ร้อง"ดีเอสไอ"สอบกองทุนฌาปนกิจครูไม่โปร่งใส

30ข้าราชการครูร้องดีเอสไอ ตรวจสอบกองทุนโครงการฌาปนกิจ ชี้เกิดความไม่โปร่งใส

เมื่อวันที่ 15 พ.ค. ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) นายสงกรานต์ อัจฉริยะทรัพย์ ประธานเครือข่ายต่อต้านการบ่อนทำลายชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ นำข้าราชครูประมาณ 30 คน ยื่นหนังสือร้องเรียนต่อ นางสุวณา สุวรรณจูฑะ อธิบดีดีเอสไอ ให้ตรวจสอบ โครงการการฌาปนกิจสงเคราะห์ช่วยเพื่อนครูและบุคลากรทางการศึกษา(ช.พ.ค) ร่วมกับธนาคารแห่งหนึ่ง(ธ.ออมสิน) ร่วมกันแสดงข้อความอันเป็นเท็จในการปกปิดความจริงที่ควรแจ้ง ฐานความผิดร่วมกันฉ้อโกงประชาชน

นายสงกรานต์ กล่าวว่า ตนได้รับหนังสือร้องเรียนจากข้าราชการครูทั่วประเทศ ให้ช่วยเหลือและตรวจสอบโครงการ ช.พ.ค. ว่าไม่โปร่งใส มีธนาคารรัฐแห่งหนึ่งที่เป็นผู้ให้กู้เงินโครงการ ช.พ.ค. บังคับและหลอกลวงผู้ครูผู้กู้ให้ซื้อประกันชีวิตพ่วงด้วย โดยหักจากเงินที่กู้ผ่าน  เมื่อตรวจสอบไปที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมธุรกิจประกันภัย (คปภ.) ก่อน เลขาธิการ คปภ.แจ้งกลับมาว่า ทางธนาคารดังกล่าว กับบริษัทประกันแห่งหนึ่งได้ทำประกันอุบัติเหตุ  ไม่ใช่ประกันชีวิตอย่างที่แจ้งกับครูผู้กู้ อีกทั้งไม่ให้กรมธรรม์ใดๆกลับมาให้เป็น หลักฐานด้วย มีผู้เสียหายกว่า 150,000 ราย มูลค่าความเสียหายประมาณ 2,000-4,000  ล้านบาท จึงอยากให้ดีเอสไอรับเป็นคดีพิเศษไปตรวจสอบ พร้อมจับคนผิดมาลงโทษ

ด้าน น.ส.บี (นามสมมุติ) ตัวแทนข้าราชการครูผู้เสียหายรายหนึ่ง เผยว่า ตนกู้เงินจาก ช.พ.ค.จำนวน 800,000 บาท โดยมีธนาคารออมสินเป็นผู้ปล่อยกู้ และทำสัญญาผ่อนใช้คืนเป็นเวลา 10 ปี แต่ต้องแลกกับการทำประกันชีวิต ตนก็ทำประกันไป เห็นว่ามีประโยชน์ หากผู้กู้เสียชีวิต ทางบริษัทประกันภัยจะชดใช้หนี้คืนให้ ช.พ.ค. จะไม่ลำบากครอบครัวมาใช้หนี้ต่อ โดยบริษัทประกันของธนาคารออมสินคิดเบี้ยประกันไป 40,000 บาท โดยไม่มีกรมธรรม์ให้ ต่อมาทราบจาก คปภ.ว่าเป็นประกันอุบัติเหตุ และเบี้ยประกันเพียง 1,000-2,000 พันบาท เท่านั้น มีครูทั่วประเทศกู้เงิน ช.พ.ค.จำนวนมาก และเงินส่วนต่างหลักหมื่นถึงหลักแสนที่หักไป ใครได้ไป

นางสุวณา กล่าวว่า เบื้องต้นรับหนังสือร้องเรียนไว้ก่อน หลังจากนี้จะให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง ก่อนนำเข้าที่ประชุมคณะกรรมการพิจารณา ว่าจะรับเป็นคดีพิเศษหรือไม่

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 30 มี.ค ที่ผ่านมา ดร.สุทธศรี วงษ์สมาน ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ(ศธ.) ฐานะประธานคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.) ได้สั่ง ตั้งคณะกรรมการสืบหาข้อเท็จจริง กรณี สกสค.นำเงินโครงการการฌาปนกิจสงเคราะห์ช่วยเพื่อนครูและบุคลากรทางการศึกษา (ช.พ.ค.) จำนวน 2,100 ล้านบาท ไปลงทุนกับบริษัทเอกชน ซึ่งมีการระบุว่าเป็นการนำเงินไปใช้ผิดวัตถุประสงค์ด้วย