บ้านตายายกาฬสินธุ์ต่อเติมบ้านทับรังแมลง

นักวิชาการ มทร.อีสานวิทยาเขตกาฬสินธุ์ เผยปัญหาด้วงปีกแข็งบุกบ้านเป็นไปได้เกิดจากปัญหาการต่อเติมบ้านที่ไปทับรังแมลง 

ผช.ศ.วัชรินทร์  สราวิช ผู้เชี่ยวชาญด้านแมลงปีกแข็ง ผอ.กองวิจัยและพัฒนา ม.เทคโนโลยี  ราชมงคลอีสานวิทยาเขตกาฬสินธุ์ ได้เดินทางเข้าไปที่บ้านนายหนู โกมาร อายุ 83 ปี และนางสงวน โกมาน อายุ 59 ปี อาศัยอยู่บ้านเลขที่ 182 บ.น้ำพองพัฒนา หมู่ที่ 11 ต.โคกเครือ อ.หนองกุงศรี จ.กาฬสินธุ์  จากปัญหาแมลงตัวด้วงปีกแข็งที่เพิ่งจะจางหายไปจากเมื่อวานที่เป็นวันพระ แต่ในบริเวณโดยรอบบ้าน ซึ่งเป็นบ้านไม้สองชั้นยกใต้ถุนสูง และในบางส่วนได้ทำการขยายพื้นที่เป็นห้องครัว ยังคงพบแมลงด้วงปีกแข็ง เข้าหลบฝังตัวอยู่ตามเสื้อผ้า ที่นอน คอกวัวรวมไปถึงกองไม้เก่าและใหม่เป็นจำนวนมาก

ผช.ศ.วัชรินทร์  กล่าวว่า จากการตรวจสอบแมลงปีกแข็งชนิดนี้ ยืนยันว่า เป็นแมลงด้วงปีกแข็ง หรือด้วงดิน ซึ่งจะมีวงจรชีวิตตั้งแต่เป็นตัวอ่อนถึงโตเต็มวัยแล้วตายประมาณ 1 ปี แต่เท่าที่ตรวจสอบบริเวณบ้านโดยรอบของสองตา-ยาย จะเป็นบ้านที่อยู่ทายหมู่บ้าน สภาพแวดล้อมมีการทำไร่ ทำสวนตามปกติก็ไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะมีแมลงออกมาเพราะถือเป็นพื้นที่ที่มีความอุดมสมบูรณ์ แต่สิ่งที่แปลกคือจำนวนที่มากกับปัญหาของแมลงด้วง จะมีเฉพาะบ้านของตา-ยาย จึงเป็นไปได้ว่า ปัญหาการต่อเติมบ้านนั้นอาจจะไปทับกับรังของ แมลงด้วงปีกแข็ง

โดยปกติการเจริญเติบโตของ แมลงด้วงปีกแข็งจะเจริญเติบโตโดยอาศัยการฝังตัวอ่อนที่จะอยู่ในดิน ประมาณ 4-5 เดือน จากนั้นก็จะเป็นแมลงสีแดงแล้วจึงลอกคราบออกเป็นตัวด้วงปีกแข็ง ที่จะมีอายุประมาณ 1 ปี ในช่วงกลางวันก็จะหลบอยู่ในรังใต้ดินหรือตามกองไม้เก่า และเมื่อตกกลางคืนก็จะออกมาหากินแมลงตัวเล็ก ซึ่งแมลงชนิดนี้จะไม่มีพิษ แต่ให้ระวังจะเข้าหู

ผช.ศ.วัชรินทร์ กล่าวอีกว่า สิ่งที่ทำให้เชื่อว่า บ้านหลังนี้อาจจะไปก่อสร้างทับกับรังของแมลง ก็ตรงที่ว่า มีการต่อเติมบริเวณครัวออกไป จากบ้านที่แต่เดิมยกใต้ถุนสูงมีการทำครัวลึกเข้าไปอีก 5 เมตร แล้วจากการสันนิษฐานคงจะไปทับกับรังที่สร้างตัวอ่อน จึงทำให้ แมลงที่เกิดขึ้นมาโตแต่ละรุ่น ก็จะบินเข้าไปในบ้านหลังนี้ เพราะแมลงคิดว่า เป็นรังของมัน ในการแก้ไขปัญหานั้นไม่สนับสนุนที่จะให้มีการใช้สารเคมีทำการฉีดพ่นแบบกระจัดกระจายเพราะจะทำให้คนที่อยู่อาศัยได้รับพิษของสารเคมี แต่ควรที่จะกำจัดเป็นจุดๆจะดีกว่า ส่วนที่จะทำให้แมลงนั้นหมดไปได้หรือไม่คงเป็นไปไม่ได้เพราะในการต่อเติมบ้านคงจะไปทับกับรังของแมลงและก็คงจะออกมาอย่างนี้ตลอดไป ซึ่งในส่วนที่เกี่ยวกับวันพระนั้นคงจะไม่เกี่ยวกัน

ด้านนายหนู  กล่าวว่า หลังจากมีการนำเสนอข่าวออกไป ทางอ.หนองกุงศรี รวมไปถึง อบต.โคกเครือ ก็ยังคงนำเจ้าหน้าที่เข้าไปทำการกำจัดแมลงด้วงปีกแข็ง ด้วยการใช้น้ำยาสารเคมีกำจัดแมลงทุกชนิด แต่ก็ยังคงพบว่า แมลงด้วงปีกแข็ง ก็ยังคงบินเข้ามาอยู่ในบ้านเรื่อยฯ อีกทั้งในเรื่องของไสยศาสตร์ ตนก็เคยได้แต่งขัน 5 ของร้องให้ แมลงด้วงปีกแข็ง ออกจากบ้านมาแล้ว ดังนั้นก็ขอให้หาวิธีช่วยเหลือตนด้วย

สำหรับปัญหาแมลงด้วงปีกแข็ง บุกบ้านสองตา-ยาย ยังได้สร้างความหวาดกลัวให้กับชาวบ้านในระแวกใกล้เคียงที่เกรงว่า ด้วงปีกแข็ง จะทำการขยายอาณาเขตออกไป อีกทั้งยังเป็นที่วิพากวิจารณ์ไปต่างๆนานา โดยเฉพาะในเรื่องไสยศาสตร์ในบางคนก็ยังได้นำบ้านเลขที่อายุของสองตา-ยายไปตีเป็นหวยอีกด้วย