มหาส่วยพันล้าน ปิดฉาก ‘มาเฟียสีกากี’

30 ธันวาคม 2557

เรื่องสะท้านวงการสีกากีประจำปี 2557 หนีไม่พ้นคดีทุจริตเรียกรับผลประโยชน์มหาศาล

โดย...ทีมข่าวในประเทศโพสต์ทูเดย์

เรื่องสะท้านวงการสีกากีประจำปี 2557 หนีไม่พ้นคดีทุจริตเรียกรับผลประโยชน์มหาศาล โดยมี พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์ อดีตผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (ผบช.ก.) เป็นหัวหน้าขบวนการใหญ่ ถูกจับพร้อมด้วยลูกน้อง นายตำรวจใน บช.ก. และกองปราบปราม

พลันที่ตำรวจเข้าค้นบ้านพัก พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ หลายจุด พบทรัพย์สินมีค่ามากมาย ทั้งอัญมณี พระเครื่อง โบราณวัตถุ รถหรูจำนวนมาก ไม้แปรรูป ชามสังคโลก  ฯลฯ ซึ่งจนถึงขณะนี้ยังมีการขยายผลเอาผิดต่อเนื่อง ทั้งการออกหมายจับผู้ต้องหารวมแล้วกว่าครึ่งร้อย  ขณะทีี่นายตำรวจดาวรุ่งในกองปราบหลายคนที่ต้องคดี ยังหลบหนีไม่ยอมมอบตัว

พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ หรือ  “บิ๊กกิ๊ก” ถือเป็นปรมาจารย์นักสืบ เคยทำคดีใหญ่ระดับประเทศไว้มากมาย ผลงานล่าสุด จับกุม “กำนันเป๊าะ” สมชาย คุณปลื้ม ผู้กว้างขวางภาคตะวันออก แต่ที่สุด 
“บิ๊กกิ๊ก”  ต้องปิดฉากอาชีพตำรวจลงในตำแหน่งสุดท้าย คือ ผบช.ก. หลังนั่งเก้าอี้นี้มานาน  4 ปี

คำสั่งช็อกวงการสีกากี ย้าย พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ เข้ากรุ มีขึ้นในช่วงกลางดึกของวันที่ 12 พ.ย. โดยผบ.ตร. อ้างว่าเพื่อให้งานมีประสิทธิภาพ  จากนั้นมา บิ๊กกิ๊กถูกแจ้งดำเนินคดีด้วยข้อหาหนัก ป.อาญา มาตรา 112 (หมิ่นสถาบัน) มาตรา 148 (เจ้าพนักงานจูงใจให้ผู้อื่นมอบผลประโยชน์) มาตรา 149 (เจ้าพนักงานเรียกรับผลประโยชน์) มาตรา 157 (เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ) มาตรา 12 (1) จัดให้เล่นการพนัน และความผิด พ.ร.บ.ฟอกเงิน ก่อนจะตามด้วยคำสั่งให้ออกจากราชการ 

นอกจากตัว พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ยังมีลูกน้องคนสนิท อย่าง พล.ต.ต.โกวิทย์ วงศ์รุ่งโรจน์ อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) พล.ต.ต.บุญสืบ ไพรเถื่อน ผู้บังคับการตำรวจน้ำ (ผบก.รน.)  เรียกเก็บส่วยน้ำมันเถื่อนจากขบวนการเครือข่ายของ “เสี่ยโจ้” หรือสหชัย เจียรเสริมสิน เจ้าพ่อค้าน้ำมันเถื่อนรายใหญ่ในพื้นที่ภาคใต้ประเทศไทย  นอกจากนี้เครือข่าย “บิ๊กกิ๊ก” อีกหลายคนถูกขุดรากถอนโคน ตกเป็นผู้ต้องหาในแก๊งเรียกรับส่วย และแอบอ้างเบื้องสูง 

คำร้องฝากขัง พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ที่พนักงานสอบสวนอ้างต่อศาล ระบุพฤติการณ์ว่า ระหว่างวันที่ 1 ต.ค. 2553-11 พ.ย. 2557 ขณะที่ พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการสอบสวนกลางมีอำนาจแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการ ได้สมรู้ร่วมคิดกับ พล.ต.ต.บุญสืบ พ.ต.อ.อัครวุฒิ์ หลิมรัตน์ อดีต ผกก.1 ป. และ พ.ต.อ.วุฒิชาติ เลื่อนสุคันธ์ ผกก.4 บก.ปคบ. เรียกรับเงินจากตำรวจที่ประสงค์จะไปดำรงตำแหน่งรายละ 3-5 ล้านบาท โดยส่งเงินให้กับกลุ่มผู้ต้องหาเป็นรายเดือนรวมกว่า 50 ล้านบาท

สำหรับ พล.ต.ต.บุญสืบ พบว่า ในช่วงวันที่ 28 ธ.ค. 2554-18 ก.ค. 2557 ขณะดำรงตำแหน่งผู้บังคับการตำรวจน้ำ ได้เรียกรับเงินจากผู้ค้าน้ำมันเถื่อนชายแดนภาคใต้ โดยแอบอ้างสถาบันเบื้องสูง มีการเรียกเก็บเงินค่าส่วยน้ำมันเดือนละ 1-2 ล้านบาท ส่งเงินให้กับ พล.ต.ต.โกวิทย์ 35 ล้านบาท และ พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ 118 ล้านบาท

ขณะที่ พล.ต.ต.โกวิทย์  เปิดบ่อนการพนันย่านห้วยขวางร่วมกับ พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ แอบอ้างว่าจะนำเงินไปถวายให้สถาบันเบื้องสูง

พฤติกรรมกระทำความผิดยังไม่สิ้นสุด เครือข่ายของ พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ยังถูกออกหมายจับข้อหาตั้งแก๊งอุ้มทวงหนี้แอบอ้างเบื้องสูง อาทิ  “นพพร ศุภพิพัฒน์” นักธุรกิจพลังงานหมื่นล้าน น.ท.ปริญญา รักวาทิน หรือ เสธ.เจี๊ยบ กรรมการผู้จัดการบริษัท เรือด่วนเจ้าพระยา ถูกซัดทอดเป็นตัวกลางเคลียร์หนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งพี่น้องตระกูลอัครพงศ์ปรีชา  3 คน “ณัฐพล-ณรงค์-สิทธิศักดิ์” ที่อยู่ขบวนการนี้ด้วย  ซึ่งต่อมากองกิจการในพระองค์ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร มีคำสั่งยกเลิกชื่อสกุลพระราชทาน อัครพงศ์ปรีชา ให้กลับมาใช้นามสกุล “เกิดอำแพง” ตามเดิม

นอกจาก 3 อัครพงศ์ปรีชา ยังได้ออกหมายจับ สุดาทิพย์ ม่วงนวล พี่สาวอีกคน ข้อหาแอบอ้างเบื้องสูงหาประโยชน์ในการประมูลเครื่องเสวยและผักต้มส่งพระที่นั่งอัมพรสถาน และวังศุโขทัย ซึ่งก่อนหน้านี้ สุดาทิพย์  และสามี คือ พ.ต.อ.โกวิท ม่วงนวล ถูกตั้งข้อหารุกที่ป่า จ.ราชบุรี มาแล้ว

คดีล่าสุดที่มีการขยายผลและเอาผิดเพิ่มกับ พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์  คือ  คดีรับสินบนบ่อนพนันออนไลน์ “อาบูบาก้า” เมื่อปี 2552 มีการออกหมายจับผู้ต้องหา 14 คน แยกเป็นนายตำรวจนับสิบนายในสังกัดกองปราบปราม ตำรวจ ปอท. ปอศ. ที่เหลือเป็นพลเรือน  โดยพบว่าระหว่างปฏิบัติการจับกุมโต๊ะพนันฟุตบอลออนไลน์ นายตำรวจเหล่านี้ได้เรียกรับประโยชน์จากการถอนอายัดบัญชีผู้ต้องหาโต๊ะพนันฟุตบอลออนไลน์ คำร้องฝากขังระบุว่า การกระทำของ พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ กับพวก น่าเชื่อว่าได้รับเงินสินบนในครั้งนี้มากกว่า 150 ล้านบาท

การขยายผลสอบสวนพบการกระทำผิดมากมาย ทำให้ ปปง.ได้เข้าอายัดทรัพย์สิน พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ และเครือข่ายรวมแล้ว 1,500 ล้านบาท รวมจำนวน 3,000 รายการ หรือประมาณ 2.7 หมื่นชิ้น

แม้ว่าขณะนี้คดีมหาส่วยของ พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ยังไม่ได้สั่งฟ้อง อยู่ระหว่างการขยายผล แต่ก่อนหน้านี้ไม่มีใครเชื่อว่า พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ผู้ยิ่งใหญ่และทรงอิทธิพลมากที่สุดในวงการตำรวจ  จะกลายเป็นผู้ต้องหาเพียงชั่วข้ามคืน ท่ามกลางข้อสงสัยว่าอะไรที่ทำให้เขาต้องมาตกม้าตายง่ายดาย ทั้งที่รีดเรียกรับส่วยมานานกว่า 4 ปี หรือเป็นยุคที่ตำรวจกล้าปฏิรูป จัดการคนผิดจริง ไม่มีเว้นแม้แต่พวกกันเอง?

ยังไม่มีท่าทีจากบิ๊กตำรวจ ว่าจะแก้ปัญหาการทุจริต เรียกรับผลประโยชน์ในวงการสีกากีที่มีมาช้านานอย่างไร นอกจากคำมั่นสวยหรูของ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผบ.ตร. ที่ว่า “ไม่ว่าใครจะใหญ่แค่ไหน แต่ยุคผมจับหมด” กระนั้นเชื่อว่า พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ และพวก ไม่ใช่บิ๊กตำรวจคนสุดท้ายที่โลดแล่นอยู่ในอาณาจักรสีเทาแห่งนี้

27 คน อยู่เรือนจำ

เครือข่าย พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ที่ถูกฝากขัง

รวม 27 คน จำนวนนี้ 13 คนเป็นพลเรือน อาทิ

บช.ก. - บช.สตม.

พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์

พล.ต.ต.โกวิทย์ วงศ์รุ่งโรจน์ (บช.ก.)

พล.ต.ต.บุญสืบ ไพรเถื่อน (บก.รน.)

พ.ต.อ.วุฒิชาติ เลื่อนสุคันธ์ (บก.ปคบ.)

พ.ต.อ.โกวิท ม่วงนวล (บช.สตม.)

ร.ต.อ.ศักรินทร์ เกษรเทียน (บก.ปคม.)

กองปราบ

พ.ต.อ.อัครวุฒิ์ หลิมรัตน์ (เสียชีวิต)

พ.ต.ท.วัฒนา ผลงานดี

พ.ต.ต.อภิสิทธิ์ เมฆประยูร

ร.ต.อ.นิธิพัฒน์ กังรวมบุตร (หลาน พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์)

ด.ต.สุรศักดิ์ จันทร์เงา

ด.ต.ฉัตรินทร์ หรือจักรินทร์ เหล่าทอง

ทหาร

ส.อ.ณธกร ยาศรี

ส.อ.ธีรพงศ์ ช่อจำ

น.ท.ปริญญา รักวาทิน

เครือญาติ พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์

ณัฐพล/สิทธิศักดิ์/ณรงค์ สุวะดี

สุดาทิพย์ ม่วงนวล

Thailand Web Stat