ดาวดิน-นศ.หน้าหอศิลป์นัดทำกิจกรรมอนุสาวรีย์ปชต.

กลุ่มนักศึกษาขบวนการประชาธิปไตยใหม่ แถลงย้ำจุดยืนไม่เอาคสช.ชู 5 ข้อให้สังคมไทยกลับคืนมา นัดทำกิจกรรมอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย 17.00 น.

เมื่อวันที่ 25 มิ.ย. ที่มูลนิธิเสฐียรโกเศศ-นาคะประทีป ที่ตั้งเลขที่ 666 ซอยเจริญนคร ระหว่าง 20 - 22 ถ.เจริญนคร แขวงบางลำภูล่าง เขตคลองสาน กทม. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กลุ่มนักศึกษาขบวนการประชาธิปไตยใหม่ นำโดยนายรังสิมันต์ หรือโรม โรม อายุ 22 ปี พร้อมด้วยนายจตุภัทร์ หรือไผ่ บุญภัทรรักษา อายุ 23 ปี ร่วมกันอ่านแถลงการณ์ภายหลังจากเมื่อวันที่ 24 มิ.ย. กลุ่มนักศึกษาพลเมืองโต้กลับและกลุ่มนักศึกษาดาวดิน ร่วมเดินทางไปยังสน.ปทุมวัน เพื่อเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารซึ่งทำการเข้าจับกุมขณะกำลังรวมตัวทำกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์หน้าหอศิลป์ เหตุเกิดเมื่อวันที่ 22 พ.ค. ที่ผ่านมา โดยมีเจ้าหน้าที่จากองค์การสหประชาชาติ หรือ ยูเอ็น เข้าร่วมสังเกตการณ์ในครั้งนี้

นายรังสิมันต์ กล่าวว่า จากเหตุการณ์เมื่อวันที่ 22 พ.ค. ที่ผ่านมา ในเขตพื้นที่กทม.และจ.ขอนแก่น ได้มีการรวมตัวของนักศึกษาและประชาชนจำนวนมาก เพื่อรำลึกถึงการทำรัฐประหารโดยใช้เวลาเพียง15 นาที โดยที่จ.ขอนแก่น มีการชูป้ายเกิดขึ้นซึ่งในวันนั้นทางคณะรัฐประหารได้มีการละเมิดสิทธิมนุษย์ชนอย่างร้ายแรงมีการทำร้ายร่างกาย พร้อมทั้งสูญเสียทรัพย์สิน หลังจากนั้นทางเจ้าหน้าที่ได้มีการใช้ข้อกล่าวหากับกลุ่มผู้ชุมนุมทางการเมือง โดยเมื่อวานที่ผ่านมา จึงรวมตัวเดินทางไปยังสน.ปทุมวัน เพื่อเรียกร้องแสดงให้เห็นว่า ผู้ที่ถูกกระทำคือฝ่ายต่อต้านการทำรัฐประหารซึ่งเป็นเหยื่อจากการใช้ความรุนแรงของทางเจ้าหน้าที่รัฐ อย่างไรก็ดีทางกลุ่มนักศึกษาก็ไม่ได้ขัดขืนเพียงแค่เดินทางมาแจ้งความกับสิ่งที่เกิดขึ้นเพียงเท่านั้นหรือทางเจ้าหน้าที่กลัวเกรงในความผิดที่ตัวเองได้ทำลงไป

นายรังสิมันต์ กล่าวต่อว่า ส่วนในวันเกิดเหตุที่หน้าหอศิลป์ กลุ่มนักศึกษาดาวดินก็มาช่วยเหลือซึ่งกันและกันเพราะพวกเราเป็นส่วนหนึ่งของการถูกละเมิดสิทธิ และถูกการทำให้ร่างกาย โดยพวกตนปฏิเสธการมีกฎหมายของคสช. ไม่เชื่อมาตรา 44 เป็นกฎหมายเพราะเป็นกบฏที่ทำผิดมาตรา 113 ซึ่งมีโทษอย่างร้ายแรงคนในสังคมก็คงทราบดีว่ากบฏต้องประหารชีวิต แต่สิ่งที่คสช. ทำคือออกคำสั่งและสร้างรัฐธรรมนูญของตนเองเพื่อใช้บังคับกับคนในสังคมและคนไทยทุกๆคน เหตุใดที่มีผู้ฝ่าฝืนกฎหมายหลายแหล่งเหล่านี้สามารถสร้างกลไกเพื่อมาบังคับใช้กับคนในสังคมเมื่อเช่นนั้นเราปฏิเสธการทำผิดกฏหมายของคสช. แล้วสิ่งที่พวกตนถูกแจ้งข้อกล่าวหาและสิ่งที่พวกเขาเรียกเรารายงานตัวเราจึงถือว่าเป็นสิ่งไม่มีอะไรเกิดขึ้นเป็นสิ่งที่ไม่ควรค่าต่อการรับฟังหรือต้องสนใจเมื่อวานพยามไม่มีการต่อรองพยายามยืนยันในหลักการที่ถูกต้อง

"อย่างไรก็ดีเหตุการณ์เมื่อวานก็ผ่านไปด้วยดีแต่คสช. ซึ่งเป็นคณะบุคคลที่อันธพาลและรุกรานพวกเรา อย่างในช่วงเช้าของวันนี้พวกเขาก็ส่งทหารนอกเครื่องแบบ และตำรวจกว่า 20 นาย คอยติดตามสถานที่เข้าออกภายในที่พักของพวกตน เพื่อไม่ให้พวกเราออกไปไหน และให้เกิดความเกรงกลัว แต่พวกเรามายืนอยู่ตรงนี้พวกเราไม่เคยกลัวและยึดมั่นในอารยะขัดขืนพวกเรายืนยันในสิ่งที่พวกเราทำว่าเป็นสิ่งที่ถูกต้อง หากพวกเราได้รับการลงทัณฑ์จากคสช. เราก็ยินดีที่จะยอมรับมันแต่การยอมรับในครั้งนี้ไม่ได้เป็นเพราะมันผิดกฎหมายแต่มันเป็นเพราะเรามี 2 มือ มีไม่กี่คน แต่ทางคสช. มีทั้งปืน และพละกำลังจำนวนคนที่มากกว่าและพวกเขาได้ใช้กำลังอย่างป่าเถื่อนที่มีการละเมิดสิทธิมนุษยชนที่จะนำพวกเราไปกักขัง และจำกัดเสรีภาพของเรา ต่อไปขอยืนยันว่าแม้พวกเราจะถูกคุมขังทั้งกายภาพและถูกละเมิดสิทธิเสรีภาพ เราจะอยู่ภายใต้กรงขังแต่จิตใจของเราก็ยังคงมีความเป็นประชาธิปไตยหวยหาความเป็นเสรีภาพ สิ่งต่อไปที่เราอยากจะนำเสนอคือหลักการ 5 ประการ" นายรังสิมันต์ กล่าว

ด้านนายจตุภัทร์ เปิดเผยว่า กลุ่มตนพร้อมที่จะถูกจับแต่ทางเราจะไม่ยอมรับผิด เนื่องจากวันที่ 22 พ.ค. 57 ที่ผ่านมา การทำรัฐประหารไม่มีความชอบธรรม หลังจากนี้กลุ่มตนจะสร้างกระบวนการประชาธิปไตยใหม่เพื่อเป็นความหวังของประเทศ โดยใช้หลักการ 5 ข้อในสังคมไทยให้กลับคืนมาประกอบด้วย หลักการประชาธิปไตย หลักการสิทธิมนุษยชน หลักการความยุติธรรม และหลักการมีส่วนร่วม  หลักการสันติวิธี ดังนั้นแม้พวกเราจะเป็นแค่กลุ่มคนเล็กๆ จากหลายภาคส่วนเราจึงอยากจะรวมตัวเพื่อที่จะสู้กับอำนาจของเจ้าหน้าที่โดยไม่ฟังเสียงของประชาชน

นายจัตุภัทร์ เผยต่อว่า กลุ่มนักศึกษาจะไม่มีวันยอมแพ้ซึ่งพวกตนรวมตัวกันภายใต้หลักประชาธิปไตยใหม่ เพื่อผนึกกำลังต่อสู้อยู่ในประเทศ จะไม่มีวันยอมเด็ดขาดเพราะฉะนั้นกระบวนการประชาธิปไตยใหม่จะต่อสู้จนโค่นล้มเผด็จการทหารเพื่อสร้างประชาธิปไตยใหม่ให้กับสังคมไทย

รายงานข่าวแจ้งว่า หลังจากนี้เวลา 17.00 น. ของวันนี้ ทางกลุ่มนักศึกษาขบวนการประชาธิปไตยใหม่ จะรวมตัวเดินทางไปยังอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เพื่อแสดงจุดยืนเรียกร้องประชาธิปไตยต่อไป