ผังเมืองใหม่หัวหินขยาย 4 เท่า
การขยายตัวของเมืองหัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ แบบก้าวกระโดดช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมา
โดย...ไชยวัฒน์ สาดแย้ม
การขยายตัวของเมืองหัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ แบบก้าวกระโดดช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมา กลุ่มทุนเข้ามากว้านซื้อที่ดินในพื้นที่ครอบคลุมไปถึงพื้นที่ติดกับ อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี ลงทุนทำโรงแรม รีสอร์ท สนามกอล์ฟ สวนน้ำ สวนสนุก และธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ตลอดจนศูนย์การค้ายักษ์ใหญ่ต่างๆ
ความหนาแน่นของเมืองส่งผลให้เกิดปัญหาต่างๆ ตามมาอีกมาก ทั้งการจราจร สาธารณูปโภค ความไม่เป็นระเบียบเรียบร้อยของอาคารต่างๆ ด้วยเหตุเพราะที่ยังไม่มีผังเมืองให้รองรับการเติบโต
พิเชษฐ์ ปาณะพงศ์ โยธาธิการและผังเมืองจังหวัดประจวบ คีรีขันธ์ เปิดเผยว่า การจัดทำผังเมืองหัวหินฉบับใหม่จะมีเนื้อที่มากกว่าผังเมืองเดิมถึง 4 เท่า ครอบคลุมไปยังพื้นที่ ต.ทับใต้ และ ต.หินเหล็กไฟ หรือขยายขึ้นจาก 87 ตารางกิโลเมตร เป็นพื้นที่ 327 ตารางกิโลเมตร คาดว่าจะประกาศใช้ได้ในราวกลางปี 2558
“เหตุผลที่ต้องมีการขยายผังเมืองเพิ่มเติมจากเดิมนั้น เพราะหัวหินเป็นเมืองที่ประทับของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว อีกทั้งยังเป็นเมืองท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงระดับโลก ถูกควบคุมต่อการพัฒนาด้วยกฎหมายที่เกี่ยวข้องถึง 3 ฉบับคือ กฎหมายควบคุมการบินของท่าอากาศยานหัวหิน กฎหมายควบคุมอาคารริมชายฝั่งทะเล และการกำหนดพื้นที่เขตพระราชฐาน ซึ่งจะกำหนดไม่ให้มีอาคารใหญ่ เป็นการควบคุมการพัฒนาเพื่อพยายามอนุรักษ์เมืองหัวหินเอาไว้”
พิเชษฐ์ กล่าวว่า การขยายผังเมืองอีก 4 เท่านั้น จะส่งผลดีต่อการพัฒนาด่านเศรษฐกิจ เพราะผังเมืองเดิมนั้น การพัฒนาอาคารขนาดใหญ่มากๆ หรือขนาดใหญ่พิเศษซึ่งมีพื้นที่เกิน 1 หมื่นตารางเมตร หรือความสูงเกิน 23 เมตร จะต้องถูกควบคุมจำกัด อีกทั้งตัวเมืองเก่าหัวหินมีปัญหาการจราจรที่แออัดช่วงวันหยุดเสาร์ อาทิตย์ และวันหยุดเทศกาลต่างๆ มี ปริมาณรถยนต์ที่เข้ามาเป็นจำนวนมาก
“ถนนเลี่ยงเมือง หรือบายพาส-ชะอำ-ปราณบุรี ลงไปสู่ภาคใต้ ซึ่งไม่ผ่านเข้าเมืองหัวหิน แนวโน้มบริเวณถนนสายเลี่ยงเมืองเส้นนี้จะมีการพัฒนาด้วยเช่นกัน การพัฒนาในเขตเมือง การจัดสรรที่ดิน การก่อสร้างอาคารขนาดใหญ่ และศูนย์การค้าต่างๆ ที่กำลังจะเกิดขึ้น จะกำหนดให้ออกมาอยู่ด้านนอกเมือง ซึ่งแกนการพัฒนาจะมี 2 เส้นหลักๆ คือ บริเวณถนนทางหลวงสายหัวหิน-หนองพลับ (ทางหลวง 3218) และบริเวณซอย 112 หัวนา มุ่งหน้าออกเส้นเลี่ยงเมือง หรือบายพาส”
พิเชษฐ์ กล่าวอีกว่า โซนเมืองเก่าหัวหินจะได้รับการอนุรักษ์พื้นที่โซนชายทะเลให้มีความเป็นระเบียบและไม่ให้เกิดความหนาแน่น ควบคุมไม่ให้มีการบุกรุกพื้นที่ลำน้ำต่างๆ การจัดสรรที่ดิน อาคารห้างสรรพสินค้า ที่จะเกิดขึ้นใหม่ๆ จะออกมารอบนอก ก็จะส่งผลทำให้ปริมาณการจราจรที่หนาแน่นในเมืองลดลงไปอีกด้วย นอกจากนี้แล้วการกำหนดพื้นที่สีเหลือง หรือพื้นที่เพื่ออยู่อาศัยนั้นก็จะมีการตัดถนนเข้าไปรองรับซึ่งมีการเขียนโครงการไว้แล้ว เมื่อเราขยายผังเมืองรัฐก็ต้องเตรียมโครงสร้างพื้นฐานด้านต่างๆ ไว้รองรับความเจริญด้วย
“ถนนที่จะเกิดขึ้นใหม่และถนนเส้นเก่าที่จะขยาย ประชาชนที่จะปลูกสร้างอาคารก็จะต้องถอยร่นออกไปจากเขตทางที่มีการกำหนด ดังนั้นท้องถิ่น เทศบาลเมืองหัวหิน อบต.ทับใต้ อบต.หินเหล็กไฟจะต้องนำเอาข้อกำหนดของผังเมืองรวมฉบับนี้ไปเป็นข้อมูลในการควบคุมอาคาร ในฐานะผู้ที่มีหน้าที่อนุมัติอนุญาต ทั้งการก่อสร้างและประกอบกิจการ ส่วนการขออนุญาตก่อสร้างโรงแรมต่างๆ ก็เป็นหน้าที่ของฝ่ายปกครอง โดยทั้งหมดจะต้องปฏิบัติให้เป็นไปตามผังเมือง”
นพพร วุฒิกุล นายกเทศมนตรีเมืองหัวหิน มองว่า หากผ่านกระบวน การที่รับฟังความคิดเห็นประชาชนจนนำไปสู่การประกาศใช้นั้น เชื่อมั่นว่าผังเมืองรวมหัวหินฉบับใหม่จะทำให้การพัฒนาเทศบาลเมืองหัวหิน เป็นไปอย่างถูกทิศทางมาก ขึ้น เพราะมีกฎหมายที่เกี่ยวข้องให้ทางท้องถิ่นมีอำนาจได้บังคับใช้ได้อย่างดี
ด้าน ศุรอัฐ ณรงค์ฤทธิ์ ประธานหอการค้าจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ก็เห็นว่า ในมุมมองของภาคเอกชนมองว่าเป็นเรื่องที่ดี เพราะจะเป็นการจัดระเบียบในเรื่องต่างๆ ให้เกิดการพัฒนาบ้านเมืองให้ดีขึ้น การขยายผังเมืองใหม่ออกไปยัง ต.ทับใต้ และ ต.หินเหล็กไฟ เป็นเรื่องที่ดี แต่ต้องอยู่ในความเหมาะสมและจะต้องไม่จำกัดสิทธิประชาชน ฝ่ายปกครองนำไปใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้การพัฒนาเมืองหัวหินเป็นไปอย่างถูกต้องต่อไป