‘สงขลา’รอเออีซี-เขตศก.พิเศษ ดันเศรษฐกิจก้าวกระโดด
ทันทีที่รัฐบาลประกาศให้พื้นที่ชายแดนสงขลา ด่านสะเดา-ปาดังเบซาร์ เป็น 1 ใน 5 เขตเศรษฐกิจพิเศษ
โดย...วิชยันต์ บุญโชติ
ทันทีที่รัฐบาลประกาศให้พื้นที่ชายแดนสงขลา ด่านสะเดา-ปาดังเบซาร์ เป็น 1 ใน 5 เขตเศรษฐกิจพิเศษ พร้อมทั้งก่อสร้างมอเตอร์เวย์หาดใหญ่-ด่านสะเดา 64 กิโลเมตร วงเงิน 2.39 หมื่นล้านบาท เนื่องจากเป็นประตูสู่อาเซียน ด่านสะเดาและด่านปาดังเบซาร์ มีมูลค่าการค้ารวมกันในปี 2557 กว่า 488,762 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 50% ของมูลค่าการค้าผ่านด่านศุลกากรชายแดนกับประเทศเพื่อนบ้าน
เม็ดเงินลงทุนกว่า 2 หมื่นล้านบาท ซึ่งไม่เคยมีมาก่อนในรอบ 20 ปี ประจวบเหมาะกับการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี) ทำให้ จ.สงขลา ดูโดดเด่นเป็นที่หมายตาของนักลงทุน
สมพร สิริโปราณานนท์ ประธานหอการค้าจังหวัดสงขลา บอกว่า วันนี้เศรษฐกิจสงขลาได้รับผลกระทบจากราคาพืชผลการเกษตรตกต่ำมาอย่างต่อเนื่อง ชาวบ้านไม่มีเงินจับจ่าย สะท้อนมายังภาคธุรกิจการค้าที่ยังคงนิ่ง ทรงตัว ยอดจำหน่ายรถยนต์ จักรยานยนต์ ปีที่ผ่านมาติดลบ 30% ภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์มีแนวโน้มชะลอตัว การท่องเที่ยวผ่านพ้นช่วงเทศกาลปีใหม่ ตรุษจีนไปแล้ววันนี้จะมีแค่นักท่องเที่ยวชาวมาเลเซียที่เข้ามาเฉพาะช่วงวันศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ ยอดจองห้องพักราว 50% ภาพรวมเศรษฐกิจยังทรงๆ แต่ไม่ถึงกับทรุดมากนัก
ประธานหอการค้าสงขลา มองว่า การทุ่มเมกะโปรเจกต์มาลงที่สงขลา ทำให้เมืองนี้รอวันที่จะพุ่งทะยานไปข้างหน้า เพราะเป็นหัวเมืองหลักของภาคใต้เป็นประตูสู่อาเซียน เมื่อเมกะโปรเจกต์เสร็จสมบูรณ์ เราจะมีด่านชายแดนที่กว้างขวางสะดวกสบายนักท่องเที่ยวและการค้าชายแดนการคมนาคมขนส่งสินค้าผ่านแดนเพิ่มมากขึ้นจากที่เคยมี แม้วันนี้จะแออัดยังมีการค้าผ่านแดนสูงถึงปีละ 5 แสนล้านบาท และมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าออกปีละราว 3 ล้านคน
“นับถอยหลังไม่นานทุกสายตาจะต้องมองมาที่สงขลา เรายังจะมีโครงการรถไฟทางคู่ การสร้างถนนวงแหวนเลี่ยงเมือง ยิ่งเพิ่มศักยภาพให้น่าเข้ามาลงทุน โดยที่ผ่านมาการขับเคลื่อนเศรษฐกิจสงขลามี 5 ลูกสูบ คือ การเกษตร (ยางพารา) การท่องเที่ยว การค้าการเงินการธนาคาร โลจิสติกส์ และการแพทย์การศึกษา สงขลาเป็นศูนย์กลางทั้ง 5 จากนี้ไปจะเพิ่มศักยภาพให้เมืองมากยิ่งขึ้น”
ขณะที่ภาคเอกชนต่างขานรับการเปิดเออีซีและเขตเศรษฐกิจพิเศษสะเดา มีการลงทุนสร้างโรงแรมขนาดใหญ่ระดับ 4-5 ดาว สูง 30 ชั้น จำนวน 4-5 แห่ง เช่นเดียวกับพื้นที่เมืองหาดใหญ่ แม้จะมีจำนวนโรงแรมนับร้อยแห่ง มีห้องพักรวมกันกว่า 2.5 หมื่นห้อง ล่าสุดมีความเคลื่อนไหวในการผุดโรงแรมหรูเพิ่มอีกหลายแห่งเป็นโรงแรมขนาด 300-400 ห้อง
เนตร จันทรัศมี กรรมการผู้จัดการ บริษัท ศูนย์การค้าไดอาน่าคอมเพล็กซ์ เผยว่า เตรียมลงทุนนับพันล้านบาท ในหลายโครงการ อาทิ โครงการอาคารสำนักงานให้เช่า รวมพื้นที่ 6,000 ตารางเมตร ใช้เงินลงทุน 160 ล้านบาท โดยจะเริ่มก่อสร้างประมาณกลางปีนี้ เนื่องจากมองเห็นลู่ทางที่ดีหลังจากเปิดเออีซี และมีการลงทุนเมกะโปรเจกต์มาลงที่สงขลา
“บริษัทญี่ปุ่นสนใจจะมาเช่าพื้นที่ เขาต้องการขยายธุรกิจมาใน อ.หาดใหญ่ เพื่อรองรับการเติบโตการค้าและการลงทุนในอนาคต โดยเฉพาะการเปิดเออีซีในปี 2558 เนื่องจาก อ.หาดใหญ่ เป็นเมืองชายแดนติดกับประเทศเพื่อนบ้าน ทั้งมาเลเซีย สิงคโปร์ ทำให้บริษัทในส่วนกลางและต่างประเทศมีโครงการเปิดสำนักงานในภูมิภาคมากขึ้น”
ห้างไดอาน่าเป็นหนึ่งในเครือบริษัทพิธานกรุ๊ป ประกอบธุรกิจจำหน่ายรถยนต์และจักรยานยนต์ ถือเป็นบริษัทท้องถิ่นรายใหญ่ของภาคใต้มียอดขายรวมในปี 2557 ทั้งกลุ่มประมาณ 1.7 หมื่นล้านบาท ล่าสุดที่ประชุมบอร์ดใหญ่เครือพิธานกรุ๊ปเมื่อปลายปี 2557 เห็นชอบที่พิจารณาข้อเสนอจากทุกกลุ่มธุรกิจในการลงทุน เพื่อการเชื่อมต่อเออีซี แม้จะเป็นข้อเสนอจากกลุ่มธุรกิจที่แข่งขันกันอยู่ก็ตาม
“พิธานกรุ๊ป เรามีที่ดินทำเลดีๆ มากมายในหลายจังหวัดภาคใต้ ซึ่งจะได้อานิสงส์จากการเชื่อมต่อเขตเศรษฐกิจอาเซียนในปีนี้ 2558 ที่เปิดประเดิมเป็นปีแรก เรามีที่ดินขนาด 220 ไร่ ติดถนนลพบุรีราเมศวร์ จ.สงขลา ใกล้กับมัสยิดกลางสงขลา สามารถพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ได้ทุกรูปแบบ” เนตร กล่าว
ทั้งนี้ รายงานของธนาคารแห่งประเทศไทยสำนักงานภาคใต้ ระบุว่า เขตเศรษฐกิจพิเศษ อ.สะเดา เป็นพื้นที่เชื่อมโยงระดับภูมิภาค อยู่ใกล้แหล่งวัตถุดิบยางพารา ระยะทางไม่ไกลจากท่าเรือปีนังและท่าเรือกลางของมาเลเซีย ง่ายต่อการส่งออกสินค้าสำคัญ เช่น ยางแผ่นดิบและน้ำยางข้น
เขตเศรษฐกิจพิเศษสะเดามีความเหมาะสมที่สุด เมื่อเทียบกับพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษอื่นๆ ที่สามารถพัฒนาเป็น Export Processing Zone เพื่อเชื่อมโยงกับเศรษฐกิจภาคใต้ ซึ่งจะทำให้รูปแบบการผลิตและส่งออกสินค้าผ่านด่านศุลกากรชายแดนไทย-มาเลเซียจะเปลี่ยนแปลงไป