posttoday

ขงเบ้งเลือกนาย คนมีปณิธานต้องมีทางของตนเอง

19 เมษายน 2558

เด็กน้อยจูกัดเหลียงเกิดที่แถบซานตง ดินแดนบ้านเกิดแห่งนักปราชญ์ผู้ยิ่งใหญ่มาแต่โบราณ

โดย...นิติพันธ์ วิประวิทย์

เด็กน้อยจูกัดเหลียงเกิดที่แถบซานตง ดินแดนบ้านเกิดแห่งนักปราชญ์ผู้ยิ่งใหญ่มาแต่โบราณ ขงจื่อและเหลาจื่อก็เกิดที่ดินแดนแถบนี้ เด็กน้อยจูกัดเหลียงเกิดในช่วงปลายราชวงศ์ฮั่น บ้านเมืองระส่ำระสาย สงครามกลางเมืองเริ่มจากดินแดนทางเหนือค่อยๆ ลุกลามขยายตัว อายุเพียง 13 ปี บิดาก็เสียชีวิต ดินแดนซานตงเริ่มอยู่ยาก จูเก๋อเลี่ยงและพี่น้องตัดสินใจติดตามคุณลุงซึ่งโยกย้ายไปอยู่เกงจิ๋วทางใต้ อาศัยอยู่กับเพื่อนเก่า

4 ปีต่อมาลุงก็เสียชีวิตลงอีก จูกัดจิ๋นพี่ชายตัดสินใจเลือกทางเดินของชีวิตไปทำงานกับตระกูลซุนพร้อมกับพาแม่เลี้ยงไปด้วย ส่วนตัวจูกัดเหลียงกลายเป็นผู้นำครอบครัวตั้งแต่อายุ 17 ปี  ตัดสินใจย้าย
ที่อาศัยไปทำไร่ไถนาอยู่ที่เมืองหนานหยาง

หนานหยางเป็นเมืองอุดมสมบูรณ์ จึงเป็นที่หลบภัยชั้นดี โดยเฉพาะกับนักศึกษาปัญญาชน ถ้าไม่นับเมืองหลวงอย่างลั่วหยาง หนานหยางก็คือเมืองที่เฟื่องฟูที่สุดในยุคนั้น ไล่ย้อนกลับไปก่อนหน้า หนานหยางคือบ้านเกิดของฮ่องเต้ฮั่นกวงอู่ตี้ ผู้ก่อตั้งราชวงศ์ฮั่นตะวันออก เพราะฉะนั้น หนานหยางคือดินแดนที่เต็มไปด้วยเชื้อพระวงศ์เก่า

เทียบความสำคัญ ถ้าลั่วหยางเปรียบเหมือนปักกิ่ง หนานหยางก็คือเซี่ยงไฮ้

ไม่แปลกที่พระญาติพระวงศ์ และขุนนางนักปราชญ์ทั้งหลาย ต่างเลือกหลบภัยสงครามมาที่นี่ หนุ่มน้อยจูกัดเหลียงเหมือนมักน้อยสันโดษ เลือกทำไร่ไถนา แต่เบื้องหลังโลเกชั่นที่คัดสรรมาอย่างดี แสดงให้เห็นปณิธานอันยิ่งใหญ่

เลือกที่หนานหยาง เพราะนอกจากจะได้คบหาบัณฑิตนักปราชญ์ ยังได้ติดตามข่าวสารบ้านเมือง การทำไร่ไถนาในยุคนั้น ก็เพื่อบ่มเพาะข่าวสาร ซุ่มซ่อนรอคอยโอกาสอะไรบางอย่าง มิใช่สันโดษไปวันๆ ไม่เพียงจูกัดเหลียงคนเดียวที่ทำแบบนี้ เพื่อนๆ นักศึกษาทั้งหลายก็เช่นกัน

จูเก๋อเลี่ยงซุ่มซ่อนอยู่กว่า 10 ปี จนเพื่อนๆ ในวงการให้ชื่อว่า “ขงเบ้ง” มังกรหลับแห่งหุบเขาโงลังกั๋ง

แล้วโอกาสก็มาถึง เล่าปี่ ผู้นำเล็กๆ หลักลอย ถูกโจโฉยกทัพตามตีไล่หลัง มุ่งลงใต้ ต้นทุนของเล่าปี่มีอยู่ไม่กี่อย่าง ที่โดดเด่นที่สุดคือ เล่าปี่อ้างตัวว่าถ้านับญาติกับฮ่องเต้กันดีๆ แล้ว เขาคือพระเจ้าอา

แต่ชีวิตจริงไม่ใช่นิยาย ที่แค่พลิกหน้าหรือถามเรื่องย่อเอาจากเพื่อนๆ แล้วเราจะได้รู้ว่าเล่าปี่อีกหน่อยจะได้เป็นผู้ยิ่งใหญ่ แล้วขงเบ้งจะกลายเป็นกุนซือผู้มีความสามารถ

เล่าปี่ในตอนนั้น คือขุนศึกวัยกลางคนที่คอยลี้ภัยไร้ดินแดน ขงเบ้งมังกรหลับ ก็เป็นแค่เด็กหนุ่มฉายแววกลางหมู่เพื่อนๆ นักปราชญ์ จะว่าไป หากขงเบ้งเลือกที่ทำงาน ก็มีทางเลือกที่หลากหลาย โจโฉ อุปราชกุมอำนาจหลักของแผ่นดิน ซุนกวนเจ้านายที่พี่ชายทำงานอยู่ด้วย หรือแม้แต่เล่าเปียว ที่เป็นขุนนางเก่าแก่ของราชวงศ์ฮั่นที่ครองดินแดนเกงจิ๋วอยู่ ขงเบ้งจะเข้าทำงานที่ใด ก็คงไม่ลำบาก โดยเฉพาะในยุคที่ทุกคนต้องการคนมีความสามารถอย่างยุคสามก๊ก

แต่ปณิธานของขงเบ้ง แสดงออกมาจากคำพูดที่ชอบเปรียบเปรยตัวเองเป็น กว่านจ้ง เล่ออี้ สุดยอด ที่ปรึกษายุคชุนชิว

ขงเบ้งต้องการอยู่ใต้คนคนเดียวบัญชาคนนับพันเท่านั้น!

โจโฉที่ปรึกษามากมาย ซุนกวนก็เช่นกัน ส่วนเล่าเปียวนั้นก็อายุมาก ไร้ปณิธาน ลำพังต้องมานั่ง แก้ปัญหาเครือญาติในกงสี ก็ดูหาอนาคตไม่ค่อยจะได้

ขงเบ้งเลือกอยู่ในชุมชนที่สามารถสืบเสาะรู้สภาพการณ์บ้านเมืองได้อย่างดี มิได้หลบเร้นซ่อนกายมิดชิดแล้วคิดไปเองว่าบรรลุสถานการณ์ภายนอก

เขาอยู่ในหนานหยาง ท่ามกลางนักปราชญ์แห่งเกงจิ๋ว นิ่งเงียบถือสันโดษเป็นเพียง life style ไม่ใช่ปณิธาน

เขาเห็นเค้าลางว่า สักวันบ้านเมืองจะต้องแตกออกเป็นสามก๊ก ก๊กโจโฉเข้มแข็ง ล้มยาก ก๊กซุนกวนฝังรากมั่นคง จะเหลือแต่ก๊กขาลงอย่างเล่าเจี้ยง เล่าเปียวที่อาจจะหาใครเข้าไปแทนที่ได้

ใครคนนั้น น่าจะเป็นเล่าปี่ได้ เล่าปี่ที่เคยได้รับการการันตีจาก โจโฉว่า “วีรบุรุษในใต้หล้าหาใช่ใครอื่น ก็คือ ท่าน(เล่าปี่) กับข้า(โจโฉ)”ต้นทุนสำคัญที่สุดในตอนนั้นคือ ดินแดน หากเติมเต็มช่องว่างนี้ให้กับเล่าปี่ ปณิธานของตัวเองให้เป็นจริงได้เช่นกัน

ขงเบ้งไม่ใช่แมลงเม่าเข้าระเริงกับหุ้นที่เฟื่องฟู แต่กลับใช้เวลานับสิบปีเล็งซื้อหุ้นอนาคตไกล ในราคาถูกที่สุด

ขงเบ้งรู้ตัวว่าจะก้าวไปเป็นเบอร์สองของก๊กเท่านั้น จึงมุ่งเน้นเลือกเจ้านาย ไม่ใช่เลือกบริษัท เจ้านายที่เห็นความสำคัญและไว้ใจตนมากพอ อาจไม่ใช่บริษัทที่รุ่งเรืองเฟื่องฟูอยู่สบาย แต่ได้สร้างผลงาน

เลือกเข้าบริษัทที่เพียบพร้อมด้วยบุคลากรอยู่แล้วเช่นบริษัทของโจโฉ หรือซุนกวน ความสำคัญของขงเบ้ง ย่อมถูกหารเฉลี่ยไป “เป็นหัวหมาดีกว่าเป็นหางราชสีห์” สำหรับคนชอบสร้างผลงานแล้ว คือความจริงวันยังค่ำ

ความจริงกว่านั้นก็คือ การเล็งและเลือกอย่างนี้ได้ ต้องใช้การลงทุน อย่างน้อยก็เรื่องเวลารอคอย

ถ้าพลิกหน้าวรรณกรรม ดูเหมือนขงเบ้งกับเล่าปี่ แทบจะ Happy ending กันตั้งแต่แรกพบ แต่ในประวัติศาสตร์จริงแล้ว เล่าปี่หลบภัยอยู่เกงจิ๋ว 6 ปี กว่าจะได้พบปะและจับมือร่วมงานกับขงเบ้ง และขงเบ้งก็คงใช้เวลาสักพักกับการศึกษาและทำความเข้าใจกับเล่าปี่อยู่ห่างๆ

ลืมตอนกลางตอนท้ายของชีวิตเล่าปี่ ขงเบ้ง ลงเสีย แล้วจะพบว่าทั้งคู่ต่างมีความเสี่ยงในการลงทุนทั้งสิ้น โดยเฉพาะขงเบ้ง เพราะเล่าปี่ยังพอจะเปลี่ยนที่ปรึกษาได้ แต่คนมีปณิธานสูงอย่างขงเบ้ง คงไม่อยากเปลี่ยนเจ้านายเท่าไหร่นัก

วรรณกรรมบอกแค่ว่าขงเบ้งเลือกหุ้นไม่ผิดกับปณิธานตัวเอง แต่ขงเบ้งศึกษางบดุลและตัดสินใจได้อย่างไร ยังต้องอ่านระหว่างบรรทัด อย่างไรก็ดีสิ่งที่เรารู้แน่ๆ คือ ขงเบ้งเตรียมความพร้อม รอและเลือกอย่างละเอียดถี่ถ้วน

และจะว่าไปก็ไม่ง่ายเหมือนการซื้อหุ้น ที่หลังจากซื้อก็แค่ถือและอ่านสถานการณ์ ขงเบ้งยังต้องทุ่มเททั้งชีวิตให้กับเจ้านายคนนี้ ด้วยเรี่ยวแรงและสติปัญญาของตน

สถานการณ์ภายหลังจากนั้นก็ได้พิสูจน์แล้วว่า ขงเบ้งทุ่มเทให้กับเจ้านายและองค์กรนี้มากเพียงใด และเล่าปี่ไม่ได้เลือกเชื่อใจขงเบ้งแค่เพราะวันแรกที่ได้พบกัน แต่เป็นเพราะการกระทำตลอดชีวิตของขงเบ้ง

คนมีปณิธาน ย่อมต้องวางแผนและมีทางเลือกของตนเอง ไม่ว่าจะเลือกเป็นเจ้านาย หรือเลือกเป็นลูกน้องใครก็ตาม