ขนส่งให้ผู้มีรถหนักเกิน2.2ตันใช้ส่วนบุคคลต้องแนบหลักฐานเพิ่ม
กรมการขนส่งให้รถบรรทุกหนักเกิน2.2ตันที่ใช้ส่วนบุคคลต้องแนบหลักฐานเพิ่มในการจดทะเบียนระบุไม่เกี่ยวรถเก๋ง-รถกระบะ
กรมการขนส่งให้รถบรรทุกหนักเกิน2.2ตันที่ใช้ส่วนบุคคลต้องแนบหลักฐานเพิ่มในการจดทะเบียนระบุไม่เกี่ยวรถเก๋ง-รถกระบะ
นายสุชาติ กลิ่นสุวรรณ รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก เปิดเผยว่า ตั้งแต่วันที่ 23 มี.ค.เป็นต้นไปรถบรรทุกส่วนบุคคลที่มีน้ำหนักตั้งแต่ 1,600 กิโลกรัม แต่ไม่เกิน 2,200 กิโลกรัม ที่เป็นรถที่ใช้ส่วนบุคคลไม่ได้ใช้เพื่อการประกอบการขนส่งสามารถยื่นขอจดทะเบียนตามพระราชบัญญัติรถยนต์ จากเดิมที่ต้องยื่นจดทะเบียนตามกฎหมายว่าด้วยการขนส่งทางบก และต้องขออนุญาตประกอบการขนส่งด้วย
ทั้งนี้เพื่อให้สอดคล้องกับเทคโนโลยีการผลิตรถยนต์ที่มีการพัฒนาจนเป็นเหตุให้รถยนต์ส่วนบุคคลมีน้ำหนักเพิ่มขึ้นกว่าเกณฑ์ที่กฎหมายว่าด้วยรถยนต์กำหนดไว้เดิมไม่เกิน 1,600 กิโลกรัมอีกทั้งเป็นการอำนวยความสะดวกให้กับประชาชนที่มีรถดังกล่าวโดยที่ไม่ได้มีไว้เพื่อการประกอบการขนส่ง
สำหรับรถยนต์นั่งและรถบรรทุกที่มีน้ำหนักเกิน 2,200 กิโลกรัม ซึ่งเป็นรถขนาดใหญ่และไม่ได้มีไว้เพื่อการประกอบการขนส่ง หากจะจดทะเบียนเป็นรถตาม พ.ร.บ.รถยนต์ต้องอยู่ภายใต้เงื่อนไขตามที่ราชการกำหนด ซึ่งผู้ขอต้องสามารถพิสูจน์ให้ได้ว่าจะใช้รถดังกล่าวเพื่อการส่วนตัวโดยแท้จริง โดยให้แนบหลักฐานเพิ่มเติมได้แก่ หลักฐานการแสดงการเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาย้อนหลัง 2 ปี หลักฐานแสดงฐานะการเงินที่มั่นคงและความจำเป็นต้องใช้รถขนาดใหญ่เพื่อการส่วนตัว ภาพถ่ายตัวรถพร้อมรายละเอียด ขนาด สัดส่วนและขนาดของรถจากบริษัทผู้ผลิต
หลักฐานแสดงที่จอดรถ ได้แก่ ภาพถ่ายสถานที่จอดรถที่มีเนื้อที่จอดรถไม่ต่ำกว่า 35 ตารางเมตร แผนที่แสดงที่จอดรถ และหนังสือรับรองการใช้รถยนต์ส่วนบุคคลตามที่ทางราชการกำหนด โดยเจ้าหน้าที่จะมีการออกตรวจสถานที่จอดรถและหลักฐานต่างๆตามที่กำหนด เพื่อป้องกันการนำรถขนาดใหญ่ เช่น รถบัส รถสิบล้อมาขอจดทะเบียนเป็นรถตาม พ.ร.บ.รถยนต์แล้วนำไปใช้ประกอบการขนส่งผิดกฎหมาย
นายสุชาติ กล่าวว่า การแก้ไขกฎหมายฉบับดังกล่าวไม่ได้ส่งผลกระทบใดๆ กับการจดทะเบียนรถยนต์ส่วนบุคคลไม่เกิน7 คน (รถเก๋ง) หรือรถบรรทุกส่วนบุคคล (รถปิคอัพ) แต่อย่างใดทั้งสิ้น โดยสามารถดำเนินการได้เช่นเดิมตามที่เคยปฏิบัติมา