัดตั้งสำนักปฏิบัติธรรมสำหรับวัดและสำนักปฏิบัติธรรมทั่วไป
นอกจากนั้น ประชาชนทั่วไปสามารถเข้าถึงข้อมูล และเลือกสำนักปฏิบัติธรรมตามความพอใจและสะดวกของตนได้ด้วย
สำหรับสำนักปฏิบัติธรรมต้นแบบที่ผ่านการคัดเลือก ได้แก่
1. วัดร่ำเปิง (ตโปทาราม) อ.เมือง จ.เชียงใหม่ (Wat Ram Poeng (Tapotaram)
2. วัดพระธาตุศรีจอมทองวรวิหาร จ.เชียงใหม่ (Wat Phra datu Sri Chom Thong)
3. วัดท่ามะโอ จ.ลำปาง (Wat Tamaoh )
4. วัดอัมพวัน จ.สิงห์บุรี (Wat Amphawan)
5. วัดมเหยงคณ์ จ.พระนครศรีอยุธยา (Wat Mahe Yong)
6. วัดตาลเอน อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา (Wat Taan Ean)
7. วัดเขาสมโภชน์ อ.ชัยบาดาล จ.ลพบุรี (Wat Khao Sombhojna)
8. วัดนาหลวง อ.บ้านผือ จ.อุดรธานี (Wat Na Luang)
9. สำนักปฏิบัติธรรม ธรรมโมลี อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา (Dhamamolee Meditation Center)
10. วัดพระธรรมจักร อ.ดงละคร จ.นครนายก (Wat Phra Dhamma Chakkra)
11. วัดภัททันตะอาสภาราม อ.บ้านบึง จ.ชลบุรี (Wat Bhat Dhanta Asabharama)
12. ศูนย์ปฏิบัติธรรม 84 พรรษา ราชนครินทร์ อ.แก่งหางแมว จ.จันทบุรี ( 84 years Raj Nakharindra Meditation Center)
13. วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ กรุงเทพมหานคร (Wat Mahadhatu Bangkok)
14. วัดพิชยญาติการาม เขตคลองสาน กรุงเทพมหานคร (Wat Phijaya Yatikarama Bangkok)
เมื่อดูตามรายชื่อที่คัดเลือกมา ไม่มีชื่อสำนักปฏิบัติธรรมที่มีชื่อเสียงและคนรู้จักมานาน เช่น สำนักวัดปากน้ำภาษีเจริญ เป็นต้น แหล่งข่าวระดับสูงบอกว่ารายชื่อที่คัดเลือกมาเป็นสำนักปฏิบัติธรรมต้นแบบ เน้นเฉพาะสำนักที่สอนตามแนวสติปัฏฐาน 4 เท่านั้น
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ทีมงานถ่ายทำสำนักปฏิบัติธรรมต้นแบบได้ถ่ายทำเกือบ 100% แล้ว คาดว่าจะสำเร็จเรียบร้อยเร็วๆ นี้
เมื่อเผยแผ่ตามโครงการ คงได้รับความสนใจจากประชาชนแน่นอน เพราะเป็นการประชาสัมพันธ์สำนักปฏิบัติธรรมต้นแบบครั้งแรกของไทยที่ถ่ายทำโดยทีมงานมืออาชีพ