ปปง.สั่งอายัดทรัพย์คดีไม้พะยูง-ค้ามนุษย์

ปปง.สั่งอายัดทรัพย์ เกี่ยวกับคดีค้าไม้พะยูง ค้ามนุษย์ ตามความผิดฐานฟอกเงิน 3 คดี รวมมูลค่ากว่า 40 ล้านบาท

เมื่อวันที่ 30 มี.ค.ที่สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ร.ต.อ.หญิง สุวนีย์ แสวงผล รองเลขาธิการปปง. ในฐานะโฆษกปปง.แถลงผลการประชุมคณะกรรมการธุรกรรม และกรณีใช้อำนาจยึดและอายัดทรัพย์ในกรณีเร่งด่วน ประกอบด้วยคดีสำคัญ 3 คดี คือ

1.คดียึดและอายัดทรัพย์นายเชียง บุญธิมา และพวก กรณีกระทำผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ลักลอบค้าไม้พะยูง ตามที่สถานีตำรวจภูธรโนนดินแดง จ.บุรีรัมย์ยื่นให้ปปง.ดำเนินการหลังพบว่า นายเชียงและพวกมีประวัติกระทำผิดและถูกจับกุมถึง 2 ครั้ง เบื้องต้นปปง.ยึดและอายัดทรัพย์ที่เกี่ยวข้องกับการกระทำผิดรวม 8 รายการ เป็นรถยนต์หลายประเภทมูลค่ากว่า 4 ล้านบาท

2.คดีที่ ปปง.มีมติให้ยึดและอายัดทรัพย์นายเสกสันต์ สีสันต์กับพวก ที่มีพฤติการณ์ลักลอบค้าไม้พะยูงในพื้นที่ จ.อำนาจเจริญ ต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 2549 จนถึงปัจจุบันโดยเป็นการลักลอบนำไม้พะยูงจาก อ.ชานุมาน และพื้นที่ใกล้เคียงมาขายให้กับนายเสกสันต์ จากนั้นนำไปขายต่อให้พ่อค้าไม้พะยูงตามแนวชายแดน ซึ่งนายเสกสันต์ถูกจับกุมมาแล้วหลายครั้งทั้งในพื้นที่ จ.อำนาจเจริญ ยโสธร และศรีสะเกษ โดยปปง.มีมติยึดและอายัดทรัพย์รวม 13 รายการ ทั้งรถบรรทุกรถ 6 ล้อ รถแบ็คโฮ รถ 10 ล้อ รถแทรกเตอร์ เจ็ทสกี มูลค่า 8 ล้านบาท

3.คดีที่ เลขาธิการปปง.มีคำสั่งอายัดทรัพย์นายผดุงศักดิ์ บุญพินิจ และนายสุทธิพงศ์ ช่วยพัฒน์ เครือข่ายกระทำผิดฐานค้ามนุษย์ด้วยการลักลอบขนแรงงานต่างด้าว ซึ่งขยายผลพบว่า มีผู้ร่วมขบวนการจำนวนมากถึง 45 คน ซึ่งความผิดเกี่ยวกับการค้ามนุษย์ถือเป็นความผิดมูลฐานฟอกเงิน ทั้งนี้จากการตรวจสอบรายงานการทำธุรกรรมและทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำ ผิดพบว่า นายผดุงศักดิ์และพวก มีทรัพย์สินที่เชื่อว่าได้จากการกระทำผิดมากถึง 121 รายการ มูลค่า 31 ล้านบาท เป็นทรัพย์ประเภทเงินฝากและสลากออมทรัพย์

รองเลขาธิการ ปปง. กล่าวถึงกรณีที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ลงพื้นที่ตรวจสอบที่ดินที่นายศุภชัย ศรีศุภอักษร อดีตประธานสหกรณ์ฯคลองจั่น ยักยอกเงินโดยการสั่งจ่ายเช็คจากสหกรณ์ฯคลองจั่น มาซื้อที่ดินและโอนขายต่อให้กับน.ส.อลิสา อัศวโภคิน บุตรสาวของนายอนันต์ อัศวโภคิน เจ้าของบริษัทแลนด์แอนด์เฮาส์ รวม 8 แปลง ราคาขาย 298 ล้านบาท ที่จ.ปทุมธานี โดยลงพื้นที่ตรวจสอบเมื่อวันที่ 27 มี.ค.ที่ผ่านมา ว่า เบื้องต้น ปปง. ยังไม่ได้รับการประสานจากชุดพนักงานสอบสวนดีเอสไออย่างเป็นทางการ ส่วนกรณีที่จะมีการดำเนินคดีเอาผิดฐานรับซื้อของโจรหรือไม่นั้น ต้องรอตรวจสอบทั้งพยานและหลักฐาน และดูเจตนาก่อนว่า รู้หรือไม่ว่าที่ดินดังกล่าวได้มาจากการกระทำความผิด ทั้งนี้ ปปง. จะตรวจสอบการซื้อหรือขายที่ดินย้อนหลังของนายศุภชัย ด้วย