ไทยศูนย์กลางศึกษาอาเซียน?

ระบบการศึกษาไทยยังต้องได้รับการพัฒนาอีกมาก อย่างไรก็ตามประเทศไทยยังคงมีความพยายามที่จะเป็นศูนย์กลางด้านการศึกษาของอาเซียน

แดเนียล แมกซ์เวลล์ นักเขียนและนักการศึกษาที่ทำงานอยู่ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มาตั้งแต่ช่วงปี 1990 แสดงทัศนะผ่านเอเชียนคอร์เรสปอนเดนท์ สำนักข่าวอิสระอย่างเอเชียนคอร์เรสปอนเดนท์ ว่า การเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี) ในปี 2015 นี้ จะเป็นการพิสูจน์เป้าหมายของไทยในความพยายามเป็นศูนย์กลางการศึกษาของภูมิภาค

โรงเรียนนานาชาติและหลักสูตรภาษาอังกฤษเติบโตอย่างมาก และอาจทำให้เป้าหมายที่ไทยจะกลายเป็นศูนย์กลางการศึกษามีความเป็นไปได้ โดยจากข้อมูลของกลุ่มผู้ให้คำปรึกษาโรงเรียนนานาชาติ (ไอเอสซี) พบว่าในปัจจุบันไทยมีโรงเรียนนานาชาติ 173 แห่ง และมีนักเรียนมากกว่า 6 หมื่นคน เพิ่มขึ้นอย่างมากจากทศวรรษที่ 90 ที่มีโรงเรียนนานาชาติเพียง 5 โรงเรียนเท่านั้น ในขณะที่การศึกษาระดับปริญญาหลักสูตรนานาชาติเองก็มีถึง 344 หลักสูตร

นอกจากนี้ ในปัจจุบันโรงเรียนไทยหลายโรงเรียนเริ่มหันมาเปิดหลักสูตรนานาชาติควบคู่ไปกับหลักสูตรดั้งเดิม รวมถึงได้รับความนิยมอย่างมากในหมู่นักเรียนไทย เพราะนอกจากนักเรียนได้รับการศึกษาระดับนานาชาติแล้ว นักเรียนยังได้อยู่ในสิ่งแวดล้อมแบบโรงเรียนไทยอีกด้วย

แอนดริว อีเลียต ผู้ให้การศึกษาในไทยมานานกว่า 16 ปี ระบุว่า ภายหลังจากเปิดเออีซีแล้ว ภาคส่วนการศึกษานานาชาติในประเทศไทยจะเติบโตขึ้นอีกมาก เนื่องจากประเทศไทยตั้งอยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสมคือ เป็นใจกลางของอาเซียนและใกล้กับจีนและอินเดีย ในขณะเดียวกันไทยยังได้รับความนิยมในด้านการท่องเที่ยวและการย้ายถิ่นฐานมาอยู่อีกด้วย ซึ่งจะกลายเป็นโอกาสในการยกระดับมาตรฐานการศึกษาไทยในอนาคต

อย่างไรก็ตาม แมกซ์เวลล์ ระบุว่า การเป็นศูนย์กลางการศึกษาไม่อาจช่วยระบบการศึกษาไทยในภาพรวมได้ เนื่องจากมีเพียงคนกลุ่มหนึ่งเท่านั้นที่สามารถเข้าถึงระบบการศึกษาดังกล่าวได้ และเป้าหมายการเป็นศูนย์กลางการศึกษาก็ไม่ง่ายนักที่จะประสบความสำเร็จ

เหตุผลคือไทยมีคู่แข่งสำคัญที่มีที่ตั้งใกล้กับไทย ได้แก่ สิงคโปร์และมาเลเซีย ซึ่งให้การศึกษาในระดับนานาชาติมาอย่างยาวนานแล้วเช่นกัน โดยเฉพาะสิงคโปร์เองก็ถือเป็นประเทศที่น่าอยู่เช่นเดียวกับไทย และได้มีชื่อเสียงอย่างมากด้านระบบการศึกษา รวมถึงทั้งสองประเทศดังกล่าวไม่ได้เจอปัญหาด้านการเมืองเช่นเดียวกับไทยด้วย