คราบน้ำมันเปื้อนหาดหัวหินคลี่คลายท่องเที่ยวคึกคัก
ประจวบคีรีขันธ์-คราบน้ำมันเปื้อนหาดหัวหิน และหาดเขาเต่าคลี่คลายแล้วนักท่องเที่ยวเริ่มกลับมาคึกคัก
ประจวบคีรีขันธ์-คราบน้ำมันเปื้อนหาดหัวหิน และหาดเขาเต่าคลี่คลายแล้วนักท่องเที่ยวเริ่มกลับมาคึกคัก
เมื่อวันที่31ต.ค.58 กรณีปัญหาคราบน้ำมันปริศนาที่ถูกคลื่นซัดเข้าสู่หาดหัวหิน หาดเขาเต่า และที่วนอุทยานปราณบุรี ซึ่งวันนี้เป็นวันที่ 5 พบว่าสถานการณ์โดยภาพรวมคลี่คลายลงแล้ว ชายหาดหัวหินและหาดเขาเต่า เจ้าหน้าที่ได้เก็บขยะเปื้อนน้ำมันออกจากชายหาดจนสะอาด เหลือเพียงขยะเล็กน้อยที่ยังคงลอยในทะเล ซึ่งเจ้าหน้าที่จะเร่งดำเนินการในการจัดเก็บขยะ รวมทั้งคราบน้ำมันขนาดเล็กๆที่ยังหลงเหลือบนชายหาดออกให้ได้ทั้งหมดโดยเร็วเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาในระยะยาว
วันนี้ยังพบปูทหารจำนวนมากออกมาปั้นทรายเต็มชายหาด สำหรับปูทหารเป็นปูขนาดเล็ก มีขนาดความกว้างของกระดองไม่เกิน 1 เซนติเมตร ปูทหารเป็นปูที่หากินและอาศัยอยู่บนหาดทรายชายทะเล โดยใช้ก้ามช้อนทรายขึ้นมาที่ปากแล้วพลิกด้วยความเร็ว โดยที่ปากจะมีขนคล้ายช้อนที่จะกรองกินอาหารจำพวกซากพืชหรือซากสัตว์หรือแพลงก์ตอนในทราย พอกินจนหมดก็จะพลิกก้อนทรายทิ้งลง ทรายจึงรวมตัวมีสภาพเป็นก้อนกลม ซึ่งจะเห็นได้ทั่วไปตามหาดทราย ซึ่งเป็นเสมือนการทำความสะอาดทรายไปด้วยในตัว ซึ่งปูทหารรวมถึงสัตว์หน้าดินหลายชนิดมีความอ่อนไหวต่อสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลง การที่ปูทหารเริ่มออกมาหากินเต็มชายหาดจึงถือเป็นการส่งสัญญาณที่ดี
นายสุริยะ โกพัฒน์ตา ผู้อำนวยการสำนักงานเจ้าท่าประจวบคีรีขันธ์ พร้อมด้วย นายวัฒนา พรประเสริฐ ผู้อำนวยการส่วนอุทยานแห่งชาติ สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 สาขาเพชรบุรี และนายสมศักดิ์ กรีธาธร หัวหน้าวนอุทยานปราณบุรี ยังคงลงพื้นที่สำรวจชายหาดในหลายจุดโดยเฉพาะที่บริเวณหน้าวนอุทยานปราณบุรี ซึ่งสถานการณ์เริ่มคลี่คลายแล้วเช่นกัน หาดเริ่มมีสีขาว น้ำทะเลใสมากขึ้น แต่ยังคงพบขยะลอยอยู่ในทะเลรอการจัดเก็บอยู่
นายสุริยะ โกพัฒน์ตา ผู้อำนวยการสำนักงานเจ้าท่าประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า ขณะนี้กรมเจ้าท่าได้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาหนึ่งชุดเพื่อเร่งตรวจสอบเรื่องการลักลอบปล่อยน้ำมันลงทะเลดังกล่าว เบื้องต้นมีเพียงภาพถ่ายดาวเทียมที่บันทึกภาพคราบน้ำมันได้ แต่ยังตรวจไม่พบเรือลำเกิดเหตุ ซึ่งจากการตรวจสอบขณะนี้พบว่าเป็นคราบน้ำมันที่ถูกคลื่นซัดเข้าฝั่งไม่ใช่น้ำมันดินอย่างที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้แต่เป็นน้ำมันเตา เนื่องจากตรวจพบคุณสมบัติที่ตรงกัน ทำให้คาดว่าเรือเหล็กบรรทุกน้ำมันลำเกิดเหตุ น่าจะบรรทุกน้ำมันเตาออกจากท่าเรือและวิ่งระหว่าง จ.สมุทรสาคร และสมุทรสงคราม เพื่อจะต้องบรรทุกน้ำมันชนิดใหม่ ทำให้ต้องล้างระวางเรือ น้ำมันเตาจึงตกไปที่ท้องเรือชั้นล่าง เมื่อเกิดน้ำทะเลเข้าเรือจนถึงเกณฑ์จะมีการปล่อยน้ำทะเลทิ้งโดยอัตโนมัติซึ่งน้ำทะเลมีน้ำมันด้วยจึงเกิดปัญหา ส่วนปริมาณนั้นยังไม่สามารถคาดการณ์ได้เพราะไปปนเปื้อนกับขยะ โดยสัปดาห์หน้าจะมีการแจ้งความเพิ่มเติม คือมาตรา 204 ตาม พรบ.เดินเรือ กรณีการทิ้งสิ่งปฎิรูปและเคมีภัณฑ์ลงทะเล
อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้ทางเจ้าท่า จะเร่งประชาสัมพันธ์ขอความร่วมมือกับชาวประมงให้ช่วยกันแจ้งเหตุ หากพบเห็นการลักลอบทิ้งคราบน้ำมันลงทะเลหรือสิ่งอื่น สามารถแจ้งกรมเจ้าท่าได้ที่ หมายเลข 1199 ด้วยการจัดทำสติ๊กเกอร์ไปติดตามเรือประมงทุกลำ