เจ้าพระยาวงษานุประพัทธ์ พระอัยกาในสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ (จบ)
หลังจากสงครามสงบแล้ว นายกรัฐมนตรีในสมัยนั้น คือนายควง อภัยวงศ์ ได้แต่งตั้งให้ ม.จ.นักขัตรมงคล กิติยากร
โดย...วิมลพรรณ ปีตธวัชชัย
หลังจากสงครามสงบแล้ว นายกรัฐมนตรีในสมัยนั้น คือนายควง อภัยวงศ์ ได้แต่งตั้งให้ ม.จ.นักขัตรมงคล กิติยากร เป็นรัฐทูตวิสามัญ และอัครราชทูตผู้มีอำนาจเต็มประจำราชสำนักเซนต์เจมส์ ประเทศอังกฤษ ม.จ.นักขัตร มงคลจึงทรงพาครอบครัวทั้งหมดไปด้วยในกลางปี 2489 ขณะนั้น ม.ร.ว.สิริกิติ์เรียนจบชั้นมัธยมปีที่ 3 ของโรงเรียนเซนต์ฟรังซีสซาเวียร์คอนแวนต์ แล้ว
ระหว่างที่พำนักอยู่ในประเทศอังกฤษ ม.ร.ว.สิริกิติ์ เรียนเปียโน ภาษาอังกฤษ และภาษาฝรั่งเศสกับครูพิเศษ แต่พำนักอยู่ที่อังกฤษได้ไม่นาน ม.จ.นักขัตรมงคลก็ทรงย้ายไปประเทศเดนมาร์กและประเทศฝรั่งเศสตามลำดับ ระหว่างนี้ ม.ร.ว.สิริกิติ์ ยังคงตั้งใจเรียนเปียโนอย่างขะมักเขม้นเพื่อเตรียมสอบเข้าวิทยาลัยการดนตรีที่มีชื่อเสียงของกรุงปารีส และทรงไปศึกษาต่อในโรงเรียนประจำที่มีชื่อเสียงด้านการสอนวิชาพิเศษแก่กุลสตรี คือภาษาศิลปะดนตรี วรรณคดี และประวัติศาสตร์ ณ เมืองโลซานประเทศสวิตเซอร์แลนด์
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ทรงหมั้นกับ ม.ร.ว.สิริกิติ์ กิติยากร เมื่อวันที่ 18 ก.ค. 2492 เมื่อครั้งเสด็จนิวัตพระนครเพื่อถวายพระเพลิงพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล พระอัฐมรามาธิบดินทร เมื่อเดือน มี.ค. 2493 นั้น ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ ม.ร.ว.สิริกิติ์ ตามเสด็จฯ ด้วย
วันที่ 28 เม.ย. 2493 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตั้งการพระราชพิธีราชาภิเษกสมรส ณ วังสระปทุม สมเด็จพระศรีสวรินทิราบรมราชเทวี พระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า ถวายน้ำพระพุทธมนต์ เทพมนต์ และทรงเจิมแด่สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และทรงรดน้ำพระพุทธมนต์ เทพมนต์ และทรงเจิมแด่ ม.ร.ว.สิริกิติ์ ในการนี้ได้ทรงจดทะเบียนสมรสตามกฎหมาย และในวันนั้นสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้ทรงสถาปนา ม.ร.ว.สิริกิติ์เป็นสมเด็จพระราชินี
วันที่ 5 พ.ค. 2493 เป็นวันพระราชพิธีบรมราชาภิเษก สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงรับเฉลิมพระบรมนามาภิไธยว่า “พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชมหิตลาธิเบศรรามาธิบดี จักรีนฤบดินทร สยามินทราธิราช บรมนาถบพิตร” และทรงสถาปนาเฉลิมพระยศสมเด็จพระราชินี ขึ้นเป็นสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินี
วันที่ 5 มิ.ย. 2493 ทั้งสองพระองค์เสด็จกลับประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เพราะแพทย์ผู้รักษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวกราบบังคมทูลแนะนำให้ทรงพักรักษาพระองค์อีกระยะหนึ่ง ต่อมาในปี 2494 สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี มีพระประสูติกาลสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี ณ โรงพยาบาลมองชัวซีศ์ เมืองโลซาน ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เมื่อเจริญพระชันษาได้ 7 เดือน ทั้ง 3 พระองค์จึงเสด็จนิวัตประเทศไทย ประทับ ณ พระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต จากนั้น สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าวชิราลงกรณฯ ซึ่งต่อมาทรงได้รับการสถาปนาเป็นสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิรินธรเทพรัตนสุดาฯ กิติวัฒนาดุลโสภาคย์ ซึ่งต่อมาทรงได้รับการสถาปนาเป็นสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์อัครราชกุมารี ได้ประสูติต่อมาตามลำดับ ณ พระที่นั่งอัมพรสถาน รวมพระราชโอรสและพระราชธิดา 4 พระองค์
ปลายปี 2498 สมเด็จพระศรีสวรินทิราบรมราชเทวี พระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า ผู้ทรงดำรงตำแหน่งสภานายิกาแห่งสภากาชาดไทยเสด็จสวรรคต พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวจึงทรงแต่งตั้งสมเด็จพระบรมราชินีให้ทรงดำรงตำแหน่งสภานายิกาสืบแทน เมื่อวันที่ 12 ส.ค. 2499 และในปีนี้เองที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จออกทรงพระผนวชตามโบราณราชประเพณี จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งสมเด็จพระบรมราชินีให้ทรงเป็นผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ และภายหลังเมื่อทรงลาพระผนวชแล้ว ได้ทรงสถาปนาพระอิสริยศักดิ์ขึ้นเป็นสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ อันมีความหมายว่าทรงเป็นที่พึ่งของประชาชน นับเป็นสมเด็จพระบรมราชินีนาถพระองค์ที่สองของไทย ต่อจากสมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถ ซึ่งทรงเป็นผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว คราวเสด็จพระราชดำเนินเยือนยุโรป
นอกจากเจ้าพระยาวงษานุประพัทธ์ จะเป็นพระอัยกาที่ได้เลี้ยงดูสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถอย่างใกล้ชิดมาตั้งแต่ทรงพระเยาว์แล้ว ยังเป็นเสนาบดีที่ได้ทำคุณประโยชน์ให้แก่ชาติบ้านเมืองไม่น้อย เป็นผู้ที่ให้ความเอาใจใส่และเห็นความสำคัญในด้านการศึกษาของเยาวชนในชาติ ดังจะเห็นได้ว่าหลังจากพระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าสายสนิทวงศ์ พระบิดาสิ้นพระชนม์ เจ้าพระยาวงษานุประพัทธ์ ได้เป็นต้นคิดในหมู่ทายาทให้นำวังของพระบิดามาก่อตั้งเป็นสถานศึกษาสำหรับสตรี โดยได้รับพระราชทานนามโรงเรียนจากพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว เมื่อปี 2459 ว่า โรงเรียนสายปัญญา อันเป็นโรงเรียนสตรีที่มีชื่อเสียงและมีอายุเกือบจะถึง 100 ปี ในเร็วๆ นี้
เจ้าพระยาวงษานุประพัทธ์ ถึงแก่อสัญกรรมเมื่อวันที่ 20 ต.ค. 2483 ด้วยไข้มาลาเรีย เบาหวานและโรคหัวใจ ศิริอายุรวม74 ปี