สปช.เห็นชอบผลศึกษาร่างพรบ.กม.ดิจิทัล

08 เมษายน 2558

สปช.มติเห็นชอบผลศึกษาร่างพ.ร.บ.กฎหมายดิจิทัลฯ เพื่อเศรษฐกิจและสังคม

สปช.มติเห็นชอบผลศึกษาร่างพ.ร.บ.กฎหมายดิจิทัลฯ เพื่อเศรษฐกิจและสังคม

เวลา 10.00 น. วันที่ 8 เม.ย. ที่รัฐสภา มีการประชุมสภาปฏิรูปแห่งชาติ(สปช.)มีน.ส.ทัศนา บุญทอง รองประธานสปช.คนที่ 2ทำหน้าที่ประธานในการประชุม เพื่อพิจารณารายงานของคณะกรรมาธิการปฏิรูปการสื่อสารมวลชนและเทคโนโลยีสารสนเทศ เรื่องรายงานผลการพิจารณาศึกษากฎหมายดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม

นายจุมพล รอดคำดี ประธานกมธ.ฯ ชี้แจงว่าตามที่คณะรัฐมนตรี(ครม.)ได้อนุมัติและได้ผ่านความเห็นชอบต่อร่างกฎหมายชุดเศรษฐกิจดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม จำนวน 10ฉบับ แต่ยังคงค้างอยู่ในกระบวนการพิจารณาอีก 3 ฉบับ ประกอบด้วยร่างพ.ร.บ.กองทุนพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม พ.ศ....ร่างพ.ร.บ.ว่าด้วยคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ พ.ศ.... และร่างพ.ร.บ.ว่าด้วยการส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล พ.ศ....ซึ่งคณะกรรมการกฤษฏีกาเห็นว่าทั้ง 3ฉบับมีหลักการเดียวกันในการพัฒนาและส่งเสริมเทคโนโลยีดิจิทัล จึงได้นำมารวมไว้เป็นฉบับเดียวกันเป็นร่างพ.ร.บ.การพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม พ.ศ.... ซึ่งคณะอนุกรรมาธิการพิจารณากฎหมายดิจิทัลเพื่อการเศรษฐกิจและสังคม ในกมธ.ปฏิรูปการสื่อสารมวลชนฯจึงได้ศึกษาประเด็นประเด็นที่เป็นผลกระทบที่เกิดจากการบังคับใช้ร่างกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับเศรษฐกิจดิจิทัล ทั้ง 10 ฉบับ โดยเห็นว่าร่างพ.ร.บ.ทั้ง10ฉบับไม่สามารถสนับสนุนส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัลและสังคมได้เต็มที่

นายจุมพล กล่าวว่า อีกทั้งมีการจัดตั้งคณะกรรมการ สำนักงานและองค์กรขึ้นมาใหม่หลายคณะและหลายหน่วยงานแต่ยังขาดความชัดเจนในเรื่องสถานะความรับผิดชอบ และรูปแบบขององค์กรว่าเป็นหน่วยงานของรัฐหรือเอกชน ในขณะเดียวกันไม่เป็นหน่วยรับตรวจของสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน(สตง.)แต่ให้สตง.เป็น ผู้สอบบัญชีและตัดอำนาจอื่นๆอีกหลายประการที่ทำได้ และยังพบอีกว่าในการบริหารจัดการ มีการกำหนดให้สามารถถือหุ้น เข้าเป็นหุ้นส่วน หรือเข้าร่วมทุนกับบุคคลอื่นโดยไม่ต้องเข้าสู่กระบวนการหรือหลักเกณฑ์ ส่วนคุณสมบัติของผู้บริหารและคณะกรรมการ พบว่าไม่มีข้อจำกัดหรือข้อกำหนดเรื่องคุณสมบัติต้องห้ามของกรรมการผู้ทรง คุณวุฒิที่ต้องไม่เป็นผู้มีส่วนได้ส่วนเสียและไม่เป็นผู้ที่มีตำแหน่งที่ เกี่ยวข้องกับการเมือง นอกจากนี้ ร่างกฎหมายดังกล่าวทั้ง 10 ฉบับมีบท บัญญัติที่เพิ่มอำนาจหน้าที่เหมือนตำรวจของพนักงานเจ้าหน้าที่อย่างไร้ขอบ เขตและไม่มีมาตรการหรือกฎไกปกป้องสิทธิเสรีภาพของประชาชน ซึ่งขัดต่อหลักการตามรัฐธรรมนูญเกี่ยวกับการสื่อสารและการรับรู้ของประชาชน และยังขอให้ชะลอการพิจารณาร่างพ.ร.บ.กสทช. จนกว่าจะมีการประกาศใช้รัฐธรรมนูญฉบับใหม่เพื่อให้เป็นไปตามเจตนารมณ์และแนว ทางการปฏิรูป และให้คงหลักการความเป็นองค์กรอิสระของกสทช.

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สมาชิกสปช.ส่วนใหญ่อภิปรายความเห็นสนับสนุนผลการศึกษาของคณะกรรมาธิการโดยเฉพาะได้มีการอภิปรายสะท้อนการทำงานของ กสทช. ชุดปัจจุบันที่มีปัญหาหลายประการ รวมทั้งเห็นด้วยที่ให้มีการชะละร่างพ.ร.บ.กสทช.ออกไปก่อนด้วย จากนั้นที่ประชุมได้ลงมติเห็นชอบกับรายงานของกมธฯ พร้อมข้อเสนอแนะของสมาชิกด้วยคะแนน 163 ต่อ 4 งดออกเสียง 13เพื่อนำไปปรับปรุงก่อนนำเสนอครม.และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป

Thailand Web Stat