"สตรีทบาร์เบอร์" เมื่อทรงวินเทจ-ร้านตัดผมในตลาดนัดกลับมาเฟื่องฟู
เมื่อร้านตัดผมแนว "สตรีทบาร์เบอร์" และทรงผมแนว "วินเทจ" กำลังมาแรงแซงทางโค้ง
เรื่องและภาพ...ศศิธร จำปาเทศ
ดูเหมือนว่า ยุคนี้คุณผู้ชายทั้งหลายเขาตัดผมกันได้ง่ายดายเหลือเกิน
เพราะการมาถึงของ ร้านตัดผมแนวสตรีทบาร์เบอร์ (Street Barber) ร้านตัดผมสไตล์อินดี้ตามตลาดนัดทั้งกลางวันและกลางคืน ตกแต่งเรียบง่าย ไม่ติดแอร์ มีเพียงเก้าอี้ตัดผม กระจกบานใหญ่ กรรไกร มีดโกน และปัตตาเลียน
เพียงเท่านี้ก็สามารถเนรมิตทรงผมออกมาได้อย่างรวดเร็ว ถูกใจ แถมได้บรรยากาศแนวๆเป็นของแถม
การกลับมาของ"วินเทจสไตล์"
ปฏิเสธไม่ได้ว่า ร้านตัดผมก็มีส่วนสร้างสีสันชีวิตชีวาให้แก่ตลาดนัดเลียบทางด่วนรามอินทรายามค่ำคืนได้เป็นอย่างดี หนึ่งในนั้นคือ 'Double เกรียน' ร้านตัดผมสไตล์ย้อนยุคที่ตกแต่งเรียบง่าย ไม่ติดแอร์ มีเพียงเก้าอี้ตัดผม กระจก กรรไกร มีดโกน และปัตตาเลียน พร้อมเปิดเพลงสากลยุค'80s คลอเคล้าบรรยากาศให้ลูกค้าเคลิบเคลิ้ม การันตีความนิยมด้วยภาพลูกค้านั่งรอคิวกันหยาวเหยียด
ภายใต้ประสบการณ์ตัดผมมานานกว่า 20 ปี ช่างตาล-ธีรทัต จันทร์สูง เล่าว่า ร้านสตรีทบาร์เบอร์ตามตลาดนัด ตามข้างถนน ได้รับความนิยมในต่างประเทศมานานแล้ว เช่นเดียวกับเมืองไทยก็มีมานานพอสมควร ทว่าเพิ่งกลับมาได้รับนิยมอีกครั้งหนึ่ง
"สมัยก่อนเราจะเห็นร้านตัดผมลักษณะแบบนี้ตามงานวัด หรือตามตลาดนัด วันนี้ความนิยมในอดีตกำลังกลับมาอีกครั้งตามวัฏจักร เหมือนกับสินค้าอื่นๆที่เราคุ้นเคยตอนเด็กๆที่หายไป และกลับมาขายใหม่อีกครั้ง”
ช่างตัดผมรายนี้ บอกว่า ทรงผมสไตล์วินเทจที่กำลังได้รับความนิยมในบ้านเรามี 3 ทรงเท่านั้น ประกอบด้วย Scumbag (ไถข้าง หวีเสยไปข้างหลังด้านหน้าตั้ง Scumbag Boogie (หวีไปด้านข้าง) และ Slicked Back (หวีเสยไปด้านหลัง)
"การตัดผมแนววินเทจเป็นงานที่ท้าทาย ต้องใช้เวลา ต้องเก็บรายละเอียดมากกว่าทรงผมธรรมดาที่บาร์เบอร์ทั่วไปก็ตัดได้ หนึ่งหัวใช้เวลาตัดประมาณ 45 นาที-1 ชั่วโมง เพราะฉะนั้นช่างต้องมีความชำนาญและใส่ใจรายละเอียด รวมทั้งให้เวลามากกว่าปกติ จึงจะทำให้ลูกค้าประทับใจฝีมือได้"
ลองไปเดินเลียบๆเคียงๆสำรวจที่ตลาดสยามยิปซี สองข้างทางอบอวลกลิ่นอายคาวบอยและดนตรีสไตล์คันทรี ที่นี่ร้านตัดผมสตรีทบาร์เบอร์ก็เรียกว่ากลายเป็นสัญลักษณ์ของตลาดไปแล้วก็ได้ และ 'BARBER DOLL' ก็เป็นร้านตัดผมที่ว่านั้น เก้าอี้ตัดผมภายในร้านสไตล์วินเทจร้านนี้แทบจะไม่ว่างเว้นจากลูกค้าเลย
บุญสืบ ทองประไพ เจ้าของร้าน 'BARBER DOLL' เผยว่า ร้านนี้เปิดให้บริการมานานกว่า 1 ปีเต็มแล้ว
"ช่วงแรกๆเปิดร้านคนเดียว ผ่านไปไม่นานก็ต้องรับช่างเพิ่ม เพราะกลุ่มลูกค้าจะทราบว่าหากต้องการจะตัดผมย้อนยุคแบบนี้จะต้องมาตลาดที่มีแนวตรงกันด้วย นั่นคือ ตลาดยิปซี ซึ่งจะมีร้านตัดผมแนววินเทจโดยเฉพาะ การเลือกทำเลที่ตั้งของร้านจึงเป็นเรื่องสำคัญไม่แพ้ฝีมือความชำนาญของช่าง"
เขามองว่า การเปิดร้านสตรีทบาร์เบอร์นั้นค่อนข้างอิสระ ไม่จำเจเหมือนร้านตัดผมทั่วไป ค่าใช้จ่ายก็ไม่สูงเท่าร้านที่เปิดบนห้างสรรพสินค้า หรือตึกแถวห้าง เพราะเน้นความเรียบง่าย สบายๆ
"การเปิดร้านสตรีทบาร์เบอร์เป็นงานที่ท้าทายมากครับ”เจ้าของร้านหนวดเรียวสวยแต่งตัวสุดเท่พูดพลางควงกรรไกรโชว์
ความท้าทายของช่างตัดผม
ถามว่าอะไรคือความยากของการตัดผมสไตล์วินเทจ? ฟลุ๊ค-กสิณ แก้วแสงศรี ช่างตัดผมประจำร้าน ซึ่งรับมรดกวิชาตัดผมที่สืบทอดมาจากรุ่นคุณยายและคุณแม่ทายาท บอกเสียงเข้ม
"ตัดผมสไตล์วินเทจจะลูกเล่นเยอะกว่าการตัดผมธรรมดา ช่างตัดผมจึงต้องขยัน และหมั่นฝึกฝนฝีมือ"
อาร์ท ช่างตัดผมสุดหล่อแห่งร้าน BARBER DOLL มองว่า ร้านตัดผมสตรีทบาร์เบอร์กำลังเป็นที่นิยมอย่างสูง ธุรกิจคงจะพุ่งแรงไปอีกไม่หยุดเพียงเท่านี้
"อาจเป็นเพราะทรงผมแนววินเทจกำลังกลับมาเป็นที่นิยม เป็นทางเลือกใหม่ของผู้ชาย เพราะผู้ชายสมัยนี้หันมาสนใจเรื่องแต่งตัวและทรงผมกันมาก"
ขณะที่ ช่างอวน-พรพรหม เหมทานนท์ กระบี่มือหนึ่งของร้าน 'Old Day 746 Barber' ร้านตัดผมแบบโอเพนแอร์ ในตลาดตะวันนา บนชั้น 7 ห้างพันธ์ทิพย์พลาซ่า งามวงศ์วาน มองว่า สำคัญที่สุดคือ ช่างตัดผมสตรีทบาร์เบอร์จะต้องเป็นตัวของตัวเอง
“บาร์เบอร์เปลี่ยนไปแล้ว ไม่ต้องแต่งตัวเรียบร้อยเหมือนสมัยก่อน ช่างตัดผมสตรีทบาร์เบอร์จะเป็นตัวของตัวเองมากกว่าแต่งตัวตามสไตล์ตัวเอง เมื่อทำงานสบายใจ ผลงานก็ออกมาดี วัยรุ่นจึงนิยมเรียนตัดผมแนวสตรีท แต่ถ้าช่างไม่มีสไลต์ที่ชัดเจน คนก็ไม่เข้าร้าน ลูกค้าก็มาจากปากต่อปาก แต่ฝีมือที่มีเอกลักษณ์ของช่างจะทำให้ร้านอยู่ได้”
ฝีมือช่างสำคัญกว่าบรรยากาศหรูหรา
หลากหลายความคิดเห็นของลูกค้าร้านตัดผมแนวสตรีทบาร์เบอร์ สะท้อนให้เห็นความเติบโตของธุรกิจที่กำลังมาแรงนี้ได้อย่างเห็นได้ชัด
แบงค์ ลูกค้าประจำของร้าน Double เกรียน ตลาดนัดเลียบด่วนรามอินทรา บอกว่า เหตุที่เขาติดอกติดใจร้านตัดผมแนวนี้ก็เพราะฝีมือ มิใช่บรรยากาศแต่อย่างใด
"ผมตัดกับช่างประจำคนนี้มา 2 ปีแล้ว ตามมาตั้งแต่ร้านอยู่แถวสยาม ผมไม่ได้ให้ความสำคัญกับร้านที่หรูหรา ฝีมือช่างสำคัญกว่าครับ"
พรชัย อรุณวัน หนุ่มใหญ่อายุ 48 ปี บอกว่า เขาเป็นเป็นคนที่ให้ความสำคัญกับทรงผมมาก
"ทรงผมที่คนนิยมตัดมาจากนักฟุตบอล หรือศิลปินนักร้อง ทุกวันนี้ผมพาลูกชายวัย 7 ขวบมาตัดด้วยเหมือนกัน ร้านที่เลือกวัดจากมาตรฐานเจ้าของร้านและช่าง เพราะถ้าเลือกร้านผิด หมายถึงพลาดและเสียความมั่นใจไปจนกว่าผมใหม่จะยาวพอให้ตัดอีกรอบ"เขาหัวเราะลั่น
เช่นเดียวกับ สรวิศ ลาภมาก กล่าวว่า ไม่นิยมเข้าร้านตกแต่งทรงผมตามห้างสรรพสินค้า แต่ชอบร้านสตรีทบาร์เบอร์สไตล์วินเทจมากกว่า
"สิ่งที่แตกต่างกันระหว่างร้านบนห้างกับร้านข้างถนนคือ ราคาและความชำนาญของช่าง ช่างสตรีทบาร์เบอร์จะชำนาญในการตัดแนววินเทจมากกว่า ที่สำคัญผมเลือกร้านที่ช่างมีสไตล์การแต่งตัวกับทรงผมตรงกับผมชอบ ไม่ได้ให้ความสำคัญว่าร้านจะต้องติดแอร์หรือหรูหราอะไรทั้งนั้น"
ความสำเร็จของร้านสตรีทบาร์เบอร์ ต้องอาศัยประสบการณ์และฝีไม้ลายมือของช่าง บวกกับสไตล์การตกแต่งร้าน สไตล์การแต่งตัวของช่างตัดผมที่โดนใจลูกค้า ทั้งหมดนี้จึงกลายเป็นเสน่ห์ที่ทำให้หลายคนตกหลุมรักร้านตัดผมแนวนี้
