"สมศักดิ์" ฟู้ดแลนด์ "80 ปี" กูรูซูเปอร์มาร์เก็ต
"ทุกวันนี้ผมยังทำงานหนัก 18 ชั่วโมงเหมือนเดิม คือ นอนเที่ยงคืน ตื่นตี 5 เดินทางไปดูฟู้ดแลนด์สาขาต่างๆ เพื่อไปพูดคุยกับพนักงานและลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการ เก็บข้อมูลที่ได้มาปรับปรุงและพัฒนาการบริการให้ดียิ่งขึ้น"
โดย...จะเรียม สำรวจ
“ฟู้ดแลนด์” ถือเป็นธุรกิจซูเปอร์มาร์เก็ตรายแรกๆ ของเมืองไทยที่เปิดให้บริการมาเป็นเวลายาวนานกว่า 40 ปีนับตั้งแต่ ค.ศ. 1972 หรือปี พ.ศ. 2515 ก่อตั้งโดย สมศักดิ์ ตีระพัฒนกุล หรือ “แฟรงค์” ชาวจีนโพ้นทะเล ซึ่งถือกำเนิดที่จีนแผ่นดินใหญ่และมาเติบโตในฮ่องกง หลังจากจบการศึกษาสูงสุดที่โรงเรียนเซนต์สตีเฟ่นส์ ฮ่องกง ก็ย้ายถิ่นฐานมาปักหลักในประเทศไทย
ก่อนที่จะก้าวเข้ามาสู่วงการธุรกิจซูเปอร์มาร์เก็ต สมศักดิ์ผ่านงานมาหลากหลายรูปแบบ แต่ที่ชื่นชอบและฝ่าฟันจนประสบความสำเร็จเป็นอย่างดีคือ ธุรกิจซูเปอร์มาร์เก็ตฟู้ดแลนด์ ด้วยความแตกต่างที่นำมาเสนอให้กับลูกค้า ไม่ว่าจะเป็นบริการ 24 ชั่วโมง สินค้าหรือบริการต่างๆ ที่มาพร้อมความซื่อสัตย์และจริงใจ จึงทำให้ฟู้ดแลนด์ยังอยู่ยั้งยืนยงได้ถึงทุกวันนี้
ปัจจุบัน สมศักดิ์ ตีระพัฒนกุล มีอายุย่างก้าวเข้าสู่วัย 80 ปีแล้ว แต่เวลาในการทำงานต่อวันของสมศักดิ์ยังคงเหมือนเดิม คือ ทำงานวันละ 18 ชั่วโมง แม้ว่าปัจจุบันจะเริ่มถ่ายงานให้กับ อธิพล ตีระพัฒนกุล ผู้เป็นบุตรชายไปบ้างแล้ว แต่ด้วยความเคยชินกับการทำงานหนักตลอดระยะเวลาหลายทศวรรษ จึงทำให้สมศักดิ์ยังคงเคยชินกับการทำอะไรด้วยตัวเอง
“ทุกวันนี้ผมยังทำงานหนัก 18 ชั่วโมงเหมือนเดิม คือ นอนเที่ยงคืน ตื่นตี 5 มาออกกำลังกาย หลังจากนั้นก็เริ่มทำงาน เดินทางไปดูฟู้ดแลนด์สาขาต่างๆ ซึ่งส่วนใหญ่จะใช้เวลาวันเสาร์-อาทิตย์ ในการเดินทางไปดูสาขา เพื่อไปพูดคุยกับพนักงานและลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการ เก็บข้อมูลที่ได้มาปรับปรุงและพัฒนาการบริการให้ดียิ่งขึ้น”
ก่อนหน้าที่สมศักดิ์จะก้าวเข้ามาสู่ธุรกิจซูเปอร์มาร์เก็ตอย่างเต็มตัว เคยผ่านการทำงานต่างๆ มามากมายกับบริษัทข้ามชาติ ไม่ว่าจะเป็นการเขียนบิลให้กับลูกค้า หรือการขายเวชภัณฑ์ ซึ่งช่วงเวลาดังกล่าวสมศักดิ์ได้มีโอกาสเดินทางไปต่างประเทศในหลายๆ ประเทศ โดยช่วงที่เดินทางไปก็ได้มีการสังเกตและหาโอกาสทางธุรกิจควบคู่ไปกับการทำงาน
หลังจากทำงานเป็นลูกจ้างให้กับบริษัทข้ามชาติเป็นเวลา 15 ปี สมศักดิ์รู้สึกเบื่อกับการเป็นลูกจ้างเลยลาออกมาทำธุรกิจของตัวเอง ด้วยความที่เป็นคนที่ชอบอะไรใหม่ๆ และชอบเข้าไปศึกษาธุรกิจซูเปอร์มาร์เก็ตในแต่ละประเทศ ไม่ว่าจะเป็น อเมริกา ยุโรป ญี่ปุ่น เกาหลี หรือฮ่องกง จึงเห็นโอกาสการทำธุรกิจซูเปอร์มาร์เก็ตในประเทศไทย เพราะช่วงเวลากว่า 40 ปีที่ผ่านมา มีเพียง เดลี่ เลน เปิดให้บริการอยู่ในย่านชิดลมเท่านั้นที่ทำธุรกิจค้าปลีกในรูปแบบซูเปอร์มาร์เก็ต
“ผมไม่คิดว่าจะเข้ามาทำธุรกิจซูเปอร์มาร์เก็ต ตอนที่ผมเริ่มต้นตอนนั้นคือปี 1972 ซูเปอร์มาร์เก็ตอยู่ในประเทศไทยมีเพียงบริษัทเดียว คือ เดลี่ เลน อยู่ชิดลม ที่ดินตรงนั้นสมัยนั้นยังเป็นคลองอยู่ ยังข้ามไปฝั่งรัชดาฯ ไม่ได้ ซึ่งในส่วนของซูเปอร์มาร์เก็ตในสมัยนั้น ส่วนใหญ่จะติดแอร์แล้วปิดประตู ทำให้คนส่วนใหญ่ไม่กล้าเข้า เพราะดูลักษณะเหมือนกับกำแพง”
เมื่อตกลงปลงใจว่าจะทำธุรกิจซูเปอร์มาร์เก็ตในประเทศไทยในปี 2515 สมศักดิ์จึงได้ตัดสินใจกับผู้ร่วมทุนอีก 7 คน เปิดซูเปอร์มาร์เก็ตสาขาแรกภายใต้ “เพลินจิต ซูเปอร์มาร์เก็ต” บนพื้นที่ 400 ตร.ม. ของ เพลินจิตอาเขต ประเดิมงบลงทุนที่ประมาณ 3 ล้านบาท ซึ่งหลังจากเปิดให้บริการก็ได้ผลการตอบรับเป็นที่น่าพอใจ โดยหลังจากเปิดให้บริการในสาขาแรกเป็นระยะเวลา 6 เดือน สมศักดิ์ก็ได้ตัดสินใจเปิดสาขาที่ 2 กับผู้ร่วมทุน 2 คน เปิดให้บริการซูเปอร์มาร์เก็ตสาขาที่ 2 ในย่านพัฒนพงษ์ ซอย 2 บริเวณอาคารจอดรถ โดยใช้ชื่อว่า “พัฒน์พงษ์ ซูเปอร์มาร์เก็ต” บนพื้นที่ 200 ตร.ม. ซึ่งจุดเด่นของทั้งสองสาขา คือเปิดให้บริการ 24 ชั่วโมง
“ช่วงเริ่มต้นเปิดใหม่ๆ ก็ลำบาก เพราะเพลินจิตอาเขตที่เข้าไปเปิดให้บริการซูเปอร์มาร์เก็ตสาขาแรกก็ไม่ดี ช่วง 2-3 ปีแรกไม่ค่อยดี เพราะติดแอร์ ประตูก็ปิด คนที่มีสตางค์ มีฐานะ เขายังไม่รู้ว่าเป็นอะไร ซึ่งในส่วนของสาขาแรกที่เปิดให้บริการ ผมไม่ได้ใช้ชื่อว่าฟู้ดแลนด์ แต่ผมใช้ชื่อว่า เพลินจิต ซูเปอร์มาร์เก็ต ซึ่งตอนนี้รื้อไปแล้ว”
หลังจากให้บริการไป 2 สาขา สมศักดิ์จึงตัดสินใจที่จะเปิดให้บริการในสาขาที่ 3 ในย่านเอกมัยในช่วง 2-3 ปีต่อมา ด้วยการไปซื้อกิจการซูเปอร์มาร์เก็ต “เดลี่ เลน” เพื่อเปิดให้บริการซูเปอร์มาร์เก็ตภายใต้ชื่อ ฟู้ดแลนด์ เป็นสาขาแรก ก่อนที่จะทยอยเปลี่ยนชื่อของทั้งสองซูเปอร์มาร์เก็ตที่เปิดให้บริการไปก่อนหน้านี้ ให้เป็นชื่อ “ฟู้ดแลนด์” เหมือนกัน เพื่อความคล่องตัวในการบริหารงาน
“เดิมเรามีหุ้นส่วน 2 กลุ่ม จากการเปิดให้บริการซูเปอร์มาร์เก็ตจำนวน 2 สาขา ที่เพลินจิตและพัฒนพงษ์ ซึ่งการมีหุ้นส่วน 2 กลุ่มใน 2 สาขา ทำให้ผมทำงานลำบากมาก จึงตัดสินใจเรียกผู้ถือหุ้นทั้งสองกลุ่มเข้ามาร่วมหารือ เพื่อรวมทั้งสองบริษัทที่ทำซูเปอร์มาร์เก็ตทั้งสองสาขา คือ บริษัท เพลินจิต ซูเปอร์มาร์เก็ต และบริษัท พัฒน์พงษ์ ซูเปอร์มาร์เก็ต เข้าด้วยกันเป็นบริษัทเดียว คือ บริษัท ฟู้ดแลนด์ ซูเปอร์มาร์เก็ต ซึ่งผู้ถือหุ้นก็ตกลงยอมอยู่ภายใต้การทำงานของบริษัทดังกล่าวตั้งแต่นั้นมา เพื่อให้การต่อรองในการซื้อสินค้าทำได้ง่ายขึ้น”
แม้ว่าผลการตอบรับซูเปอร์มาร์เก็ตของฟู้ดแลนด์จะได้ผลการตอบรับเป็นที่น่าพอใจ แต่ก็ยังไม่ดีพอสำหรับสมศักดิ์ เนื่องจากธุรกิจค้าปลีกเริ่มมีการแข่งขันกันรุนแรงมากขึ้น และถ้าอยากไปต่อก็ต้องหาผู้ที่มีความรู้ความสามารถในด้านของธุรกิจค้าปลีกเข้ามาช่วยเสริมความแข็งแกร่ง
“หลังจากเปิดให้บริการมาระยะหนึ่ง ผมมีความรู้สึกว่าตัวผมเองไม่มีความเชี่ยวชาญในด้านของธุรกิจค้าปลีกเลยจึงไปจ้างชาวฮ่องกงที่อยู่ในวงการค้าปลีกมานานกว่า 20 ปี มานั่งเป็นกรรมการผู้จัดการบริษัท โดยมีผมเป็นประธานบริษัท ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากเริ่มเปิดสาขาแรก 2 ปี”
เมื่อได้ผู้เชี่ยวชาญมากความสามารถมาร่วมทัพ พร้อมกับปรับองค์กรเพื่อให้สอดรับกับการขยายธุรกิจในอนาคต ซึ่งจากจุดเริ่มต้นของซูเปอร์มาร์เก็ตแบบห้องแถว ปัจจุบันฟู้ดแลนด์กลายเป็นซูเปอร์มาร์เก็ตขนาดใหญ่ในรูปแบบสแตนด์อะโลนที่มีพื้นที่เป็นของตัวเองรวมทั้งหมด 16 สาขา
“ช่วง 20 ปีที่ผ่านมา ทั่วประเทศไทยมีซูเปอร์มาร์เก็ตไม่เกิน 30 แห่ง แต่ปัจจุบันมีรวมหลายร้อยแห่งและหลายพันแห่ง หากเอามารวมกับร้านเซเว่นอีเลฟเว่นที่ปัจจุบันมีสาขามากกว่า 8,000 สาขา เมื่อมีคู่แข่งมากขึ้นเราก็ต้องปรับตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นในด้านของสินค้าหรือบริการ ซึ่งในแต่ละสาขาเราจะใช้พนักงานไม่ต่ำกว่า 250 คน เนื่องจากเราต้องมีพนักงานประจำทุกแผนก เพื่อคอยบริการลูกค้าตลอด 24 ชั่วโมง”
อีกหนึ่งจุดเด่นที่สมศักดิ์บอกว่าเป็นจุดแข็งของฟู้ดแลนด์ที่แตกต่างไปจากคู่แข่งในตลาด คือ สินค้า โดยเฉพาะในกลุ่มอาหาร ซึ่งสินค้าทุกรายการหลังจากซื้อมาจะต้องเอาเข้าห้องเย็น โดยเฉพาะเนื้อวัว ก่อนที่จะนำมาขายต้องแช่ห้องเย็นไว้เป็นระยะเวลา 15 วัน เพื่อให้เนื้อไม่เหนียว พอเข้าสู่วันที่ 16 ค่อยนำมาขาย เช่นเดียวกับผลไม้ หลังจากซื้อมาจะเอามาเข้าห้องแล็บ เพื่อตรวจวัดสารเคมีและคุณภาพของสินค้า
นอกจากนี้ ยังมีบริการจัดแต่งสินค้าประเภทเนื้อสัตว์เพื่อนำไปประกอบอาหาร เช่น แม่บ้านจะทำสเต๊กก็สามารถบอกพนักงานได้ว่า ต้องการความหนาและความกว้างของเนื้อสัตว์ที่จะนำไปทำสเต๊กประมาณกี่นิ้ว ซึ่งในส่วนของเนื้อสัตว์ที่นำมาจำหน่ายก็มีความหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นเนื้อวัว เนื้อหมู ไก่ กุ้ง ปู หรือปลา
แม้ว่าฟู้ดแลนด์จะมีจุดเด่นของการเป็นซูเปอร์มาร์เก็ตที่ชนะคู่แข่ง แต่ในด้านของจำนวนสาขาถือว่าขยายช้ากว่าคู่แข่งพอสมควร เพราะตลอด 44 ปีที่ผ่านมา สมศักดิ์มีจำนวนสาขาฟู้ดแลนด์ที่เปิดให้บริการเพียง 16 สาขาเท่านั้น แต่หลังจากมีคู่แข่งเพิ่มขึ้นส่งผลให้สมศักดิ์ต้องกลับมาทบทวนแผนในการขยายธุรกิจใหม่ โดยในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาได้ออกมาประกาศจะเปิดสาขาใหม่ปีละไม่ต่ำกว่า 2-3 สาขา
พร้อมกันนี้ สมศักดิ์ยังออกมาประกาศเปิดสาขาใหม่ในทำเลต่างจังหวัด เพื่อขยายอาณาจักรฟู้ดแลนด์ ซึ่งเป็นซูเปอร์มาร์เก็ตที่เปิดให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง ให้ลูกค้าในตลาดต่างจังหวัดได้รู้จักฟู้ดแลนด์มากยิ่งขึ้น โดยหลังจากออกมาประกาศแผนงานดังกล่าว สมศักดิ์มั่นใจว่าอีก 3-5 ปี ฟู้ดแลนด์จะมีรายได้ทะลุหมื่นล้านบาทแน่
ถูกดี 24 ชม.
แม้ว่าจะเปิดให้บริการมาเป็นเวลานานถึง 43 ปี แต่ฟู้ดแลนด์ก็ยังคงไว้ซึ่งคุณภาพในด้านของการบริการ ที่ปัจจุบันยังหาผู้มาแข่งขันยาก โดยจุดแข็งที่ฟู้ดแลนด์ชูเป็นจุดขายมัดใจลูกค้าในปัจจุบันมีด้วยกัน 6 ข้อ คือ
1.การเป็นซูเปอร์มาร์เก็ตที่เปิดให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง
2.การมีร้านอาหารภายในพื้นที่ซูเปอร์มาร์เก็ตที่เปิดให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง
3.การมีแผนกยา ซึ่งให้บริการโดยเภสัชกรตลอด 24 ชั่วโมง
4.การมีร้านหนังสือเปิดให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง
5.การมีร้านกาแฟเปิดให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง
6.การจับมือกับเทเลวิซ เปิดให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง
แต่ที่เห็นจะเป็นแม่เหล็กหรือแม็กเน็ต และเป็นสัญลักษณ์สำคัญของฟู้ดแลนด์คงจะหนีไม่พ้นร้านอาหารถูกและดี ที่เปิดให้บริการภายในฟู้ดแลนด์ เนื่องจากร้านอาหารนี้จะเปิดให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง ทุกเมนูจะถูกปรุงจากวัตถุดิบสดใหม่ด้วยราคาที่เหมาะสม
จุดเด่นของร้านถูกและดีจะถูกออกแบบมาในลักษณะครัวเปิด เพื่อต้องการแสดงให้ลูกค้าเห็นทุกขั้นตอนในการเตรียมอาหาร ตลอดจนถึงขั้นตอนการประกอบอาหาร ซึ่งทีมงานฟู้ดแลนด์มีความมั่นใจในการนำเสนอ โดยในส่วนของเมนูอาหารก็มีให้เลือกหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นเมนูไทย จีน หรือฝรั่ง ซึ่งลูกค้าสามารถเลือกสั่งอาหารได้หลากหลายตามความชอบ
นอกจากนี้ ร้านถูกและดียังมีชุดเมนูอาหารเช้าแบบอเมริกันในราคาพิเศษ 62 บาท ซึ่งจะเริ่มจำหน่ายตั้งแต่เวลา 05.30-09.00 น. ในตอนเช้าของทุกวัน โดยลูกค้าสามารถเลือกได้ว่าต้องการไข่คนหรือไข่ดาว เสิร์ฟพร้อมกับไส้กรอก แฮม หรือเบคอน พร้อมกับขนมปัง กาแฟ หรือชา
ขณะที่วันศุกร์ เสาร์ และอาทิตย์ ร้านอาหารถูกและดีจะมีการนำเสนอเมนูวันหยุดเป็นอาหารฝรั่งที่สลับเปลี่ยนไปในทุกอาทิตย์ ซึ่งจะมีตั้งแต่สลัดหรือซุป เมนคอร์สที่อัดแน่นด้วยคุณภาพ พร้อมกับของหวานชุดเมนูวันหยุดในราคา
ที่ย่อมเยา
สมศักดิ์ กล่าวว่า ร้านถูกและดีของเราถือเป็นอีกหนึ่งจุดต่างที่คู่แข่งไม่มี เพราะร้านอาหารเราเปิดให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง และปรุงกันแบบสดๆ นอกจากนี้ ยังมีร้านขายยาที่มีเภสัชกรให้บริการ 24 ชั่วโมง ร้านกาแฟ ร้านหนังสือ และร้านเทเลวิซที่เปิดให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง
ปัจจุบัน ฟู้ดแลนด์มีจำนวนสาขาเปิดให้บริการอยู่ที่ 16 สาขา ประกอบด้วย ปิ่นเกล้า พระราม 2 ลาดพร้าว ทองหล่อซอย 8 สุขุมวิทซอย 5 สุขุมวิทซอย 16 ศรีนครินทร์ รามอินทรา พุทธมณฑล เพชรเกษม เพชรบุรี พัทยา พัฒนพงษ์ จรัญสนิทวงศ์ หลักสี่ และหัวหมาก ซึ่งในส่วนของปีนี้มีแผนที่จะขยายสาขาใหม่เพิ่มอีก 2 แห่ง คือ พระราม 2 กม.8 และสาขาศูนย์การค้าเดอะ สตรีท ถนนรัชดาภิเษก
ขณะที่ปี 2559 มีแผนที่จะเปิดให้บริการจำนวน 3 สาขา ภายในศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 ประกอบด้วย สาขาศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 โคราช สาขาเทอร์มินอล 21 ขอนแก่น และสาขาเทอร์มินอล 21 พัทยา ซึ่งการหันมารุกขยายสาขาต่างจังหวัดมากขึ้น ถือเป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์ที่สมศักดิ์วางไว้ว่า นับจากนี้จะหันบุกตลาดต่างจังหวัดมากขึ้น เนื่องจากปัจจุบันฟู้ดแลนด์มีสาขาในตลาดต่างจังหวัดเพียง 3 สาขาเท่านั้น คือ สาขามหาชัย ถนนพระราม 2 สาขาพัทยา และสาขาพุทธมณฑล
จากแนวทางดังกล่าว สมศักดิ์ คาดว่า ในอีก 3-5 ปีนับจากนี้ จะมีรายได้จากธุรกิจฟู้ดแลนด์แตะ 1 หมื่นล้านบาท อย่างแน่นอน เพราะล่าสุดมีแผนที่จะเปิดธุรกิจร้านขนมมาเสริมทัพความแข็งแกร่งธุรกิจร้านอาหารคาวเพื่อเสริมความแข็งแกร่งธุรกิจ