posttoday

วสท.คาดสรุปผลตรวจความแข็งแรงตึกSCBใน 1 สัปดาห์

10 กุมภาพันธ์ 2558

วสท. ลงพื้นที่ตรวจสอบโครงสร้างอาคารสำนักงานใหญ่ ไทยพาณิชย์ ชี้จุดเสี่ยงคือ ชั้น 9-11 คาดได้ผลสรุปใน 1 สัปดาห์

วสท. ลงพื้นที่ตรวจสอบโครงสร้างอาคารสำนักงานใหญ่ ไทยพาณิชย์ ชี้จุดเสี่ยงคือ ชั้น 9-11 คาดได้ผลสรุปใน 1 สัปดาห์

เมื่อวันที่ 10 ก.พ. นายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ นายกวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ (วสท.) นำทีมผู้เชี่ยวชาญ วิศวกรชุดใหญ่ พร้อมอุปกรณ์ เข้าตรวจสอบอาคารสำนักงานใหญ่ ของธนาคารไทยพาณิชย์ ที่เกิดเพลิงไหม้เมื่อวันที่ 8 ก.พ. ที่ผ่านมา หลังจากได้รับหนังสือจากธนาคารไทยพาณิชย์ขอให้วิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทยฯ เข้าตรวจสอบความแข็งแรงโครงสร้างหลักของอาคารอย่างละเอียดอีกครั้ง ซึ่งเป็นครั้งที่ 2 จากครั้งแรก วสท. ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบเบื้องต้นกับนายการุญ จันทรางศุ วิศวกรผู้ออกแบบอาคาร แล้ว

นายสุชัชวีร์ เปิดเผยว่า เป้าหมายหลักของการตรวจสอบในครั้งนี้ คือ ดูโครงสร้างความแข็งแรงของอาคาร หลังจากเกิดเหตุเพลิงไหม้ เพราะอาคารดังกล่าวมี 34 ชั้น เหตุเกิดที่ชั้น 10 ซึ่งโครงสร้างต้องรับน้ำหนักอาคารถึง 14 ชั้น จึงต้องดูให้ลึกว่า ความร้อนส่งผลต่อเหล็กเสริมคอนกรีตภายในหรือไม่ รวมทั้งจะตรวจสอบความแข็งแรงของชั้นใกล้เคียง คือ เพดานชั้น 9 และที่พื้นชั้น 11 ซึ่งเชื่อมต่อกับพื้นที่เกิดเหตุที่ได้รับความเสียหายเช่นกัน

สำหรับวิธีการตรวจสอบความแข็งแรงของโครงสร้างอาคารนั้น วสท.ใช้การทดสอบแบบ Non-Destructive Test หรือการทดสอบแบบไม่ทำลาย เพื่อประเมินค่ากำลังอัด เช่น ใช้ค้อนเคาะ เพื่อวัดแรงกระดอนกลับ

ทั้งนี้ คาดว่าจะสามารถสรุปผลได้ภายใน 1 สัปดาห์ ซึ่งหากความเสียหายไม่มาก เชื่อว่า จะใช้เวลาปรับปรุงซ่อมแซมประมาณ 1 เดือน ซึ่งเป็นไปตามข้อกำหนดของกรุงเทพมหานคร ที่ระบุให้ดำเนินการแก้ไขซ่อมแซมภายในระยะเวลา 30 วัน แต่หากมีความเสียหายมาก ธนาคารคงต้องปิดปรับปรุงเป็นจุดๆ

อย่างไรก็ดี การตรวจสอบในครั้งนี้ไม่ได้รวมถึงระบบอุปกรณ์อัตโนมัติ เช่น ประตูอัตโนมัติ หรือระบบดับเพลิง ซึ่งอุปสรรคจะเกิดจากระบบอัตโนมัติหรือไม่ ต้องดูข้อมูลแวดล้อมร่วมด้วย แต่หากธนาคารต้องการให้ช่วยตรวจสอบ ทาง วสท. ก็ยินดีให้คำแนะนำ เพราะมีผู้เชี่ยวชาญและอุปกรณ์ที่พร้อมอยู่แล้ว

นายสุชัชวีร์ กล่าวว่า ปัจจุบันมีการก่อสร้างอาคารที่รูปร่างแปลกมากขึ้น แต่ถ้ามีระบบโครงสร้างและความปลอดภัยที่ดี อาคารนั้นก็มั่นคงได้ เพราะยิ่งอาคารรูปร่างแปลก ยิ่งต้องใส่ใจเรื่องความปลอดภัยมากเป็นพิเศษ เช่นเดียวกับอาคารที่รูปร่างง่ายๆ ก็ไม่ปลอดภัยถ้าระบบไม่ได้มาตรฐานสากล

"การตรวจสอบครั้งนี้ เราคงไม่ได้มีเป้าหมายที่สาเหตุของการเกิดอัคคีภัย เพราะการระบุสาเหตุต้องอาศัยข้อมูลหลายด้าน ทั้งนิติวิทยาศาสตร์ พิสูจน์หลักฐาน สสาร สภาพแวดล้อม พยานบุคคล แต่สิ่งสำคัญคืออยากให้บรรดาอาคารสูงระมัดระวังเรื่องความปลอดภัย หมั่นตรวจสอบระบบให้พร้อมตลอดเวลา" นายสุชัชวีร์ กล่าว