ตร.ปากน้ำรวบแก๊งปล้นทรัพย์ก่อเหตุหลายครั้ง

สมุทรปราการ - ตำรวจแถลงจับแก๊งปล้นทรัพย์ประชาชน พบก่อเหตุหลายครั้งในพื้นที่ สารภาพนำเงินไปเสพยา

เมื่อวันที่ 8 ก.ย.  นายพินิจ หาญพาณิชย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการ พล.ต.ต.ธนา ชูวงศ์ ผบก.ภ.จว.สมุทรปราการ พ.ต.อ.ต่อพงษ์ ตันตระวาณิชย์ ผกก.สภ.เมืองสมุทรปราการ พ.ต.ท.โสภณ มงคลโสภณรัตน์ รอง ผกก.สส. พ.ต.ท.นพดล ช่างเรือน สว.สส. พ.ต.ต.ชวนินทร์ กิตติชัยวัชร์ สว.สส. พร้อมกำลัง ร่วมกันแถลงข่าว การจับกุม ผู้ต้องหาร่วมกันก่อเหตุปล้นทรัพย์อย่างต่อเนื่องหลายครั้ง

ประกอบด้วย นายพลวัต หรือเป้า ผลสวัสดิ์ อายุ 24 ปี นายวรวุฒ หรือชิน อาจหาญ อายุ 25 ปี นายธีรวัฒน์ หรือคำ ภักดีไทย อายุ 22 ปี น.ส.ขนิษฐา หรือก้อย โบราณสาร อายุ 25 ปี และ น.ส.วราพร หรือกุ๊กไก่ โคกโพธิ์ อายุ 22 ปี พร้อมของกลาง รถ จักรยานยนต์  3 คัน พระเครื่อง 47 องค์ โทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อทรู 1 เครื่อง หมวกกันน็อก 3 ใบ พร้อมเสื้อผ้าและรองเท้าของผู้ต้องหาที่ใส่ในวันก่อเหตุ

สืบเนื่องจาก เมื่อวันที่ 24 ส.ค. ที่ผ่านมาเวลาประมาณ13.20น. ได้มีคนร้ายจำนวน 4 คนร้าย ใช้รถจักรยานยนต์ก่อเหตุร่วมกันปล้นทรัพย์สร้อยคำทองคำหนัก 2 บาท จำนวน 1 เส้น พร้อมพระเลี่ยมทองเหตุเกิดที่ซ.อุ่นอารีย์ ต.ท้ายบ้านใหม่

ต่อมาวันที่ 29 ส.ค. เวลาประมาณ 14.20น.ได้มีคนร้ายจำนวน 5 คนใช้รถจักรยานยนต์จำนวน 2 คัน ก่อเหตุวิ่งราวทรัพย์ สร้อยคอทองคำหนัก 4 บาท จำนวน 1 เส้น เหตุเกิดบริเวณหลังสถานีดับเพลิง ต.ปากน้ำ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ และในวันที่ 6 ก.ย.เวลาประมาณ 20.30น. ได้มีคนร้ายจำนวน 3 คนใช้รถจักรยานยนต์ ก่อเหตุวิ่งราวทรัพย์ โทรศัพท์มือถือและพระเครื่องจำนวนหลายองค์ เหตุเกิดที่ ซ.อุ่นอารีย์ ม.2 จ.สมุทรปราการ

หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวนได้ทำการตรวจสอบที่กล้องวงจรปิดตามจุดต่างๆ และลงพื้นที่หาข่าว จนทราบกลุ่มคนร้ายที่ก่อเหตุ จึงนำกำลังบุกจับกุมผู้ต้องหาทั้ง 5 คน ขณะเปิดห้องพักในโรงแรมม่านรูด ซอยนิทราสวรรค์ ต.ปากน้ำ พร้อมของกลาง รถจักรยานยนต์และทรัพย์ที่ได้จากการก่อเหตุ

ทั้งหมดให้การรับสารภาพว่า ก่อเหตุมาแล้วในพื้นที่จังหวัดสมุทรปราการ และจังหวัดฉะเชิงเทราจำนวน 12ครั้งในรอบ 1 เดือน เมื่อได้ของกลางมาแล้วจะนำไปขายนำเงินที่ได้ไปเที่ยวเตร่ เมื่อเงินหมดก็ลงมือก่อเหตุอีก

ด้านพล.ต.ต.ธนา ชูวงศ์ ผบก.ภ.จว.สมุทรปราการ กล่าวว่า ผู้ก่อเหตุทั้งหมดรับว่า ติดยาเสพติด แต่เป็นสารระเหย เนื่องจากไม่สามารถตรวจปัสสาวะพบ จึงไม่เคยถูกจับกุมในคดีเสพ ขณะที่การดำเนินคดีเบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหาร่วมกันปล้นทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะ พร้อมเปรียบเทียบคดีย้อนหลังที่เคยก่อเหตุซึ่งได้รับสารภาพในเบื้องต้นจำนวนหลายท้องที่ ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป