posttoday

นายกฯไปพม่าถกผู้นำอิรวดี-เจ้าพระยา-แม่โขง

22 มิถุนายน 2558

บิ๊กตู่บินพม่าร่วมประชุมผู้นำยุทธศาสตร์ความร่วมมือทางเศรษฐกิจอิรวดี-เจ้าพระยา-แม่โขง ติดตามความคืบหน้าความร่วมมือ 8 ด้าน

บิ๊กตู่บินพม่าร่วมประชุมผู้นำยุทธศาสตร์ความร่วมมือทางเศรษฐกิจอิรวดี-เจ้าพระยา-แม่โขง ติดตามความคืบหน้าความร่วมมือ 8 ด้าน

พล.ต.วีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีมีกำหนดการเข้าร่วมการประชุมผู้นำยุทธศาสตร์ความร่วมมือทางเศรษฐกิจอิรวดี – เจ้าพระยา – แม่โขง ครั้งที่ 6 (Ayeyawaddy – Chao Phraya – Mekong Economic Cooperation Strategy: ACMECS) พร้อมผู้นำจากประเทศสมาชิกประกอบด้วย นาย ฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา นายทองสิง ทำมะวง นายกรัฐมนตรีสปป.ลาว   นายเต็ง เส่ง ประธานาธิบดีเมียนมาร์ และนายเหงียน เติ๊น สุง นายกรัฐมนตรีเวียดนาม พร้อมด้วยนายเล เลือง มินห์ เลขาธิการอาเซียน จะเข้าร่วมการประชุม ฯ  ณ กรุงเนปยิดอ สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาระหว่างวันที่ 22-23 มิ.ย.นี้

วาระสำคัญของการประชุมในครั้งนี้ คือ เพื่อให้ผู้นำได้ติดตามความคืบหน้าความร่วมมือ 8 สาขาหลักของ ACMECS และแลกเปลี่ยนวิสัยทัศน์เพื่อกำหนดทิศทางความร่วมมือร่วมกันในอนาคตต่อไป  โอกาสนี้ที่ประชุม ฯ จะรับฟังข้อเสนอจากภาคเอกชน ACMECS ด้วย

เอกสารผลลัพธ์สำคัญของการประชุม 2 ฉบับ ประกอบด้วย ปฏิญญาการประชุมผู้นำ ACMECS (Nay Pyi Taw Declaration of the Sixth Ayeyawady – Chao-Phraya – Mekong Economic Cooperation Strategy Summit) และแผนปฏิบัติการ ACMECS ปี ค.ศ. 2016-2018  (ACMECS Plan of Action 2016 - 2018)

ร่างปฏิญญากรุงเนปิดอว์การประชุมผู้นำ ACMECS ครั้งที่ 6   จะเป็นการกล่าวถึงการรับรองแผนปฏิบัติการ ACMECS ในปี 2559-2561  เป็นการแสดงเจตนารมณ์ของผู้นำที่จะส่งเสริมสันติภาพ เสถียรภาพ การพัฒนาที่ยั่งยืน และความร่วมมือใน 8 สาขา นอกจากนี้ยังสนับสนุนให้หุ้นส่วนเพื่อการพัฒนาเข้ามามีส่วนร่วมในโครงการและแผนงานต่างๆ ภายใต้กรอบ ACMECS ด้วย คือ 1 การอำนวยความสะดวกทางการค้าและการลงทุน 2  การเกษตร 3 อุตสาหกรรมและพลังงาน  4 การเชื่อมโยงทางคมนาคมขนส่ง 5  การท่องเที่ยว  6. การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์  7. สาธารณสุข และ8  สิ่งแวดล้อม

ร่างแผนปฏิบัติการ ACMECS ปี 2559-2561 มีเป้าหมายหลักเพื่อส่งเสริมการเป็นฐานการผลิตเดียวกันของอนุภูมิภาค  สนับสนุนการเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน และพัฒนาความเชื่อมโยงทางเศรษฐกิจระหว่างประเทศสมาชิก โดยระบุแผนการดำเนินการ 8 สาขาความร่วมมือดังนี้  1 การอำนวยความสะดวกทางการค้าและการลงทุน 2  การเกษตร 3  อุตสาหกรรมและพลังงาน   4 การเชื่อมโยงทางคมนาคมขนส่ง     5 การท่องเที่ยว 6 การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์  7  สาธารณสุข และ 8  สิ่งแวดล้อม

รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรียังกล่าวว่า ความร่วมมือภายใต้กรอบ ACMECS นั้นสอดคล้องกับยุทธศาสตร์สำคัญของนายกรัฐมนตรีที่มุ่งส่งเสริมให้ไทยจะเป็นศูนย์กลางของอนุภูมิภาคและอาเซียน สร้างความเข้มแข็งให้กับภูมิภาค โดยมีประชาชนเป็นศูนย์กลาง สามารถใช้ประโยชน์จากความแข็งแกร่งและความหลากหลายของทั้งห้าประเทศสมาชิกเพื่อพัฒนาอย่างสมดุล ลดช่องว่างการพัฒนาและเสริมสร้างความเชื่อมโยงระหว่างกันการค้าการลงทุน การท่องเที่ยว และการไปมาหาสู่ในระดับประชาชนระหว่างประเทศสมาชิก 

กำหนดการสำคัญของนายกรัฐมนตรี มีดังนี้  วันจันทร์ที่ 22 มิ.ย. 2558  ช่วงบ่าย  นายกรัฐมนตรีพร้อมด้วยคณะ เดินทางออกจากท่าอากาศยานทหาร 2 (กองบิน 6) โดยเครื่องบินของกองทัพอากาศ  เพื่อเดินทางไปยังกรุงเนปยิดอ สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา ในช่วงค่ำ นายเต็ง เส่ง ประธานาธิบดีเมียนมา ในฐานะประธานการประชุมเป็นเจ้าภาพงานเลี้ยงอาหารค่ำเพื่อเป็นเกียรติแก่ผู้นำ ACMECS ครั้งที่ 6 ณ ห้อง Jade Hall ชั้น 2 ศูนย์ประชุม MICC-1  

วันอังคารที่ 23 มิ.ย. 2558  ช่วงเช้า นายกรัฐมนตรีร่วม พิธีเปิดการประชุมผู้นำ ACMECS ครั้งที่6 ณ ห้อง ศูนย์ประชุม MICC-1 และร่วมการประชุมผู้นำ ACMECS ครั้งที่ 6 ในโอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีจะร่วมกล่าวถ้อยแถลงของผู้นำในประเด็น “การทบทวนความร่วมมือในกรอบ ACMECS และทิศทางความร่วมมือในอนาคต” ซึ่งที่ประชุมจะรับรองเอกสารผลลัพธ์การประชุม  2 ฉบับ ช่วงเที่ยง นายกรัฐมนตรีเข้าร่วมการประชุมระหว่างผู้นำ ACMECS และภาคเอกชน เมื่อการประชุมเสร็จสิ้นลง นายกรัฐมนตรีและคณะ เดินทางออกจากท่าอากาศยานนานาชาติเนปยิดอ สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา โดยจะเดินทางถึงท่าอากาศยานทหาร 2 (กองบิน 6) ในเวลา16.00 น. ในวันเดียวกัน

รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรียังกล่าวด้วยว่า ประโยชน์ที่ไทยได้จาก ACMECS จะอยู่บนผลประโยชน์ร่วมกันของทุกประเทศ  ประโยชน์ที่ไทยได้รับจาก ACMECS  หมายถึงประโยชน์ที่ประเทศสมาชิกอื่นๆได้รับเช่นเดียวกัน ทั้งโครงการเชื่อมโยงเส้นทางคมนาคม โครงการความร่วมมือด้านการปลูกพืชเกษตร รวมทั้งการส่งเสริมเศรษฐกิจบริเวณชายแดน ผลประโยชน์ที่ไทยและประเทศเพื่อนบ้านของไทยได้รับคือการสร้างงานสร้างรายได้ในพื้นที่ในขณะที่ไทยได้รับวัตถุดิบสำหรับอุตสาหกรรมต่างๆที่เกี่ยวข้อง

ดังนั้น ความร่วมมือภายใต้กรอบ ACMECS ช่วยส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างประเทศสมาชิกโดยอาศัยความร่วมมือทางเศรษฐกิจที่เป็นประโยชน์ นำมาซึ่งความไว้เนื้อเชื่อใจระหว่างกันซึ่งเป็นพื้นฐานสำคัญในการพัฒนาความสัมพันธ์ในทุกๆด้าน นอกจากนี้ ACMECS ยังสนับสนุนนโยบายการเปลี่ยนบทบาทจากผู้รับเป็นผู้ให้ของไทย ซึ่งเป็นยุทธศาสตร์หนึ่งของการวางตำแหน่งใหม่ของไทยในเวทีโลกเพื่อก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับประเทศด้วย

Thailand Web Stat