พบกระดูกหญิงนิรนามกลางไร่อ้อย
ขอนแก่น-คนงานรับจ้างตัดอ้อยพบกระดูกหญิงนิรนามกลางไร่อ้อย ตำรวจคาดว่าถูกฆ่านำมาเผาทำลายหลักฐาน
ขอนแก่น-คนงานรับจ้างตัดอ้อยพบกระดูกหญิงนิรนามกลางไร่อ้อย ตำรวจคาดว่าถูกฆ่านำมาเผาทำลายหลักฐาน
เมื่อวันที่ 22 ม.ค. ร.ต.อ.สุรพล สินเพ็ง ร้อยเวร สภ.พระยืน จ.ขอนแก่น ได้รับแจ้งพบกระดูกชิ้นส่วนมนุษย์ถูกเผาอยู่กลางไร่อ้อยบ้านหนองโพ หมู่ 2 ต.หนองแวง อ.พระยืน จ.ขอนแก่น จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ ก่อนรุดไปตรวจสอบ พร้อมด้วย พล.ต.ต.จิตรจรูญ ศรีวนิชย์ ผบก.ภ.จว.ขอนแก่น พ.ต.อ.ธีรัชช์ โอสถานนท์ ผกก.สภ.พระยืน พ.ต.ท.ภาคภูมิ พิสมัย รอง ผกก.สส. ภ.จว.ขอนแก่น พญ.ภัทรา รุ่งวิริยะวนิช แพทย์เวรโรงพยาบาลพระยืน เจ้าหน้าที่ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 4 ขอนแก่น และ มูลนิธิขอนแก่นสามัคคีอุทิศ
ทั้งนี้ที่เกิดเหตุเป็นไร่อ้อยที่ถูกเผาแล้ว พบชิ้นส่วนของเศษอวัยวะ ท่อนขา ท่อนแขน โครงกระดูก กรามล่าง กระดูกคอ ขากรรไกร ปลายกระดูกขา ซี่โครงมนุษย์ และกะโหลกศีรษะที่มีเส้นผมติดอยู่ มีเศษเสื้อผ้า เสื่อ ที่ถูกไฟไหม้ดำเป็นตอตะโก กระจัดกระจายทั่วบริเวณป่าอ้อยที่ถูกเผาเจ้าหน้าที่ตรวจสอบอย่างละเอียดไม่พบเอกสารหลักฐานเกี่ยวกับผู้ตายและ จากการชันสูตรในเบื้องต้น ระบุว่า ชิ้นส่วนกระโหลกเป็นเพศหญิงอายุประมาณ 20 ปี เสียชีวิตมาแล้วไม่น่าจะเกิน 5 วัน
นายสหัสนาม วงษ์สวัสดิ์ กล่าวว่า ได้มารับจ้างตัดอ้อยในสถานที่เกิดเหตุเป็นบางครั้ง โดยเมื่อช่วง 4 วันที่ผ่านมาได้เกิดเหตุเพลิงไหม้ไร่อ้อยดังกล่าว และเมื่อดับสนิท เจ้าของไร่อ้อยจึงระดมแรงงานมาเพื่อทำการตัดอ้อยเพื่อไปจำหน่าย โดยระหว่างที่กำลังตัดอยู่นั้นได้ไปพบกะโหลก และชิ้นส่วนมนุษย์ ในไร่อ้อยที่ถูกเผาดังกล่าว จึงแจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทราบ
พญ.ภัทรา กล่าวว่า กะโหลกศีรษะ กระดูกมนุษย์ ที่พบเห็นในป่าอ้อยบ้านหนองโพเป็นของจริง สันนิษฐานคาดว่า เป็นเพศหญิง อายุประมาณ 18 – 25 ปี เพราะโดนเผาทำลายไปมากคาดว่าไม่ต่ำกว่า 5 วันขึ้นไป นอกจากนี้พบกะโหลก ชิ้นส่วนกระดูกไม่ว่าจะเป็นแขน ขา กระดูกสันหลัง กราม และชิ้นส่วนมนุษย์ กระจัดกระจายห่างกันประมาณ 1 – 2 เมตร เจ้าหน้าที่จึงต้องเก็บรวมรวมหลักฐานที่พบในที่เกิดเหตุทั้งหมดส่งให้แผนกนิติเวชโรงพยาบาลศรีนครินทร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ตรวจพิสูจน์ให้แน่ชัดอีกครั้งหนึ่งถือว่าเป็นการตายที่ผิดธรรมชาติอย่างมาก และมีการเผาทำลายหลักฐานอีกด้วย
พล.ต.ต.จิตรจรูญ กล่าวว่า เบื้องต้นเจ้าหน้าที่คาดว่าอาจจะถูกฆ่ามาจากที่อื่น แล้วนำมาเผาอำพรางในจุดที่พบศพผู้ตายเจ้าหน้าที่จึงต้องนำกะโหลก กระดูก ที่พบในจุดดังกล่าว ส่งไปเพื่อพิสูจน์หาสาเหตุการเสียชีวิตอีกครั้งที่โรงพยาบาลศรีนครินทร์ และจะได้ประสานข้อมูลการรับแจ้งคนหายหาอัตลักษณ์บุคคล ว่าผู้ตายเป็นใคร