"บิ๊กโด่ง"ยันคดีระเบิดคืบหน้าขออย่าใช้สิ่งที่เห็นฟันธง
ผบ.ทบ. ยืนยัน คดีระเบิดราชประสงค์-สาทรมีความคืบหน้ามาก เจ้าหน้าที่ทำงานทุกวันไม่มีความล่าช้า วอนอย่าใช้สิ่งที่มองเห็นมาวิเคราะห์ฟันธงเพราะจะทำเสียหาย
ผบ.ทบ. ยืนยัน คดีระเบิดราชประสงค์-สาทรมีความคืบหน้ามาก เจ้าหน้าที่ทำงานทุกวันไม่มีความล่าช้า วอนอย่าใช้สิ่งที่มองเห็นมาวิเคราะห์ฟันธงเพราะจะทำเสียหาย
วันที่ 28 ส.ค. พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม และ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ถึงความคืบหน้าการสืบสวนสอบสวนเหตุระเบิดที่บริเวณศาลพระพรหม แยกราชประสงค์ และบริเวณท่าเรือสาทรว่า ขณะนี้มีความคืบหน้าไปมาก แต่ต้องยอมรับว่าคนร้ายที่ตั้งใจจะก่อเหตุ คงมีการวางแผนไว้พอสมควร เราจะเชื่อถือจากสิ่งที่เรามองคร่าวๆ แล้วมาวิเคราะห์แนวโน้ม และฟันธงลงไปเลยจะทำให้หลงทาง เพราะฉะนั้นการก้าวย่าง ในการดำเนินการ ที่จะนำเอาหลักฐานไม่ว่าจะเป็นภาพจากกล้องวงจรปิด หรือวัตถุพยานต่างๆ การวิเคราะห์ต้องมีความชัดเจน ดูให้ลึกซึ่งจริงๆ เราจะมาบอกว่านี้เหตุการณ์เกิดขึ้นมาสัปดาห์เศษแล้วเหมือนคดีไม่คืบหน้า แต่เนื่องจากมีพยานต่างๆ ที่ต่อเนื่องกันไป จากบุคคล และจุดต่างๆ เพราะฉะนั้นก็ต้องมีความเชื่อมโยงต่อไป ให้ชัดเจน ในเชิงลึกลงไปให้ได้มากที่สุด
พล.อ.อุดมเดช กล่าวว่า ตนเห็นใจเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งมีความพยายามในการสืบหาคนร้ายอย่างเต็มที่ และในวันนี้ตนก็จะกลับไปประชุมที่ศูนย์ติดตามสถานการณ์ คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่ร.1 รอ. ซึ่งมีการประชุมประจำวันทุกเช้าอยู่แล้ว
“เราต้องให้ความเข้าใจ และเห็นใจ กับทางเจ้าหน้าที่ บางท่านอาจไม่รู้ หรือรับทราบว่า การที่จะสืบหาข้อมูลแต่ละอย่าง ต้องมีความละเอียดรอบคอบจริงๆ การที่จะพูดอะไรออกมาก็อาจจะมีผลกรทบ ถ้าเกิดไม่ใช้ขึ้นมา ก็จะทำให้ประเทศชาติเสียหายได้ เพราะบางคนบอกว่าเหตุการณ์ดังกล่าว เกิดจากข้างใน หรือข้างนอก ตรงนี้สำคัญต้องระมัดระวัง และรอบคอบ จะชี้แจงอะไร ออกมาต้องมีความชัดเจนแล้วจริงๆ ซึ่งในขณะนี้ประชาชนอาจจะรู้สึกว่าฟังแล้วอาจจะไม่ชัดเจนนัก ก็ต้องเรียนว่าเราอาศัยความเชื่อมโยงหลักฐานที่มีการสาว การพัวพันธ์ จุดต่างๆ บุคคลต่างๆ หรือวัตถุพยานต่างๆ มาเพิ่มเติมจึงทำให้ใช้เวลาในการตรวจสอบเพิ่มมากขึ้น จะได้ถูกต้อง” ผบ.ทบ. กล่าว